วันนี้ผมได้ร่วมปรึกษาหารือกับเพื่อนร่วมงานหน่วย OD ของเรา เกี่ยวกับรูปแบบและแนวทางในการดำเนินกิจกรรม ทางงาน OD จะได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมสร้างทีมงานกับคณาจารย์ของสำนักวิชาการจัดการที่จะมีการสัมมนานอกสถานที่ตามคำเชิญที่ ผมเองก็รู้สึกประทับแทนน้อง ๆ ในหน่วย OD ไม่ได้ ที่รู้สึกว่าคณาจารย์ของสำนักวิชาการจัดการได้เห็นความสำคัญของการทำงานเป็นทีม ซึ่งโดยหลักของการบริหารแล้วการทำงานเป็นทีมถือเป็นรากฐานสำคัญหรือวัฒนธรรมองค์กรที่เป็นแก่นของการก้าวไปสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนของหน่วยงานต่าง ๆ สิ่งที่เราได้หารือกัน และเห็นแนวทางที่ดีก็คือ งาน OD ก็จะนำแนวคิดของการจัดการความรู้เข้าไปประยุกต์ใช้ในการเสริมสร้างความเข้มแข็งของทีมงาน ซึ่งก็ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนดีทีเดียว สำนักวิชาการจัดการจะนำคณาจารย์ไปสัมมนานอกสถานที่ในวันที่ 19-21พ.ค. นี้ครับ เข้าใจว่าแถว ๆ ภูเก็ตครับ ถ้ายังไงผมคิดว่าหลังจากการดำเนินกิจกรรมได้ผ่านไปแล้ว ทางงาน OD ก็คงจะได้นำผลงานมาเล่าสู่พวกเราฟังในบันทึกนี้ต่อไปครับ แต่สิ่งสำคัญที่ผมอยากจะแสดงความคิดเห็นไว้ในบันทึกนี้ ก็คือ การทำงานเป็นทีม ถือเป็นค่านิยมหรือวัฒนธรรมองค์กรที่สำคัญที่จะทำให้องค์กรหรือหน่วยงานใด ๆ จะสามารถประสบความสำเร็จและนำหน้าคู่แข่งขันได้ แต่การสร้างค่านิยมหรือวัฒนธรรมการทำงานเป็นทีมในหมู่ผู้รู้หรือนักวิชาการก็ค่อนข้างที่จะทำได้ยาก ดังนั้นสิ่งที่ท้าทายวลัยลักษณ์ของเราซึ่งเป็นองค์กรทางด้านการศึกษา และเต็มไปด้วยผู้รู้หรือนักวิชาการมากมาย ก็คือ พวกเราจะช่วยกันสร้างค่านิยมหรือวัฒนธรรมของการทำงานเป็นทีมให้เกิดขึ้นในพนักงานทุกคน ทุกสาย ได้อย่างไร ที่สำคัญผมอยากจะบอกว่า พวกเราต้องมาร่วมช่วยกันสร้าง จึงจะทำได้ครับ
เรียนท่านรองฯสมนึก
JJ นำเรื่องการ "จัดการความรู้-สึก" ของ ม.วัยลักษณ์ ไปขยายหลายแห่ง
"กินใจ ดี เหลือเกินครับ"
ทำ KM ต้อง CARE ถึง SHARE กันได้ครับ
กิจกรรมวันที่สอง
ได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากความประทับใจและภาคภูมิใจในเพื่อนร่วมงานที่ให้ความร่วมมือ
เอาจริงเอาจังในการปฏิบัติภารกิจ
สนใจที่จะเรียนรู้ในสิ่งที่ไม่เคยมีประสบการณ์ ความใส่ใจ
ทุ่มเทในการให้การช่วยเหลือนักศึกษา ติดตาม แนะนำ
ให้คำปรึกษาด้านการเรียนแก่นักศึกษา
ความภูมิใจในบุคลากรสำนักวิชาการPublic Awareness
ที่มีสำนึกในการมีส่วนร่วมในการตระหนักถึงการประหยัดพลังงาน
โดยการปิดไฟฟ้า แอร์ หลังเลิกใช้
ไม่ใช้เฉพาะตนเองแต่รวมถึงส่วนรวมด้วย
โดยการแจ้งซ่อมกรณีอุปกรณ์ชำรุดหรือการช่วยกันสอดส่องดูแลร่วมกัน
นอกจากนั้นยังได้มีการเปิดใจพูดคุยถึงประเด็นปัญหาในปัจจุบันพร้อมร่วมเสนอแนวทางแก้ไขร่วมกัน
บุคลากรในสำนักยังได้มีโอกาสพูดถึงความหวัง
ความตั้งใจต่อการทำงาน ความรู้สึกที่มีต่อกัน
บรรยากาศในการพูดคุยเป็นกันเอง
ทุกคนในสำนักวิชามีความตั้งใจในการทำงาน มีความเคารพซึ่งกันและกัน
ถ่ายทอดแนวคิดประสบการณ์การทำงานด้านการเป็นครูและชีวิตการทำงาน...บรรยากาศอบอุ่นมาก
สิ่งที่ตนเองรู้สึกประทับใจและได้เรียนรู้จากการจัดกิจกรรมสัมมนาครั้งนี้คือ
1. ได้เรียนรู้ถึงแนวคิดของการเป็นนักวิชาการที่ดีที่
ผศ.ทวีวิทย์ ได้ให้ความคิดเห็นว่า
"นักวิชาการที่ดีนอกจากจะให้ข้อสังเกตหรือข้อวิจารณ์
นักวิชาการที่ดีจะต้องเสนอแนวทางแก้ไขอย่างสร้างสรรค์
ซึ่งสิ่งนั้นจะทำให้เราก้าวไปข้างหน้าได้"
2.เรียนรู้แนวทางการจัดกิจกรรมที่ดีให้หน่วยงานคือหน่วยงานควรร่วมกับหน่วยพัฒนาองค์กรร่วมคิดให้ข้อคิดเห็น
วัตถุประสงค์
เครื่องมือที่ใช้ร่วมกันและดำเนินกิจกรรมร่วมกันตลอดกระบวนการ
ท้ายสุดต้องขอขอบคุณท่านผู้บริหารและคณะทำงานในการจัดสัมมนาสำนักการจัดการที่ให้โอกาสที่จะได้เรียนรู้
ใกล้ชิดและช่วยเหลือกันในการพัฒนางาน
ตนเองรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้สัมผัสถึงความทุ่มเท
ความเป็นกันเองของอาจารย์และพนักงานในสำนัก
ความเข้มแข็งและเหนียวแน่นของสำนักวิชาที่จะร่วมปฏิบัติภาระกิจอย่างเต็มที่
และหวังว่าความทุ่มเทและตั้งใจนี้จะทำให้สำนักประสบความสำเร็จตามที่หวังและขอเป็นกำลังใจให้กับอาจารย์และพนักงานทุกคน...สู้
สู้
(สำหรับภาพบรรยากาศการสัมมนาจะนำไปใส่ใน http://km.wu.ac.th/ ในวันจันทร์หน้านะคะ
(29 พ.ค.49)
เก็บตกภาพบรรยากาศการสัมมาสำนักการจัดการ
19-21 เมษายน 2549
ฝ่ายวางแผนและพัฒนายิ้มกันทุกคนเลยนะคะ
ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจของคณะทำงานฝ่ายกิจกรรม
ฝ่ายวิชาการที่เอาจริงเอาจัง
พี่ไก่...พนักงานที่ชาวการจัดการรู้สึกประทับใจ Service mind ยอดเยี่ยม
เป็นภาพบรรยากาศดีๆ ที่เห็นแล้วรู้สึกประทับใจมากและคิดว่าก็จะอยู่ในความทรงจำของทุกคน