ฉันได้ขึ้นปฏิบัติงานในเวรเช้า หลังจากรับส่งเวรจากเวรดึกเรียบร้อย ฉันได้เดินตรวจเยี่ยมอาการผู้ป่วยพร้อมเวรดึก เมื่อถึงเตียง 17 สภาพผู้ป่วยที่นอนอยู่บนเตียงคุ้นตาฉันอย่างมาก ลุงสอน ขันทรัพย์ ผู้ป่วยที่มานอนโรงพยาบาลเป็นประจำด้วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังที่อยู่คู่กับตัวของลุงมาประมาณ 10 ปี ข้างเตียงลุงมีป้าบุญภรรยาคู่ใจนั่งคอยดูแลอยู่ใกล้ ๆ ไม่ห่างเตียงลุงสอนเลย ลุงสอนในวันนี้หายใจเหนื่อยหอบมาก ให้ O2 ไว้ตลอด ฉันหยุดยืนฟังเวรดึกบอกเล่าอาการลุงสอนจนเสร็จสิ้น และต้องเดินไปตรวจเยี่ยมอาการเตียงอื่นต่อไป แต่ในใจฉันอดคิดไม่ได้ เกิดอะไรขึ้นกับลุงสอน ทำไมลุงสอนถึงได้มีอาการกำเริบจนต้องมานอนโรงพยาบาลบ่อยครั้ง
ในวันนี้หัวหน้างานได้มอบหมายให้ฉันดูแลลุงสอน ฉันดีใจมากที่จะสืบค้นสาเหตุของการ Re-Admit ของลุง ฉันได้ศึกษาประวัติการเจ็บป่วยของลุงทันที ลุงสอนมานอนโรงพยาบาลทั้งหมด 7 ครั้ง Admit ทั้งหมด 5 ครั้ง Refer ไปโรงพยาบาลทั่วไป 2 ครั้ง นอนครั้งละประมาณ 1-3 วัน มานอนที่โรงพยาบาลบ้านลาดครั้งละ 3-6 วัน บางครั้งมานอนกินยาและพ่นยาแบบ Puff ด้วยตนเองโดยไม่ต้องพ่นยาจากเครื่อง On O2 Canular เป็นพัก ๆ
หลังจากฉันปฏิบัติการพยาบาลเรียบร้อย จึงได้เดินเข้าไปหาป้าบุญ และลุงสอนที่เตียงเพื่อพูดคุยกับป้าบุญ
“สวัสดีจ๊ะลุง สวัสดีจ๊ะป้า วันนี้หนูได้รับมอบหมายให้มาดูแลลุงนะจ๊ะ” ฉันกล่าวทักทายพร้อมยกมือสวัสดี
“มาอีกแล้ว หมอคงเบื่อแย่เลย ลุงแกดื้อ อยู่บ้านไม่ทำอะไรเลย ออกกำลังกายก็ได้เล็กน้อย เป่าขวดน้ำก็ไม่เป่า นอนนิ่ง ๆ อยู่กับบ้าน ที่หมอแนะนำไปไม่ทำเลย บ่นแต่ว่าตัวเองเป็นภาระของเมียและลูก ฉันพูดก็ไม่ค่อยฟัง” ป้าบุญบอก
“ทำแล้ว ฉันกลัวหายใจเหนื่อย เป็นภาระของลูก ๆ และเมีย ต้องมาโรงพยาบาลอีก” ลุงสอนบอกพร้อมกับมองหน้าป้า
“ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ ลุงฝึกหายใจเป่าขวดน้ำ เพื่อบริหารปอดเถอะนะ ไม่ต้องกลัวเหนื่อย ถ้าลุงปฏิบัติประจำจะทำให้การทำงานของปอดดีขึ้น ถ้าเหนื่อยก็มาโรงพยาบาล” ฉันบอกลุงพร้อมกำลังใจลุง
“ลุงจะพยายามทำนะหมอ” ลุงสอนรับคำ ยิ้มรับฉันเล็กน้อย
ฉันพูดคุยกับลุงและป้าอยู่พักใหญ่ จึงขอตัวไปปฏิบัติงานต่อ จากการพูดคุยครั้งนี้ ทำให้ฉันได้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวลุงสอนว่า ลุงสอนกลัวอาการเหนื่อยหอบกำเริบ จึงไม่กล้าที่จะออกกำลังกาย เป่าขวดน้ำ หรือแม้แต่ฝึกหายใจ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของปอด ทำให้เกิดความท้อแท้ เบื่อหน่ายกับชีวิตของตนเอง ปัญหาที่สำคัญของลุงสอนน่าจะเกิดจากขาดความมั่นใจในการดูแลตนเองและจากสภาพโรคของลุงสอน ฉันเริ่มค่อย ๆ แก้ปัญหาพร้อมกับค้นหาปัญหาไปด้วย ช่วงที่ลุงสอน Admit ฉันส่งเสริมการเรียนรู้ความรู้เกี่ยวกับโรคถุงลมโป่งพอง ซึ่งเป็นโรคที่ต้องอยู่กับลุงสอนตลอด การดูแลตนเองการป้องกันไม่ให้อาการแย่ลง โดยยกตัวอย่างกลุ่มผู้ป่วยอาการเดียวกัน และให้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนปัญหาและตอบคำถามกัน และฉันจะเป็นผู้ให้คำแนะนำเพิ่ม ในคำถามที่ต่างคนไม่สามารถตอบกันได้
และในวันรุ่งขึ้นเมื่อฉันขึ้นปฏิบัติงาน ฉันได้ปรึกษากับทีมกายภาพบำบัดให้มาทบทวนความรู้ให้กับลุงสอน โดยการให้ฝึกหายใจ และการเป่าขวดน้ำ นักกายภาพได้ขึ้นมาให้คำแนะนำโดยมีฉันและป้าบุญ คอยช่วยเหลือให้กำลังใจอยู่ข้าง ๆ
ตอนแรก ๆ ลุงสอนทำได้ไม่เกิน 5 นาที ก็หยุดทำ บอกว่าไม่ไหวแล้ว เริ่มจะเหนื่อยแล้ว ฉันเอา O2 sat มาจับที่นิ้วมือลุงสอน ให้ลุงสอนดูค่า O2 ในกระแสเลือด ซึ่งเป็นตัวเลขอยู่ระหว่าง 97-100% ตลอด เพื่อให้ลุงสอนมั่นใจว่าตัวลุงสอนยังมี O2 มาก สามารถออกกำลังกายต่อไปได้ ก่อนจำหน่าย ลุงสอนสามารถบริหารปอดครบ 3 ท่า เป่าขวดน้ำตลอดวันรวมกันได้มากกว่า 200 ครั้งฉันได้ส่งเสริมการเรียนรู้วิธีใช้ O2 canular การผสมยาพ่นยาจากเครื่อง ซึ่งตอนแรกทั้งตัวลุงสอนและป้าบุญไม่มีใครกล้าทำ ฉันต้องสาธิต และให้ทุกคนลองทำตาม ปรึกษาเภสัชกรช่วยสอนให้ความมั่นใจ ให้ทุกคนลองทำซ้ำ ๆ กัน หลาย ๆ ครั้ง จนสามารถทำได้
สภาพแวดล้อมบ้าน เป็นบ้าน 2 ชั้น ด้านล่างก่อโปร่ง ไม่มีฝุ่น ควัน รอบบ้านก็ปลูกต้นไม้ร่มรื่นครอบครัวของลุงอบอุ่นดี มีภรรยาซึ่งเป็น อสม. มีบุตรปลูกบ้านอยู่ใกล้ ๆ กัน บางคนอยู่ต่างอำเภอ แต่ก็มาเยี่ยมลุงสอนได้ทุกอาทิตย์ ทุกเดือนตามโอกาส บุตรทุกคนมีอาชีพเป็นของตนเอง
ลุงสอนนอนโรงพยาบาลอยู่ 5 วัน แพทย์ได้จำหน่ายลุงสอนกลับบ้านหลังจากจำหน่ายฉันได้ติดตามไปเยี่ยมลุงสอนที่บ้าน
ลุงสอนนั่งอยู่บนเตียงชั้นล่างของบ้าน มีถัง O2 พร้อมสาย O2 canular แขวนที่ตัวถัง มีหลานอายุ 4-7 ขวบ ชาย-หญิง นั่งเล่นของเล่นอยู่ใกล้ ๆ บุตรสาวคนสุดท้ายหลังคลอดได้ 4 เดือน นั่งไกวเปลบุตรอยู่ใกล้ ๆ ลุงสอน ท่าทางลุงสอนไม่เหนื่อยหอบเลย ช่วงนั่งคุยกันลุงสอนก็คุยอย่างมีความสุข บอกว่าก็เหนื่อยเรื่อย ๆ แต่ไม่มาก O2 ก็จะใช้เวลาเหนื่อยมาก ๆ เดี๋ยวนี้ก็ขึ้นบันได ไปนอนชั้นบนของบ้านได้แล้วบางวันก็เดินไปหาลูกหลาน ซึ่งปลูกบ้านอยู่ใกล้ ๆ ลุงสอนกล่าวขอบคุณที่มาเยี่ยมลุงสอนอีก ช่วงอยู่โรงพยาบาล ก็แนะนำเอาใจใส่ลุงสอนจนมั่นใจที่จะใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านไม่ต้องพึ่งโรงพยาบาลตลอด ไปนอนโรงพยาบาลก็นอนไม่หลับ ไม่สะดวกสบายเหมือนที่บ้าน
พยาบาลนั่งทำงานอยู่แต่ในโรงพยาบาลตั้งหลักเพื่อจะรักษาผู้ป่วยทำตามคำสั่งของแพทย์อย่างเดียวไม่ได้แล้ว เราต้องค้นหาปัญหาหลักของผู้ป่วย ต้องทำตามหลักการดูแลการพยาบาล และให้ความจริงใจ ความตั้งใจทั้งหมดของเราควบคู่ไปกับการพยาบาลทั้ง 4 ด้านด้วย
4 เดือน ผ่านไป ไม่มีชื่อลุงสอนต้องมานอนโรงพยาบาล ลุงสอนมาตรวจตามนัดเข้าคลินิกโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง มารับยาไปรับประทาน ยาพ่น เดือนละ 1 ครั้ง จากการสอบถามลูก ๆ ของลุงสอนปฏิบัติตัวได้อย่างถูกต้อง มีชีวิตอยู่กับลูกหลานอย่างมีความสุข
ขอชื่นชมค่ะ ทางตึกอายุรกรรมท่าศาลาก็กำลังทำHome ward COPD ค่ะ ไปหาสาเหตุของอาการหอบที่บ้านดีกว่า