ผมได้มีโอกาสได้พบผู้คนดี ๆ หลายคนในงานของ มสส. ต่อเนื่องจากบันทึกก่อน แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับมูลนิธิสดศรี ตอนที่ 1 : แนะนำตัวด้วยภาพ
บรรยากาศการแลกเปลี่ยน
ผมได้พบ 2 สาวจาก รพ.สมเด็จพระยุพราชปัว จอย กับ ไก่ 2 สาว/2 แนวแต่สิ่งที่เหมือนกันคือความมุ่งมั่นในการทำความดี
จอยเล่าพร้อมน้ำตาแห่งความปิติในเรื่องราวแห่งความดี
จอยเป็นพยาบาลหอผู้ป่วย เล่าถึงเรื่องการดูแลรายหนึ่ง เป็นหญิงชรา ไม่มีบ้านต้องอาศัยใต้ถุนอนามัยเป็นเรือนนอน...ไม่มีญาติพี่น้อง...ประสบอุบัติเหตุน้ำร้อนลวกครึ่งตัว(เนื่องจากตามองไม่ค่อยเห็นหุงข้าวเองเลยน้ำร้อนลวก) ต้องส่งไปรักษาต่อที่ รพ. น่าน แต่ไม่มีใครตามไปดูแลที่ รพ. น่าน
เธอรู้สึกว่าต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อช่วยเหลือคุณยาย...เธอคุยกับเจ้าหน้าที่ สอ-หาทางติดต่อ อบต.-เลี่ยไรเงินบริจาค จนพอที่จะหาคนดูแลคุณยายที่รพ. น่านได้ ...ไม่จบแค่นั้น หลังจากนั้นยังหาทางประสานจนคุณยายมีที่อยู่ที่สถานสงเคราะห์ที่เชียงใหม่
น้องไก่/สนใจอ่าน blog ลมหายใจมีไว้เพื่อผู้ป่วย
เธอเป็นพยาบาล ICU เธอเล่าถึงเรื่อง ศพพลัดถิ่น (ลองเข้าไปอ่านได้นะครับ) โดยสรุปเธอได้พบว่าพี่น้องชาวลาวที่มาเสียชีวิตใน ICU มีมากและไม่มีเงินค่าทำศพ เธอมองว่า มนุษย์ควรได้รับการเคารพเท่าเทียมกันไม่ว่าเชื้อชาติใด...เธอได้ทำสิ่งที่เธอถนัดอีกอย่างคือ "การเล่นดนตรี" เธอชวนเพื่อนเล่นดนตรีเปิดหมวกหาเงินสนับสนุน...สุดท้ายได้เชิญคุณพงศ์เทพ กระโดนชำนาญมาเปิด concert ได้เงินมาตั้งกองทุนช่วยเหลือศพพลัดถิ่น (ถ้ายังไงน้องไก่เข้ามาแก้ไขนะครับว่าเป็นพี่หมู หรือ พี่หงา ผมไม่แน่ใจ?)
ผมพบ 2 คนนี้ทำให้ผมระลึกถึงพี่หมอเอก ผอ.รพ. ที่ผมมีโอกาสพบถึง 2 ครั้ง
ครั้งแรกผมไป รพ. ปัว (ไกลมากครับพี่น้อง..ขับรถไปเอง) โดยไปทำกระบวนการ "เพชิญความตายอย่างสงบ"ร่วมกับพุทธิกา โดยการนำของ พระไพศาล วิศาโล
ครั้งที่ 2 เป็นกระบวนการจิตวิวัฒน์ของอาจารย์วิธาน
คิดในใจว่า "พี่เอกโชคดีมากที่มีลูกน้องดี ๆ อย่างนี้" ผมรู้สึกว่า รพ. ปัว เป็นโรงพยาบาลมีบุคคลากรที่มีคุณภาพทางจริยธรรมอย่างมากมายหลายคน
key word ของความสำเร็จน่าจะใช้คำว่า " ผู้จัดการความดี" นั่นคือ 2 สาวอำนวยการให้เกิดวงความดีในองค์กร ....บางครั้งความดีก็ต้องมีคนเริ่มก่อน..ต้องมีแก่นมีแกนให้จับถึงจะเข้มแข็ง "axis of compassion" (ไม่ใช่ axis of evil ที่ america เที่ยวไปว่าคนอื่นโดยไม่พิจารณาตัวเอง)
องค์กรนี้มีข้อดีหลายอย่างที่ปัจจัยแห่งความสำเร็จ
1.มีคนดีที่กล้าจะคิด+เสียสละ+ทำนอกกรอบเดิมแต่ก็ยังมีเป้าหมายคือยึดถือความดี
2.มีกัลยามิตรมาก...ผมรู้จักอยู่หลายคน หนิงยาว (เภสัช)กับหนิงใหญ่ (พยาบาล) และพี่ไพรินทร์ end of life care
3.มีหัวหน้าองค์กรที่มีธรรมะประจำใจ+ให้โอกาสให้ลูกน้องได้ทำความดี
4.วัฒนธรรมสาธารณสุขน่านที่ดี น้องจอยพูดถึง อาจารย์หมอบุญยงค์ วงศ์รักมิตร ที่เสียสละมาก เธอบอกว่า "เห็นลุงหมอบุญยงค์ช่วยคนไข้ที่ลำเลียงทางฮอร์..แม่เป็นพยาบาลไปช่วยอาจารย์ดูคนไข้"...ภาพวัยเด็กประทับลงไปในความทรงจำฝังลงระดับ spiritual เลยนะครับ
ผมเองก็ขอเอาใจช่วยให้องค์กรนี้รักษาความดีและสร้างองค์กรให้เติบโตมีวัฒนธรรมความดีสืบต่อไปตราบนานเท่านาน
เห็นด้วยค่ะ มีพยาบาลที่เก่งและดีค่ะ
สวัสดีครับพี่แก้ว ตี่นแต่เช้าเลยนะครับ
หลายๆคนทำความชั่วเป็นเรื่องที่ง่าย แต่การทำความดีนั้นกลับเป็นเรื่องที่ยาก ขอบคุณทั้งพี่แก้วและคุณหมอโรจน์นะคะ ที่เป็นกำลังใจให้พวกเราในการทำความดี ทั้งเพื่อพัฒนาตัวเรา และพัฒนาองค์กรของเราค่ะ ก็จะยืนยันในเตนารมณ์ในการมุ่งมั่นทำในสิ่งที่ดีๆเพื่อผู้ป่วยต่อไปค่ะ
ว้าว......คำนี้จับใจค่ะ ผู้จัดการความดี ดูดีมีตำแหน่งนะคะเนี่ย
ขอร่วมชื่นชมค่ะ
น้องไก่ครับ...ขอให้มุ่งมั่นทำความดีต่อไปนะครับ อ้อลืมไป เดี๋ยวครั้งหน้าผมจะฝากเสื้อผ้าบริจาคไปกับพี่ละเอียด หรือไม่ก็อาจจะส่งพัสดุไปให้นะครับ
Giant bird ครับ ความดีเป็นเรื่องที่ สามารถทำได้ด้วยตนเอง, เพียงแค่ช่วยเอื้อให้ความดีเกิดได้ง่าย หรือแม้กระทั่ง แค่เอาใจช่วย ก็ถือว่าทำความดีแล้วครับ วันนี้พี่นกยักษ์ก็ได้ทำความดีแล้วเช่นกันครับ