การพัฒนาชุดฝึกอบรม เรื่องไอซีทีเพื่อการเรียนการสอนสำหรับครูโรงเรียน
ท่าม่วงราษฎร์บำรุง จังหวัดกาญจนบุรี
การพัฒนาชุดฝึกอบรมวิชา นวัตกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา สำหรับผู้บริหารสถานศึกษา
ผู้วิจัย บุษรา สังวาลเพ็ชร
อาจารย์ผู้ควบคุมสารนิพนธ์
ผศ. ดร. ฐาปนีย์ ธรรมเมธา
มหาวิทยาลัยศิลปากร
ปีการศึกษา 2548
การพัฒนาชุดฝึกอบรม เรื่องไอซีทีเพื่อการเรียนการสอนสำหรับครูโรงเรียน
ท่าม่วงราษฎร์บำรุง จังหวัดกาญจนบุรี
วัตถุประสงค์
( 1 ) เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาชุดฝึกอบรม เรื่องไอซีทีเพื่อการเรียนการสอน
(2) เพื่อพัฒนาชุดฝึกอบรม เรื่อง ไอซีทีเพื่อการเรียนการสอนและหาประสิทธิภาพตามเกณฑ์80 / 80
(3) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์จากการใช้ชุดฝึกอบรม เรื่อง ไอซีทีเพื่อการเรียนการสอนก่อนและหลังใช้ชุดฝีกอบรม (4) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของผู้อบรมที่มีต่อชุดฝึกอบรม เรื่อง ไอซีทีเพื่อการเรียนการสอน
สมมติฐานการวิจัย
1.ชุดฝึกอบรมเรื่อง ไอซีทีเพื่อการเรียนการสอนของโรงเรียนท่าม่วงราษฎร์บำรุงอำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์จากการฝึกอบรม ของครูโรงเรียนท่าม่วงราษฎร์บำรุง ภายหลังการฝึกอบรมสูงกว่าก่อนการฝึกอบรมด้วยชุดฝึกอบรม เรื่องไอซีทีเพื่อการเรียนการสอน
3. ความคิดเห็นของครูโรงเรียนท่าม่วงราษฎร์บำรุง ที่ใช้ชุดฝึกอบรมเรื่อง ไอซีทีเพื่อการเรียนการสอนอยู่ในระดับดี
กลุ่มตัวอย่าง
แก่ กลุ่มตัวอย่างผู้เชี่ยวชาญที่เข้าร่วมสนทนากลุ่ม จำนวน 10 คน และกลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็นครูโรงเรียนท่าม่วงราษฎร์บำรุง อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี จำนวน 60 คน
เครื่องมือ
(1) แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้างเพื่อใช้สอบถามผู้เชี่ยวชาญ
(2) ประเด็นสนทนากลุ่ม
( 3 ) ชุดฝึกอบรม เรื่องการเรียนการสอน
(4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์จากการใช้ชุดฝึกอบรม เรื่องไอซีทีเพื่อการเรียนการสอน
(5) แบบสอบถามความคิดเห็นของครูที่มีต่อการใช้ชุดฝึกอบรม เรื่องไอซีทีเพื่อการเรียนการสอน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ค่าสถิติพื้นฐานและค่าสถิติที ( t-test )
สรุปผลการวิจัย
1. แนวทางการพัฒนาชุดฝึกอบรมของผู้เชี่ยวชาญ และผู้ร่วมสนทนากลุ่มต้องการให้พัฒนาชุดฝึกอบรมเรื่องไอซีทีเพื่อการเรียนการสอนเป็นรายบุคคล รูปแบบการนำเสนอเป็นลักษณะสื่อประสม สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ทุกเวลา มีกิจกรรมที่หลากหลาย
2. ชุดฝึกอบรมเรื่อง ไอซีที เพื่อการเรียนการสอนมีประสิทธิภาพ 82.16 / 81.72 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80ที่กำหนดไว้
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้อบรมหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ความคิดเห็นของครูที่มีต่อการใช้ชุดฝึกอบรม เรื่องไอซีทีเพื่อการเรียนการสอน อยู่ในระดับดี( x = 4.43) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.56
ผู้วิจัยผการัตน์
พู่กลั่น
อาจารย์ผู้ควบคุมสารนิพนธ์
ผศ. ดร. ฐาปนีย์ ธรรมเมธา
มหาวิทยาลัยศิลปากร
ปีการศึกษา 2549
การพัฒนาชุดฝึกอบรมวิชา นวัตกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา สำหรับผู้บริหารสถานศึกษา
วัตถุประสงค์
(1) เพื่อศึกษาแนวคิดของผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับรูปแบบ และ
องค์ประกอบของชุดฝึกอบรม วิชานวัตกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา สำหรับผู้บริหารสถานศึกษา
(2) เพื่อพัฒนาชุดฝึกอบรมวิชานวัตกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา สำหรับผู้บริหารสถานศึกษา และหาประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80
(3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ในการฝึกอบรม โดยการใช้ชุดฝึกอบรม ระหว่างก่อนการฝึกอบรมและหลังการฝึกอบรม
(4) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาที่มีต่อชุดฝึกอบรม
กลุ่มตัวอย่าง
ผู้บริหารสถานศึกษาที่ยังไม่เคยผ่านการฝึกอบรม วิชา นวัตกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาสำหรับผู้บริหารสถานศึกษามาก่อน ซึ่งได้จากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive sampling) จำนวน 20 ละค่าสถิติที ( t-test )
เครื่องมือ
ที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วย
(1) แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้างเพื่อใช้สอบถามผู้เชี่ยวชาญ
(2) ชุดฝึกอบรมวิชานวัตกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา สำหรับผู้บริหารสถานศึกษา
(3)แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการฝึกอบรม
(4) แบบสอบถามความคิดเห็นของผู้เข้ารับการฝึกอบรม ที่มีต่อชุดฝึกอบรม
สรุปผลการวิจัย
1. แนวทางการพัฒนาชุดฝึกอบรม ผู้เชี่ยวชาญต้องการให้พัฒนาชุดฝึกอบรม วิชานวัตกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา สำหรับผู้บริหารสถานศึกษา รูปแบบการนำเสนอควรเป็นสื่อประสมเป็นสื่อที่สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง มีกิจกรรมหลากหลาย สามารถศึกษาได้ทุกที่ ใช้งบประมาณน้อยใช้อบรมได้กับผู้เข้าอบรมจำนวนมากๆได้
2. ชุดฝึกอบรม วิชานวัตกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา สำหรับผู้บริหารสถานศึกษา มีประสิทธิภาพ 81.50/82.50 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80 / 80 ที่กำหนดไว้
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการฝึกอบรมของผู้เข้าอบรมหลังจากการฝึกอบรม สูงกว่าก่อนการฝึกอบรม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ผู้เข้าอบรมมีความคิดเห็นในระดับดีต่อชุดฝึกอบรม มีความเหมาะสมอยู่ในระดับดี
เจ้าคือเฮ็ดได้