เห็นหมอพรทิพย์เหนื่อยแล้วอยากเหนื่อยมั่ง



         เมื่อหลายวันที่ผ่านมาครับ ผมไปงานแถลงข่าว "ทอดผ้าป่ากรุณาแห่งหัวใจ 2552 วัด สร้างสาวิกาสิกขาลัย"
 
ที่สำนักพิมพ์ดีเอ็มจี ในครั้งนี้นอกจากการแถลงข่าวยังมีเวทีเสวนา “สถานการณ์ของคนไทยและพระสงฆ์-

ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้” ผู้เข้าร่วมเสวนาก็ประกอบด้วยแม่ชีศันสนีย์, คุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย,

คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์, พลอากาศเอก อภิสิทธิ์ จุลโมกข์ 


          โครงการทอดผ้าป่ากรุณาแห่งหัวใจ 2552 วัดสร้างสาวิกาสิกขาลัยนั้น ก็เป็นโครงการในลักษณะ -

ให้ประชาชนทั่วไปสามารถเลือกชุดผ้าป่า ซึ่งทางสำนักพิมพ์ DMG มีให้เลือก 3 แพคเกจ 3 ราคา

จ่ายเงินตามราคานั้นๆ แล้วก็ระบุไปด้วยว่าจะให้ส่งไปที่วัดไหน 

(กลุ่มเป้าหมายหลักของโครงการอยู่ที่วัด 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ตามกติกาท่านผู้ใจบุญจะส่งไปที่ไหนก็ได้)

ทุกท่านสามารถเข้าไปศึกษารายละเอียดได้ที่ เว็บไซด์ของสำนักพิมพ์ดีเอ็มจี http://www.dmgbooks.com/





          คราวนี้มาดูประเด็นเวทีเสวนา “สถานการณ์ของคนไทยและพระสงฆ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้”

ก็มีหลายคนมาร่วมเสวนา หนึ่งในนั้นก็คือ คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผมเคยเห็นท่านในโทรทัศน์

วันนี้มาเห็นตัวจริงก็ดีใจ ตัวจริงๆ ของท่านนั้น ซูบผอมมาก หน้าตาซีด ขอบตาคล้ำ ผิวไม่สดใสเลย

ท่าทางจะกรำงานหนักถึงหนักมาก แต่ทรงผมก็ยังคงเป็นเอกลักษณ์ เห็นแล้วก็รู้สึกชื่นชมและเป็นห่วง

พลางคิดในใจว่า ทำไมคุณหมอท่านนี้จึงต้องแบกอะไรไว้มากมายขนาดนี้

จะมีมไหมสามัญชนคนอื่นๆ ที่กรำงานหนักเช่นนี้ ท่านนั่งเสวนาไปเวลาที่ท่านไม่ได้พูด ท่านก็จะเหม่อ

ไม่ทราบว่าคิดถึงเรื่องอะไรอยู่ ผมดูรายการคนค้นคน พิธีกรตามติดชีวิตคุณหมอ

ผมดูแล้วงานท่านเยอะนะ แล้วไหนจะต้องมางานแถลงข่าวประเภทประมาณนี้อีก คือผมคิดว่าท่านกลายเป็นสัญลักษณ์

ของการแก้ปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปแล้ว

เวลามีอะไรเกี่ยวกับงานประเภทนี้ท่านก็จะถูกเชิญมาเสมอ หรืองานอะไรที่ต้องใช้หลักวิทยาศาสตร์

ที่ผู้จัดต้องการความน่าเชื่อถิอ ก็ไม่พ้นคุณหมอพรทิพย์อีกที่ต้องมาปรากฏตัว

ดังเช่น กรณีข่าวการตัดต่อคลิปเสียงนายก เป็นต้น


          คุณหมอกล่าวถึงชีวิตความลำบากของการทำงานของเจ้าหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งนอกจากประเด็น

ความปลอดภัยแล้ว เรื่องสวัสดิการก็เป็นอีกเรื่องที่คุณหมอบอกว่าเป็นห่วง

คุณหมอเล่าว่าเวลาที่เจ้าหน้าที่ทหารตำรวจยืนเวร รักษาความปลอดภัย เค้าจะได้น้ำหนึ่งขวดและข้าวหนึ่งกล่อง

ซึ่งกับข้าวนั้นคุณหมอเปิดเผยว่าเค้าจะทำมาเผ็ดมาก เพื่อให้อิ่มเร็วๆ กินไม่ต้องเยอะ

ประเด็นพวกความขาดแคลนพวกถุงเท้า ชุดชั้นในก็เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ค่อยมีใครมองเห็น จริงๆ เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องเล็กๆ

แต่ก็สร้างขวัญกำลังใจได้





          คุณหมอเล่าว่าการแก้ปัญหาหรือการคลี่คลายสถานการณ์นั้น ต้องอาศัยความเข้าใจ สร้างความเชื่อมั่น

ทั้งเชื่อมั่นในระบบยุติธรรม เชื่อมั่นในบุคคลที่เข้าไปปฏิบัติการและเชื่อมั่นในประชาชนในพื้นที่

ท่านเล่าว่าท่านเคยนำผู้ต้องสงสัยไปบนภูเขา ไปให้เค้าชี้ว่าฝังระเบิดไว้ที่ไหนบ้าง แรกๆ นั้น ผู้ต้องสงสัยไม่เปิดปากเลย 

แต่พอเดินไปซักพักปรากฏว่าผู้ต้องสงสัยมีอาการบากเจ็บที่เท้า คุณหมอพรทิพย์จึงก้มลงไปดูและทำความสะอาดแผล

เท่านั้นแหละครับ ผู้ต้องหายอมพาไปขุดทั้งหมด ๑๕ จุด เจอระเบิดซ่อนอยู่หมดเลย

ในงานเสวนานะครับ ผู้ดำเนินรายการยังไปแหย่ พลอากาศเอก อภิสิทธิ์ จุลโมกข์ ว่า "หากบังเอิญครั้งนั้นผู้ต้องสงสัยไป

กับทหารล้วนๆ แล้วเจ็บเท้าขึ้นมา จะเกิดอะไรขึ้นครับ"

คำแหย่นั้นเรียกเสียงฮาได้พอสมควร แม้แต่คุณหมอพรทิพย์ก็หัวเราะ แต่แววตาเฉยๆ


.....


ผมคิดนะครับ ว่าหมอพรทิพย์เหนื่อยขนาดนี้แล้วผมทำอะไรอยู่ ผมจะเหนื่อยยังไงได้บ้างเพื่อแบ่งเบาภาระของประเทศนี้ 

เมื่อครั้งรัฐบาลจัดงานแถลงผลงานในรอบ 6 เดือน มีหลายๆ กระแส บอกว่ารัฐบาลนี้ไม่มีผลงาน

ผมเข้าไปอ่านในเว็บบอร์ดของ www.manager.co.th มีผู้อ่านท่านหนึ่งมาแสดงความคิดเห็นว่า 

"จะว่าคุณอภิสิทธิ์ไม่มีผลงานก็ไม่ถูกซะทีเดียว ถึงแม้ว่ารูปธรรมหรือ Out put จะเห็นไม่ชัดก็ไม่ใช่ว่าไม่มีผลงาน

เพราะการไม่ทุจริต หรือการยับยั้งโครงการรถเมย์ NGV หรือ ถนนปลอดฝุ่น

รวมถึงกิจกรรมทางการเมืองอื่นๆ ที่มีแนวโน้มในการทุจริต กรณีนี้ก็ถือว่าเป็นผลงานได้"

(ประเด็นทางการเมืองนี้ผมอ้างตามสื่อนะครับ ไม่ทราบข้อเท็จจริง)


......


แล้วผู้อ่านคิดว่ายังไงดีครับ จะทำหรือไม่ทำอะไร เพื่อแบ่งเบาภาระของชาติได้บ้าง


 

หมายเลขบันทึก: 292785เขียนเมื่อ 30 สิงหาคม 2009 22:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 เมษายน 2012 16:13 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

สงสารคุณหมอพรทิพย์อยู่เหมือนกัน

ท่านเหมือนเป็นสัญลักษณ์ของนิติเวชศาสตร์ไปแล้ว

และก็เหมือนจะแบกทุกเรื่องที่ต้องสืบสวนด้วยทางนิติเวช

สาขานี้กำลังขาดแคลน สนใจมั๊ยคะ อิ อิ

สวัสดีค่ะคุณอาจารย์บิเวอร์

  • ขอบคุณนะค่ะที่แวะเข้าไปเยี่ยมชมผู้สูงวัย
  • ก่อนจะพูดมากเขียนมาก(ก็เท่าอายุแหละค่ะ)ต้องขอชื่นชมคุณอาจารย์น่ะดูในภาพยังหนุ่มมาก คิดได้อย่างไร..ทำอะไร..ได้มากขนาดนี้..ถ้าคนหนุ่มอย่างท่านคิดได้ คิดเป็นอย่างคุณอาจารย์ประเทศไทยคงก้าวลำชาติอื่นใดในเอเซียนี้แน่นอน
  • ในภาระที่คิดว่าอยากจะทำในวันข้างหน้าอันใกล้ตั้งใจจะเออร์รี่ ปี๕๕
  • อดวิตกไม่ได้ว่าเราจะว่างเกินไปไหม
  • ก็เตรียมๆไม่ให้คัวเองว่างเกินไป นี่แค่เตรียมเกษียณ มีโอกาสได้เข้าไปแวะอ่าน ชมโน่นนี่ บ้านนั้นทีบ้านนี้ที
  • แต่เอ...มีคนอื่นเตรียมไปได้ไกลกว่าดิฉันอีก
  • นี่ดิฉันเตรียมแค่ว่าตัวเองอยากจะเกษียณ แด่พอนึกขึ้นมา..
  • เอเกษียณแล้วเราจะเป็นจะอยู่อย่างไร จะเหงาไหม..
  • ก็แค่คิดว่า..เตรียมหาอะไรทำหลังเกษียณ
  • เวลานี้ต้องมาถึงแน่นอน..ยังไม่คิด..ก่อนตาย
  • มีอะไรที่เรายังไม่ได้ทำ อยากทำก็จงทำ..เสียเถิด
  • บังเอิญพอมีโชคอยู่บ้างทรัพย์ที่เตรียมไว้ทำเป็นมรดกของบิดา..น้องชายเป็นวิศวกรอยู่ที่กสท.เขาก็จะสนับสนุนเกี่ยว internet แต่..มันเป็นเรื่องใหญ่น่ะจึงต้องรอบคอบให้มาก
  • ประกอบกับคู่ครองก็ไม่ขัดศรัทธา ปล่อยให้(เรา)คิดไป แต่พอถึงเวลาเขาก็คงต้องช่วยเราแหละ
  • ลูกก็..สำหรับดิฉันผู้เป็นแม่คิดว่าเหมือนมีเทพมาอุ้มสม(หมายถึงรับภาระเรื่องงานหลังเรียนจบ)มารับหน้าที่ต่อจากเราไป
  • คนโตเรียนจบแล้ว..ทำงานแล้ว ดูแลน้องแทนแม่ได้ในระดับหนึ่ง ก็ได้แต่ภาวนาให้เขาเป็นเด็กดีเช่นนี้ตลอดไป
  • คนเล็กกำลังเรียน เขาชอบไปทางศิลปะ..มติของครอบครัวก็อนุมัติให้เขาเรียนต่อที่ ม.กรุงเทพ (นิเทศศาสตร์)(เห็นคุณอาจารย์เป็นคนเก่งและจริงจังมากกับงานเลยกับคนอื่นไม่เคยพูดเลยว่าคนเล็กเรียนที่ไหน ประวัติยาวมากนี่ถ้าอยู่ทำงานนานกว่านี้..เอก็ดีสมัยนี้มีเครื่องช่วยบันทึก..อย่างงี้ผู้ปกครองคงปลื้มไม่น้อย..)
  • เราคิดว่าพอมองเห็นทางในอนาคตของเขา(คนเล็ก)บ้างแล้ว
  • ตัวดิฉันเองผู้เป็นแม่ก็อยากจะทำอะไรที่มีความชอบ..และน่าจะถึงเวลาที่ต้องทำ ก่อน..จะหมดเวลา...ที่ทุกคนไม่มีใครซื้อหามาต่อ(เวลา)ให้กับตัวเองได้
  • เมื่อนึกอะไรได้ก็ต้องขวนขวายรีบทำ ทั้งนี้และทั้งนั้นก็ต้องรอบคอบที่สุด..เพื่อความสุขสงบที่แท้จริง..
  • ที่จะปฏิเสธไม่ได้คงยึดแนวทางขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในบริบทที่ว่า..ความพอเพียงนั่นแหละจ๊ะ

บทความนั่นเอามาจากหน้งสือของคุณพ่อผู้ล่วงลับไปแล้ว ยังมีอีกเยอะที่คนสมัยอย่างเราบางทีก็ไม่เคยรู้ .....ว่าง..แล้วจะเขียนต่อ....หากเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการรู้...

ขอบคุณมากนะครับ คุณพ่อผมเป้นทหารก็เออรี่ เหมือนกัน คิดเป็นห่วงเสมอว่า ท่านจะว่างไปหรือไม่

แต่ท่านว่าจะไปช่วยงาน อบต. เลยเบาใจไปได้ส่วนหนึ่ง

แต่อีกส่วนหนึ่งที่ไม่ได้ดังหวังคือ ชวนคุณพ่อมาเขียนประสบการณ์การทำงานใน Gotoknow ไม่ได้

...

ประสบการณ์เยอะลองเขียนดูนะครับ คนอย่างผมจะรออ่านเพื่อเรียนรู้ครับ

ค่ะฉันชื่นชอบทหารมาก เราเป็นคนที่ชอบคนในเครื่องแบบมาก เช่น ทหาร ตำรวจ ภูธร ต.ช.ด เป็นต้นขอให้พวกอาหรือพี่ๆๆๆ ปลอดภัย

  • สวัสดีค่ะ
  • แวะมาสวัสดีปีใหม่ค่ะ มีสุขภาพกายแข็งแรง สุขภาพใจเข้มแข็ง ให้มีแต่ความสุขตลอดปี และตลอดไปนะค่ะ
  • ขอบคุณค่ะ

สวัสดีปีใหม่ทุกท่าน ขอบคุณครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท