ตอนแรกที่ได้หนังสือฉบับนี้มาอยากอ่านมากเลย แต่ว่าก็จนปัญญาที่จะที่อ่าน เพราะว่าเป็นภาษาญี่ปุ่น กว่าจะหาฉบับที่ภาษาอังกฤษ ได้ก็นานพอดู (ใจจริงอยากได้ภาษาไทยถามไปทางโซนี่ไทย ไม่มีใครตอบได้เลย) อ่านไปอ่านมาหลายวันแล้ว แต่ยังไม่จบดี เพราะว่าเยอะมาก 75 หน้าอ่านแล้วอยากจะอ้วก ออกมาเป็นภาษาอังกฤษเลย
หลายวันผ่านไป อาการเหมือนเมาเรือเพราะอ่านภาษาอังกฤษมากไป แต่สามารถก็อ่านผ่านๆ จนจับใจความได้มากพอสมควร จากเมื่อก่อนผมเองคิดว่า โซนี่ ยังคงเป็นบริษัทญี่ปุ้น.....ญี่ปุ่น แต่พออ่านไปได้หน่อย ก็เขาใจว่า ณ วันนี้ โซนี่ เติบโต เป็นบริษัทอินเตอร์ อย่างเต็มตัวเลย เพราะมี Chairman และ CEO เป็นฝรั่ง และแนวคิดแบบอินเตอร์มากกกกกกก
การทำ CSR (Corporate Social Responsibility) เองก็คิด ซะอินเตอร์มากกกกกซึ่งได้คิดมองถึงภาพรวมถึงสังคมรอบๆ ตัวทั้งหมดโดยเรียกว่า Stakeholders แปลเป็นไทยไม่ถูกเลย แต่มันหมายถึง คนที่เกี่ยวเนื่องกับบริษัท โดนรวมตั้งแต่ ลูกค้า พนักงาน ผู้ถือหุ้น คู่ค้า ผู้ถือหุ้น ชุมชนโดยรอบ ฯลฯ สรุปก็คือ คนทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับบริษัทนั้นเอง
การทำ CSR นั้นนับได้ว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก ในบริษัทเลยทีเดียว เนื่องจากต้องบรรจุเอาไว้ในระดับนโยบายของบริษัทเลยทีเดียว เพราะว่าต้องคิดทำร่วมมือกันทำทั้งองค์กรเลย ทุกแผนกทุกคนในองค์กรต้องเข้าใจ
ล่าสุดปีนี้ 2549 ได้ทราบข่าวมาว่า โซนี่ ได้ประกาศที่จะใช้วัตถุดิบที่ปลอดสารพิษ ซึ่งยังงงอยู่ว่าจะทำอย่างไร เท่าที่เรียนมามันมีพวกโลหะหนักเป็นส่วนประกอบจำนวนมากเลยในการทำแผงวงจรไฟฟ้า
ต่อตอนหน้าแล้วกัน วันนี้กลับไปทำงานต่อก่อนดีกว่า