001 เมื่อธรรศไม่สบาย..รับรู้..ทำใจ..ทำให้ดีที่สุด (ตอน 3)


หาที่ยืนให้มั่นคง เลือกที่จะมองอย่างมั่นใจ

ทุกสิ่ง ทุกอย่าง ทุกเหตุการณ์ ล้วนมีมุมให้มองมากกว่า 1 ด้านเสมอ "เลือกมอง" ในมุมที่ทำให้การดำรงชีวิตมีคุณภาพ  แต่ต้องมองอย่างยอมรับในความเป็นจริงของสิ่งนั้น

 

ละเลงอย่างสนุกสนาน

 

นพฤหัสบดีที่  13  กันยายน  2550

แม่พาธรรศไปโรงพยาบาลโดยมีพี่ทองไปด้วย   และคุณพ่อเป็นผู้ไปส่งเหมือนอย่างเคย   วันนี้กว่าจะได้พบคุณหมอก็เป็นคิวสุดท้าย  คือราว  12.10  น.  แล้ว  เพราะมีคนไข้เยอะ  วันนั้นในห้องตรวจมีคุณหมอปรีดา  และคุณหมอแสงจันทร์    

เมื่อแม่เอาผลจากการทำอุลตร้าซาวน์  และเอ็กซเรย์ปอดมาให้คุณหมอปรีดาดู    คุณหมอก็บอกว่า  เนื้องอกแบบนี้ต้องส่งต่อไป Consult   ศัลยแพทย์ คือ คุณหมอไพศาล    แต่วันนี้ไม่ทันแล้ว   คุณหมอปรีดาก็จะส่งไปนัดทำ CT  Scan  ก่อนเลย   เพราะถ้ารอไปพบคุณหมอไพศาลสัปดาห์หน้าก่อน   ยังไงๆ ทางศัลยแพทย์ ก็ต้องส่งไปทำ CT  Scan อยู่ดี      ซึ่งทางคุณหมอปรีดาทำล่วงหน้าไปก่อนได้

 

่วงที่นั่งคุย   คุณหมอก็ไม่พูดรายละเอียดอะไรมากนัก     แม่ก็เลยเปิดฉากถามซะเอง

 

แม่          -   คุณหมอคะ  Hypernephroma  or  Neuroblastoma   ที่คุณหมอด้านรังสี Comment มา           ในความเห็นของคุณหมอน่าจะเป็นตัวไหนคะ  

 

คุณหมอ  -   น่าจะเป็น  Wilm's  Tumor    ซึ่งจะเป็นในเด็กกันมาก

 

แม่          -   แล้วทั้ง  2 ตัว  ที่ว่านั้นมันคือ   เนื้องอก   หรือ  มะเร็ง  คะ

 

คุณหมอ  -   ( ยังไม่ตอบ   เหมือนกำลังคิดว่าจะตอบยังไงดี )

 

แม่         - คุณหมอตอบเถอะ   ฟังได้ค่ะ   สำหรับตัวเองแล้วไม่ว่าจะเนื้องอก  หรือมะเร็งก็คือสิ่งที่ต้องจัดการทั้งนั้น   มันคงไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าไหร่   

 

คุณหมอ   -   มัน... มันก็คือ  มะเร็งครับ      

 

แม่          -  ถ้าเป็น   Wilm's Tumor   อย่างที่คุณหมอว่า  มันก็ยังดีกว่าเป็น    Neuroblastoma  นะคะ

 

คุณหมอ     -  คุณแม่รู้มั้ยครับ   ปกติถ้าบอกว่ามะเร็งแล้ว   ไม่มีใครมานั่งคิดว่าตัวไหนดีกว่าตัวไหน  แล้วก็ไม่มีค่อยใครกล้าถามตรงๆ อย่างนี้   ถ้าตอบไปตรงๆ แบบนี้ละก็หงายหลังตึงตกเก้าอี้ไปแล้วครับ      ผมก็มีลูกแฝดเหมือนคุณแม่   ถ้าเจอสถานการณ์แบบนี้   ผมยังนิ่งไม่ได้เท่าคุณแม่เลย    คุณแม่เก่งมากครับ

 

แม่           -    ไม่ได้เก่งหรอกค่ะ   แต่ถ้าดิฉันหงายหลังตกเก้าอี้ไป  ใครจะคุยกับคุณหมอเรื่องลูกล่ะคะ    แล้วเรื่องการคิดมันก็อยู่ที่วิธีคิดของแต่ละคน     ถ้าคิดแบบนี้แล้วทำให้เรารู้สึกว่ามันไม่ได้แย่จนเกินไป   แต่ขณะเดียวกันเราก็ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น  สิ่งที่กำลังเป็นอยู่    มันก็น่าจะดีกับเรานะคะคุณหมอ

 

ันนั้นเราเป็นคนไข้รายสุดท้าย   ซึ่งกว่าจะออกจากห้องตรวจก็ราว  12.40 น.  แล้ว       เราต้องรอจนถึงช่วงบ่าย   เพื่อไปนัดวันทำ  CT  Scan    ซึ่งได้ทำวันพุธที่  26  กันยายน 2550

 

วันพุธที่  26  กันยายน  2550

วันนี้ธรรศตื่นก่อน 06.00 น.  เล็กน้อย    ก็เลยให้ทานนม 1 กล่อง  หลังจาก 06.00 น.   ก็ให้งดอาหาร

ขั้นตอนก่อนจะทำ CT  Scan       คร่าวๆ คือ 

08.20น. หมอเริ่มให้ธรรศทานยาเคลือบกระเพาะและคงมียานอนหลับอ่อนๆ  ด้วย

09.30 น.  ให้ทานยานอนหลับ ซึ่งธรรศเค้าต่อต้านการนอนหลับมาก คนอื่นๆ ที่มาทีหลังทำเสร็จและกลับไปแล้ว     แต่ธรรศเพิ่งหลับราว 10.45 น.

ที่ว่าต่อต้านคือ   ธรรศพยายามไม่หลับ   ร้องเพลง   พยายามคุย แล้วจะนั่งเอง  พอแม่วางให้นั่งเอง  ก็หน้าคะมำทันที    แต่แม่ก็เอามือกันไว้ก่อนแล้ว  เพราะรู้ว่าต้องมีอาการแบบนี้  เดี๋ยวก็จะยืนเองบ้าง   พอแม่แกล้งวางให้ยืนก็ขาอ่อนค่ะ ทั้งแม่  น้าแอร์  พี่ทอง ยังขำกันเลย    สภาพของธรรศตอนนั้นเหมือนคนที่เมา แล้วพยายามจะทำนั่นนี่ เหมือนพยายามบอกคนอื่นว่าตัวเองไม่เมา

ตอนทำแม่ไม่เห็น เพราะมาอยู่ข้างนอก  ไปจัดการเรื่องค่าใช้จ่าย ไม่นานนักก็เห็นน้าแอร์อุ้มธรรศที่ยังหลับออกมาแล้ว     สักพักน้าแอร์ก็ขอแยกกลับไปทำงาน (น้าแอร์มานั่งเป็นเพื่อนอยู่ด้วยตั้งแต่ 09.00 น. เศษ   จนถึง 11.20 น.)   

เท่าที่ทราบคร่าวๆ จากคุณหมอ    เพราะน้าแอร์ไปแอบถามมาให้

  • มีก้อนขนาด 8 x 10 ซ.ม.

  • ก้อนที่ว่า เบียดไต จนไตเหลือนิดเดียว

  • คุณหมอบอกว่าหน้าตาดูดีกว่ารายอื่นๆ มาก (อาจหมายถึงก้อนมีขอบเขตที่แน่นอน)

แต่ยังไงต้องรอรับผลวันศุกร์ที่ 28 ก.ย. 50   แล้วไปคุยกับหมอศัลยกรรมเด็กอีกที   ซึ่งคงต้องเจ็บตัวล่ะค่ะ      แต่ก้อนที่ว่าจะเป็นประเภทไหนแน่นั้น    ก็ต้องรอผ่าแล้วเอาชิ้นเนื้อไปตรวจหลังจากที่ผ่าตัดแล้ว

หลังจากน้าแอร์ไปทำงานแล้ว     แม่ก็พาธรรศไปนอนรอให้ตื่น  ที่ร้าน เอส แอนด์ พี ใต้ตึกนวมินทร์   เหตุที่ยังไม่พากลับบ้านเลยเพราะอยากดูอาการหลังจากตื่นว่าปกติดีมั้ย    หากมีการแพ้ยาจะได้พาไปหาคุณหมอเลย    เพราะเรายังอยู่ในโรงพยาบาล     จะได้ไม่ต้องย้อนกลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้ง     

พอธรรศตื่นและเห็นตัวเองนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร   ธรรศก็บอกว่า  " คุณแม่ธรรศจะนั่ง ธรรศจะกินอาหาร"    ว่าแล้วธรรศก็เริ่มทานอาหารที่แม่กับพี่ทองสั่งไว้  เช่น   ขนมปังทาเนย     แซนวิช     เฟรนฟรายด์     อย่างเอร็ดอร่อย     โดยไม่มีอาการสะลึมสะลือ   หรือผะอืดผะอมแม้แต่น้อย

พอทานอาหารเสร็จ    แม่ก็พาธรรศไปมาบุญครอง  เพื่อซื้อชุดสไปเดอร์แมนแบบที่มีที่คลุมหัวให้   เพราะธรรศไม่งอแงตามที่สัญญากัน ... ที่สำคัญคือ ซื้อเอาไว้จูงใจสำหรับการมาหาคุณหมอครั้งต่อๆ ไป    ปกติแม่ไม่ค่อยให้ใส่บ่อยนัก   เพราะถ้าให้ใส่ตามใจ  ก็จะใส่ทุกอาทิตย์เลย

แต่ถ้ามาหาหมอจะให้ธรรศใส่ตามที่ต้องการ    แต่จะถาม (หรือสบประมาท) ไว้ก่อนว่า ถ้าสไปเดอร์แมน (หรือซุปเปอร์แมน หรือแบทแมน) ไปหาหมอฉีดวัคซีนจะร้องไห้มั้ยนี่   ถ้าร้องนะใครๆ ก็ต้องบอกว่าสไปเดอร์แมนไม่เก่งเลย งอแงเหมือนเบบี๋    ธรรศจะบอกว่าไม่ร้องหรอก   ฉีดยาเหมือนมดกัด    ซึ่งธรรศก็จะพยายามรักษาคำพูดตัวเอง    ซึ่งทำให้การมาหาคุณหมอราบรื่น

 

ั้งแต่วันที่  12 ก.ย.   ที่รู้ว่าธรรศเป็นมะเร็ง    จนจะสิ้นเดือน ก.ย. แล้ว       แม่ก็ยังต้องทำใจอยู่ตลอด    บางช่วงอาจจะนิ่ง   บางช่วงอาจจะแกว่ง      แบบฝึกหัดนี้สาหัสจริงๆ    โดยเฉพาะเวลาเห็นธรรศแล้วมานึกว่า   

 

แม่ ... จะไม่ได้เห็นลูกชายที่ยิ้มเห็นฟันกระต่าย   

 

แม่ ... จะไม่ได้ยินเสียงลูกชายที่พูดจาอ่อนหวาน คุณแม่ครับพี่ธรรศจะ...  

 

แม่ ... จะไม่ได้ยินเสียงพี่ชายที่คอยห้ามปรามน้องชายจอมซน

 

แม่ ... จะไม่ได้เห็นลูกชายที่ชอบมาขอ จุ๊บแก้ม  จุ๊บตา  จุ๊บหู  จุ๊บคิ้ว 

 

แม่ ... จะไม่ได้เห็นลูกชายเจ้าระเบียบที่คอยดูแลความเรียบร้อยในบ้าน

 

แม่ ... จะไม่ได้เห็นลูกชายที่ชอบใส่ชุด  Super Hero 

 

ั้งนี้ทั้งนั้น   ก็ต้องใช้ ... ลา... อีกเช่นกัน   มันยากที่จะทำใจในเรื่องแบบนี้ในเวลาไม่กี่วัน    เพียงแต่สิ่งที่ช่วยได้มากคือ  " สติ "      เพราะสติช่วยทำให้

  • รู้จักสงบนิ่ง (แม้จะสงบภายนอก แต่ภายในใจยังกระเพื่อม ยังดีกว่ากระเพื่อมทั้ง 2 ที่)

  • รู้จักเรียงระเบียบในการคิด การกระทำต่างๆ ว่าควรจะทำอะไร อย่างไร

  • เกิดความเข้มแข็ง ช่วยทำให้คนรอบข้างโดยเฉพาะคนในครอบครัวอยู่ในบรรยากาศที่ดี

  • ที่สำคัญที่สุดคือ ธรรศไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นอะไรมากมาย ซึ่งมีผลต่อบุคลิก อารมณ์ ทัศนคติ และการให้ความร่วมมือในการรักษา

หมายเลขบันทึก: 288532เขียนเมื่อ 17 สิงหาคม 2009 23:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:19 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ขอให้น้องธรรศมีความสุข สุขภาพแข็งแรงค่ะ

คุณครูคะ

หวังอย่างนั้นเหมือนกันค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

แป๊ว

สู้ ๆ ค่ะ สิ่งดี ๆ รอเราอยู่ข้างหน้าเสมอ

การที่มีบทเรียน อาจจะทำให้เข้มแข็งได้ และจะแกร่งขึ้น เหมือนน้องธรรศ เก่งมาก ๆ จะคอยติดตามเรื่องราวต่อๆ ไป มีอะไรมาเล่า อีกนะคะ

ช่วงเวลาไหนก็ตาม เราก็มีความสุขได้ค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ (เข้า m ไม่ได้ key ports มีปัญหา)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท