คนเราล้วนเลือกที่เกิดไม่ได้ แต่เมื่อเกิดมาแล้วเราจะทำอย่างไรต่อไปต่างหากที่สำคัญ
เรื่อง the PURSUIT of HAPPYNESS เป็นเรื่องจริงของ Chris Gardner
Chris Gardner ได้ถูกภรรยาของเขาทอดทิ้งจึงดำเนินชีวิตกับลูกชายของเขา ในตอนนั้นเขาเป็นคนที่ยากจนมากต้องอาศัยตามที่พักฟรี ซึ่งมีคนมาแย่งกันมากบางคืนเขาไม่ได้ที่พักก็ต้องแอบไปอาศัยในห้องน้ำของสถานีรถไฟใต้ดิน แต่เขาไม่ได้ปล่อยให้ชีวิตเป็นอย่างนั้นตลอดไป เขาได้ไปสมัครเป็นโบคเกอร์(ผู้ติดต่อหาลูกค้า) ของE.F.Hutton ซึ่งมีผู้แข่งขันจำนวนมากแถมรับแค่คนเดียวเท่านั้น เขาผู้ซึ่งไม่มีอะไรวันๆต้องดำรงชีวิตให้รอด ก็ยังสามารถหาเวลาอ่านหนังสือทำความเข้าใจกับเนื้อหาต่างๆจนสามารถสอบผ่านมาได้และได้เป็นพนักงานของบริษัทนี้ที่เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงมากระดับหนึ่ง คนที่มาแข่งขันกับเขาก็เป็นผู้ที่มีความรู้ดูน่ากลัว แต่เขาก็เผชิญกับสิ่งนี้ เขาได้ทำงานที่บริษัทนี้ไปซักระยะหนึ่ง และภายหลังเขาได้เปิดบริษัทของตนเองขึ้นมา และสามารถหารายได้เป็นจำนวนมาก
สิ่งที่ผมได้จากเรื่องนี้คือแนวคิดที่ว่า ถึงจะเจอเรื่องหนักขนาดไหนก็ต้องสู้ต่อไปไม่จำเป็นต้องท้อถอยเพื่อเริ่มใหม่ เวลาผมเจอเรื่องที่หนักใจหรือเครียดทั้งจากการเรียน หรือกิจกรรมในชีวิตประจำวันก็นึกถึงเรื่องนี้ว่าชีวิตเรายังดีกว่าเขา และเขายังสามารถประสบความสำเร็จที่อยู่โคตรไกลได้ แล้วทำไมเรากับเรื่องเล็กๆ (เมื่อเทียบกับ Chris Gardner) เพราะฉะนั้นเวลาผมเครียดหรือหนักใจถ้าคิดไม่ตกก็คิดถึงเรื่องนี้ครับ
นอกจากนี้เรื่องนี้ทำให้เห็นว่าเมื่อเราขยันก็สามารถทำได้ทุกสิ่งถึงมันเหมือนจะเป็นความฝันก็ตาม แต่ของเราไม่ต้องถึงกับเหมือนความฝันแค่เราเพิ่มความพยายามสักนิดครับบางสิ่งบางอย่างก็จะดีขึ้นเหมือนตอนอ่านหนังสือเมื่อผมเหนื่อย ผมก็นึกเรื่องนี้ไม่มีเวลาว่างแบบคนปกติต้องใช้เวลาตอนดึกช่วงที่เขายังเปิดไฟให้หรือใช้แสงอาทิตย์ตอนเช้ามืด
และสุดท้ายที่ผมได้จากเรื่องนี้คือเราควรเป็นคนที่ใส่ใจคนอื่น สามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้จากเรื่องนี้จะเห็นว่าการติดต่องานของ Chris Gardner นั้นเขาอาศัยการดูบุคคลิกของแต่ละบุคคลบวกกับสถานะการณ์ตอนนั้นว่าจะทำอย่างไร ซึ่งอันนี้ผมก็นำมาใช้เป็นบางครั้ง
สื่ออ้างอิง:
http://en.wikipedia.org/wiki/Chris_Gardner
DVD เรื่อง the PURSUIT of HAPPYNESS
ภาคผนวก
http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/newmovie/pursuitofhappyness/poh.html
วัน/เดือน/ปี ที่บันทึก : 09/08/2552
วัน/เดือน/ปี ที่แก้ไข : 12/08/2552 (2 ครั้ง)
อ่า
เห็นด้วยๆ
ชีวิตต้องสู้ๆๆ
สู้ๆๆๆ
^^
เด๋วว่างๆ จะหาดูบ้าง
เป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจมากทีเดียวค่ะ
อ่านเเล้วรู้สึกสะท้อนบางเเง่มุมที่เรานึกไม่ถึง
น่าสนใจมากเลย... "o"
อื้ออ น่าดูเนอะ ^^
ต้องหาดูบ้างแล้วว
สู้ๆต่อไปเน้ออ
เรื่องนี้เป็นเรื่องน่าดูอีกเรื่องนึงเลย
น่าจะเป็นเรื่องที่ให้กำลังใจหลายๆคนได้เลยแหละ
ไว้ว่างๆเอามาให้เค้าดูบ้างนะ
เราก็ชอบเรื่องนี้เหมือนกันครับ อยากเป็นได้อย่างคริส
สุดยอดพ่อ
สุดยอดพนักงาน
สุดยอดนักธุรกิจ
"ล้มแล้วอย่าท้อ แค่นั้นเอง"
แต่เหนื่อยแทน วิล สมิธ ต้องแบกเครื่อง Scan ตลอดเรื่องเลย หุหุ
เก็บคติในเรื่องนี้ไว้เป็นกำลังใจ และแรงผลักดันเมื่อต้องเผชิญกับปัญหา
ต้องฝ่าฟันและแก้ไข ความสำเร็จอยุูไม่ไกลเกินที่จะเอื้อม
ดีมากเลยที่รู้จักที่จะเรียนรู้
ที่จะสร้างกำลังใจให้ตัวเอง
สู้ๆนะค่ะ
ชอบเรื่องนี้มากเหมือนกัน
ดูแล้วได้คิดอะไรหลายๆอย่าง
ให้ข้อคิดดีค่ะ
ชีวิตต้องสู้จริงๆ
สู้เพื่อชัยชนะ
น่าเอาเป็นตัวอย่างนะคะ