... อ.นพ.เกบ เมียคินตีพิมพ์ในเว็บไซต์ว่า น้ำมันชนิดดีพิเศษ คือ โอเมกา-3 ช่วยป้องกันโรคหัวใจ และโรคภัยอีกมากมาย ทว่า... ถ้าจะให้ดีกับสุขภาพแล้ว คนเราควรได้รับโอเมกา-3 ทั้งจากปลาและพืช เช่น ข้าวกล้อง ฯลฯ [ drmirkin ] โอเมกา-3 อยู่ในกลุ่มกรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง ทำให้ตัวมันเองมีความบอบบาง หรือถูกทำลายง่ายกว่าไขมันชนิดอื่น เช่น ไม่ทนความร้อนสูงจากการทอด ไม่ทนต่อการทำลายจากออกซิเจน ฯลฯ ... ธัญพืชไม่ขัดสี (whole grain; whole = ทั้งหมด; grain = ธัญพืช) เช่น ข้าวกล้อง ฯลฯ มีวิตามิน E สูง ช่วยปกป้องโอเมกา-3 ที่มีอยู่ไม่ได้เสื่อมสภาพ หรือเกิดการหืน (rancid = มีกลิ่นบูด มีกลิ่นหืน) ปลามีโอเมกา-3 สูง แต่ไม่มีวิตามิน E ทำให้ปลามีกลิ่นหืน หรือกลิ่นคาวปลาได้เร็วกว่าอาหารชนิดอื่นๆ (กระบวนการนี้ คือ การถูกทำลายด้วยออกซิเจน หรือออกซิไดซ์ - oxidized) ... การศึกษา 3 รายงานใหญ่พบว่า โอเมกา-3 จากปลาช่วยป้องกันโรคหัวใจ และโรคภัยไข้เจ็บ เช่น ข้ออักเสบ สะเก็ดเงิน ฯลฯ การศึกษาเร็วๆ นี้พบว่า โอเมกา-3 (alpha linoleic acids) ในเมล็ดพืช นัทหรือถั่วเปลือกแข็งกระเทาะเปลือก เช่น อัลมอนด์ ฯลฯ ถั่ว ผักใบเขียว และธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ฯลฯ มีความจำเป็นพอๆ กับโอเมกา-3 จากปลาในการป้องกันโรคหัวใจ ... โอเมกา-3 ในน้ำมันปลามีโมเลกุลเป็นแบบสายยาว (long chain) ทำให้การดูดซึมเข้าไปในเซลล์ และออกฤทธิ์ทำได้ได้เร็วกว่าแบบสายสั้น ส่วนโอเมกา-3 ในพืชมีโมเลกุลสั้นกว่า ทว่า... ร่างกายคนเราสามารถเปลี่ยนเป็นแบบสายยาวได้ ... ทีนี้ถ้ากินแต่โอเมกา-3 จากปลา... ร่างกายจะได้โอเมกา-3 แบบที่ไม่มีวิตามิน E หรือสารต้านอนุมูลอิสระมากพอ ทำให้โอเมกา-3 เสื่อมสภาพ หรือเกิดการ "หืน" ขึ้นจากออกซิเจนในร่างกาย ตัวอย่างเช่น น้ำมันปลามีวิตามิน E ต่ำมาก ขณะที่น้ำมันจากพืชมีวิตามิน E สูงมาก ทำให้โอเมกา-3 จากปลาใช้ได้ในระยะเวลาสั้นๆ อยู่ได้ไม่นานก็เสื่อมสภาพไป ... ดังนั้นโอเมกา-3 ที่ร่างกายเก็บสำรองไว้ในเนื้อเยื่อไขมันส่วนใหญ่ จึงเป็นโอเมกา-3 จากพืช ไขมันในอาหารแบ่งเป็น 4 กลุ่มได้แก่ ไขมันทรานส์ ไขมันอิ่มตัว ไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว และไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง ... โอเมกา-3 ช่วยป้องกันโรคหัวใจ ความดันเลือดสูง โดยการป้องกันไม่ให้เลือดเกิดก้อนลิ่มเลือดง่ายเกินไป และทำให้หลอดเลือดทำงานได้ดีขึ้น ช่วง 150 ปีที่ผ่านมา... คนเรากินน้ำมันข้าวโพด ทานตะวัน ดอกคำฝอย เมล็ดฝ้าย และถั่วเหลืองมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ได้รับโอเมกา-6 มากเกิน ... วิธีกินอาหารให้ได้โอเมกา-3 มากพอ คือ กินปลาที่ไม่ผ่านการทอดสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง กินผักใบเขียว เมล็ดพืช เช่น แฟลกซีด ฟักทอง ฯลฯ... เปลี่ยนข้าวขาวเป็นข้าวกล้อง หรือขนมปังขาวเป็นขนมปังโฮลวีท (เติมรำ) อย่างน้อยครึ่งหนึ่ง กินถั่วหลายๆ ชนิด และนัท (nuts = เมล็ดพืชเปลือกแข็ง เช่น อัลมอนด์ ฯลฯ) ... ภาษาอังกฤษสบายๆ สไตล์เรา หัวข้อเรื่องนี้คือ 'Omega-3s from plants.' = "โอเมกา-3 (หลายชนิด เติม 's') จากพืช (หลายชนิด)" คลิกลิ้งค์ > ลำโพง/ธงชาติ > ฟัง + ออกเสียงตาม 3 รอบ + ย้ำเสียงที่พยางค์แต้มสี ตัวอย่าง ... การที่โอเมกา-3 ในปลาถูกทำลายจากออกซิเจนในอากาศ หรือออกซิเจนในร่างกายได้ง่าย ทำให้การกินปลาที่สดใหม่ หรือน้ำมันปลาที่ไม่ถูกออกซิเจน เช่น น้ำมันปลา ปลากระป๋อง (ปกติจะผ่านความร้อนในท่อ เติมเครื่องปรุง ดูดอากาศที่มีออกซิเจนออก ใส่ไนโตรเจนเข้าไปแทน) มีคุณค่าทางอาหารสูงกว่าปลาที่เก่า หรือมีกลิ่นหืน การทอดจะทำให้น้ำมันปลาซึมออกไปในกระทะ น้ำมันที่ใช้ทอดซึมเข้าไปในเนื้อปลา ทำให้ได้รับน้ำมันปลาน้อยลงไปมาก การกินปลาที่ไม่ได้ผ่านการทอดทำให้ได้โอเมกา-3 จากปลาสูงกว่าปลาทอด ... ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ ติดตามบล็อกของเราได้ทาง [ Tweeter ] > Thank drmirkin ที่มา
ไม่มีความเห็น