ในวันประชุมใหญ่กลางปีขององค์กรออมทรัพย์ชุมชนตำบลแม่พริก ได้มีการเชิญท่านนายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่พริกมาเป็นประธานเปิดงาน ซึ่งมีเนื้อหาของคำกล่าวเปิดงานดังนี้
คำกล่าวเปิดงานของประธาน
เรียน ประธานกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลแม่พริก
สวัสดีท่านสมาชิกกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลแม่พริกที่เข้าร่วมประชุมใหญ่กลางปี 2549 ทุกท่าน ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาทำหน้าที่ประธานเปิดการประชุมใหญ่กลางปีของกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลแม่พริกในวันนี้ ผมขอแสดงความดีใจกับทุกท่านที่สมัครเข้ามาเป็นสมาชิกกองทุนฯนี้ เพราะกองทุนนี้เท่าที่ทราบเป็นกองทุนฯที่ได้ทำประโยชน์แก่สมาชิกมากมาย และได้ช่วยเหลือสมาชิกในเรื่องการเกิด การแก่ การเจ็บ การตาย การทุพพลภาพ รวมทั้งช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสอื่นๆ นับว่าเป็นกองทุนฯที่ได้ให้ความช่วยเหลือสมาชิกได้โดยตรงอย่างแท้จริง และเป็นกองทุนฯที่เจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและมีสมาชิกมากถึง 800 คนเศษ ผมขอแสดงความขอบคุณคณะกรรมการของกองทุนที่ได้ร่วมมือกันช่วยเหลือผู้คนในสังคม โดยเฉพาะกับสมาชิกได้มีสวัสดิการต่างๆมากมาย นับว่าเป็นการแบ่งเบาภาระขององค์การบริหารส่วนท้องถิ่น คือ เทศบาล และ อบต. ไปได้มากทีเดียว ทั้งที่คณะกรรมการเล่านี้ไม่ได้มีเงินเดือนประจำ แต่ได้เสียสละเวลามาดำเนินกิจกรรมนี้ให้ดำเนินไปอย่างราบรื่น ดีงาม เป็นประโยชน์ยิ่งกับผู้คนในชุมชน
ขอให้สมาชิกทุกท่านที่เข้ารับฟังเรื่องราวต่างๆจากวิทยากร จากคณะกรรมการกองทุนฯ เพื่อที่จะเป็นประโยชน์กับตัวท่านเองและครอบครัวต่อไป จึงขอขอบคุณวิทยากร คณะกรรมการกองทุนฯ ที่ช่วยกันสร้างคุณประโยชน์แก่คนในชุมชนของเรา ขอขอบคุณคณะอาจารย์จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง ที่มาร่วมเป็นกำลังใจให้กับคณะกรรมการกองทุนฯในครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง กระผมขอเปิดการประชุมใหญ่กลางปีของกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลแม่พริก ณ บัดนี้
รัฐมีหน้าที่ดูแลสวัสดิการของประชาชนซึ่งก็คืออปท.และรัฐบาลกลางซึ่งมอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมฯรับผิดชอบ กพจ.เป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่ทำหน้าที่ตามกฏหมายซึ่งเกี่ยวข้องกับสวัสดิการหลายฉบับ
หลายเรื่องไม่ต้องเสนอนโยบายหรือกฏหมายใหม่ แต่ทำให้กฏหมายบรรลุผลในทางปฏิบัติก็ใช้ได้แล้ว
ผมเห็นว่าการจัดการความรู้ในชุดนี้ทำทั้ง2ส่วน
โดยเน้นที่การริเริ่มของชุมชน ให้รัฐเข้ามาเป็นหุ้นส่วน
มิใช่ชุมชนมีส่วนร่วมกับภาครัฐ