เช้าวันอังคารที่ผ่านมา ผมรับสายจากพ่อว่า ช่วงเย็นว่างหรือเปล่า? ถามว่าทำไมหรือ คำตอบคือ กูจะไปรอที่หน้ามัสยิดกลางยะลา ออกมารับด้วย ฮิฮิ ว่างไม่ว่างก็ต้องว่างละครับงานนี้ พ่อกับแม่มาทั้งที งานนี้ต้องยกนิ้วให้อิลฮามครับ เธอทำสำเร็จ โทรไปง้อปู่กับย่าได้เกือบทุกวันว่า เมื่อไรจะมานอนบ้านอิลฮามสักที ซึ่งก็ไม่เคยได้รับคำตอบครับ แต่อยู่ๆ ก็มาถึงแล้ว
เดิมวันแม่ (เมื่อวาน) ผมได้รับหนังสือเชิญไปร่วมงานการวิจัยท้องถิ่นในตัวเมืองยะลาครับ แต่พอพ่อกับแม่มาเลยเปลี่ยนแผน แล้วก็กลับไปยึดมั่นสัญญาที่จะให้ไว้กับอิลฮามครับว่าจะพาไปเที่ยวทะเล แต่งานนี้จะไปครอบครัวเดี่ยวๆ ก็คงไม่เวิร์ค เลยโทรประสานงานหลานๆ ซึ่งก็โอเค ไปเที่ยวพร้อมกันเสียเลย
ผมออกจากบ้านบ่ายโมงครึ่งครับ ขับพาสมาชิกไปยังบ้านพี่สาว เพื่อร่วมขบวนที่นั่นออกเดินทางไปยังชายหาด เกือบจะขับไม่ถึงแน่ะ ง่วงมาก เนื่องจากช่วงนี้เตาฟิกเปลี่ยนเวลากินนมตอนดึก ทำให้ผมยังปรับตัวไม่ได้ครับ ง่วงทั้งวันเลย
ผมจอดรถไว้ที่บ้านพี่สาวครับ แล้วก็นั่งกระบะท้ายของรถพี่สาวไปพร้อมกับหลานๆ ฮิฮิ อันนี้ผมก็หวังให้เป็นอย่างนี้แหละครับ เพราะคิดว่า ขับเองคงไม่แน่ว่าจะถึงหรือเปล่า ฮือ ง่วงจริงๆ
ออกเดินทางด้วยสี่หน้ายิ้มแย้มของหลานๆ ครับ แต่ปรากฏว่า เป้าหมายแรกไม่ใช่ทะเลครับ แต่เราแวะไปชมป่าชายเลนแหล่งที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของประเทศ (ถ้าผมจำไม่ผิด) นั้นคือที่ยะหริ่งครับ ผมไม่เคยแวะเข้าไปเลยครับ ครั้งนี้เลยเป็นครั้งแรกที่ได้เดินชมป่าชายเลนยะหริ่ง ซึ่งเขาทำทางเดินไว้ครับ เดินง่ายดี เนื่องจากไม้มีช่วงว่างไม่กว้างนัก
เดินทำขบวนโดยคุณปู่ครับ ตามติดด้วยอิลฮามและเตาฟิก ส่วนผมรั้งท้ายสุด ฮิฮิ รู้สึกจะไม่ค่อยฟิต
ทางเดินบางส่วนชำรุดบ้างแล้วครับ แต่คิดว่าก็โอเคอยู่ เดินไปสักระยะก็ถึงริมแม่น้ำครับ ซึ่งอีกฝั่งหนึ่งก็เป็นตลาด และบ้านพักนายอำเภอ เลยพาให้นึกถึงตอนที่อามาเป็นนายอำเภอที่นี้ ตอนเหตุการณ์กำลังรุนแรงครับ อาสะไภ้บอกว่า นอนไม่ค่อยจะหลับเลย นึกแล้วก็จริงด้วย ซุ่มจากป่านี้ได้เลย
เป้าหมายของเราอยู่ที่หอคอยชมวิวครับ แต่พอเราไปถึง เราก็ไม่สามารถขึ้นไปดูได้เนื่องจากมันไม่มั่นคงเสียเลยครับ โยกไปก็โยกมา
รู้สึกว่ารอบนี้ คุณพ่ออย่างผมจะถูกลูกๆ ทอดทิ้งครับ อย่างฟัจญรีนก็กอดป้าเสียแน่นเลยครับ (พ่อกับแม่เลยเดินอย่างสบายตัวเลย ฮิฮิ)
ส่วนอิลฮามกับเตาฟิก หายห่วงเลยครับ นำหน้าสถานเดียว
ผ่านไปครึ่งทางสภาพของคุณปู่ก็เป็นดังภาพข้างล่างครับ
เราใช้เวลาในการเดินตามเส้นทางทั้งหมดประมาณครึ่งชั่วโมงครับ ครบเกณฑ์การออกกำลังกายพอดี เลยต้องนั่งพักกันนิดหนึ่ง เดี๋ยวจะมีคนหน้ามืด
เสร็จจากเดินป่าก็ได้เวลาละหมาดอัสรีพอดีครับ เลยแวะละหมาดกันที่มัสยิด อิลฮามเลยต้องถามผมว่า เมื่อไรจะถึงทะเลสักที และเมื่อถึงทะเล ต่างคนก็ต่างแยกย้ายทำภารกิจส่วนตัวครับ ป้ากับอุมมีย์ของลูกก็ไปเดินซื้อของ ส่วนเด็กๆ ก็เล่นน้ำทะเลยครับ
รอบนี้ก็เหมือนหลายรอบที่ผ่านมาครับ คือ เตาฟิกไม่ยอมเล่นน้ำทะเลครับ ส่วนอิลฮามก็กว่าจะได้เปียกน้ำก็กล่อมอยู่นาน
ได้เล่นน้ำกันประมาณครึ่งชั่วโมงครับ ทุกคนก็มานั่งกินลมชมวิวกันที่ริมหาด จากนั้นก็เดินทางกลับ
แน่นอนครับ หมดแรงกันเป็นแถวๆ ผมเองกลับมาถึงบ้านสองทุ่มครึ่ง ก็ไม่ไหวทำงานแล้วครับ เข้านอนเลยเหมือนกัน
อาจารย์ครับร่มรื่นดี เตาฟิกโตขึ้นมากเลยนะครับ
- ดูท่าทางครอบครัวน่าจะอบอุ่นเอามากๆเลยน่ะครับ
ขอบคุณครับอาจารย์ขจิต ฝอยทอง
บรรยากาศในป่าร่มรื่นครับ แต่แสงแดดจ้ามาก
ขอบคุณครับ อาบี บุษรอ ซาการียา แดแก
อัลฮัมดุลิลลาห์ครับ
สวัสดีค่ะท่านอาจารย์
มาเยี่ยมน้องเตาฟิก ค่ะ เป็นหนุ่มน้อย โตขึ้นทันใจนะคะ
อมยิ้มและจินตนาการกับประโยค ... เตาฟิก มิต้องห่วง นำหน้าสถานเดียว ... อีกหน่อยพ่อก็ตามไม่ทันแล้ว :)
เห็นภาพความอบอุ่นในครอบครัว ก็อิ่มเอมไปด้วยคะ
ท่านอาจารย์ทำงานหนัก รักษาสุขภาพนะคะ ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณครับพี่ poo
ตอนนี้ก็เดินตามไม่ค่อยจะทันแล้วครับ
ขอบคุณครับคุณหมอหมอเจ๊ คนสวย แซ่เฮ
กำลังลุ้นอยู่ครับว่า เจ้าตัวเล็กจะเดินได้เมื่อไร
ส่วนเรื่องตามลูกไม่ทัน อันนี้ยอมไปแล้วครับ ฮิฮิ เอาเป็นว่า แค่อยู่ในสายตาก็พอแล้ว