KM เป็นเครื่องมือนำไปสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้ (LO) เป็นแนวคิดที่พูดกันอย่างกว้างขวางในการสัมมนาคุณเอื้อที่บ้านผู้หว่าน ดิฉันเคยคิดว่าการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้นั้น หนทางไปสู่นั้นยาวไกลมาก แต่หลายท่านบอกว่าสามารถทำได้ กรณีบริษัทโตโยต้าก็ดำเนินการจัดการความรู้โดยเนียนไปกับงานปกติ จนกล่าวได้ว่าเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ ก็ใช้เวลามากเหมือนกัน ไม่ได้มาโดยง่ายและรวดเร็ว
ขออ้างบทความของอาจารย์ประพนธ์ ผาสุกยืด ในหนังสือ "ถักทอสายใยแห่งความรู้" ฉบับที่ 17 (มีค.-เมย. 2549) ซึ่งท่านได้อ้างถึง Peter Senge ในหนังสือ The fifth Discipline ว่าองค์กรแห่งการเรียนรู้นั้น พัฒนามาจาก 5 Discipline หลัก คือ
1. Shared vision - สร้างวิสัยทัศน์ร่วมกัน
2. Team Learning - การเรียนรู้เป็นทีม
3. Personal Mastery - ความใฝ่รู้พัฒนาปรับปรุงตน
4. Mental Model - การฝึกฝนทำความเข้าใจในเรื่องกรอบความคิด
5. System Thinking - การคิดที่เชื่อมโยงเป็นระบบ
เมื่อเรามาดูแล้วการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้นั้น จะต้องดำเนินการให้บรรลุหลัก 5 ประการดังกล่าวแล้ว KM เป็นเครื่องมือหนึ่งที่นำไปสู่ LO ข้อที่ 1 และ 2 อาจจะไม่ยากเท่าใดนัก สำหรับข้อ 3-5 นั้น ขึ้นอยู่กับพื้นฐานและประสบการณ์ของบุคลากรซึ่งในองค์กรก็มีบุคลากรเหล่านั้นอยู่แล้ว แต่จะทำอย่างไรให้ทุกภาคส่วนตั้งแต่ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่วิชาการ เจ้าหน้าที่สนับสนุนเข้ามาร่วมมือกันด้วยความกระตือรือร้น ดิฉันมีความคิดว่าจะมีหนทางทำได้ จุดเริ่มต้นมีความสำคัญมากว่าเราจะเริ่มอย่างไร จะเริ่มที่ใครก่อน เป็นการวางรากฐาน แล้วหากมีจุดเริ่มต้นแล้ว ดิฉันเชื่อว่าจะสามารถทำไปได้ แต่มีข้อแม้ว่า ต้องมีการเปิดช่องทางให้เดิน เหมือนกับที่ ดร.ประพนธ์ ได้ให้ความรู้เรื่องคัมภีร์ "เต้าเต๋อจิว" เขียนโดยเล่าจื้อว่า
"เดินทางไกลนับพันลี้ เริ่มจากก้าวแรก"
และต้องอาศัยทีมงานที่เข้มแข็งเพื่อการก้าวเดิน "ก้าวแรก" และร่วมมือร่วมใจเพื่อสร้างองค์กรของเราให้ก้าวหน้าต่อไป