สหรัฐฯพบวิธีตรวจเลือดหวัด2009ตอนนี้ไวแค่50.4%


 

...

CDC หรือศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ รายงานเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2552 ว่า ผลการตรวจเลือดหาหวัด 2009, H1N1, ไข้หวัดหมู, หรือไข้หวัดเม็กซิโกมีความแม่นยำเพียง 40-69% เฉลี่ย 54.5%

การวิจัยทางวิทยาศาสตร์มีหลักคิดอันหนึ่ง คือ หลักโยนหัวโยนก้อย หรือที่พวกเรารู้จักกันในสำนวน '50-50' คือ

...

ถ้ามีวิธีการตรวจมีความแม่นยำใกล้ 50% แล้ว "ไม่ควรตรวจ" เพราะนอกจากจะเปลืองเงินแล้ว ยังทำให้คนเราหลงทาง สู้เปิดกระเป๋า หยิบเหรียญออกมา แล้วโยนหัวก้อยไม่ได้ เพราะประหยัด เร็ว ไม่เสียเวลาเจาะเลือด ไม่เจ็บ และได้ผลพอๆ กัน

ตรงกันข้าม... วิธีที่เราใช้ตรวจไข้หวัดใหญ่ทั่วไป หรือไข้หวัดตามฤดูกาล (seasonal influenza; seasons = ฤดู; seasonal = ตามฤดูกาล; influenza = flu = ไข้หวัดใหญ่) มีความแม่นยำมากกว่า 80%

... 

CDC แนะนำให้ทำการรักษาโดยถืออาการแสดง เช่น ไข้สูง ปอดบวม ฯลฯ เป็นหลัก

การศึกษานี้ใช้ตัวอย่างไวรัส 65 ชนิดที่เก็บมาในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม เทียบกับวิธีที่มีความไวสูงมากได้แก่ วิธีตรวจแบบขยายสารพันธุกรรม RNA แบบปฏิกริยาลูกโซ่ (reverse transcription-polymerase chain reaction / rRT-PCR)

...

ปฏิกริยาลูกโซ่หมายถึงการทำปฏิกริยาที่ทำให้มีการเพิ่มจำนวนเป็นทวีคูณไปเรื่อยๆ เปรียบคล้ายการคูณด้วย 2 ไปเรื่อยๆ จาก 1,2,4,8,16,32,64,128,512,1024,...

ตัวอย่างปฏิกริยาลูกโซ่ที่เรารู้จักกันดีคือ ตอนระเบิดปรมาณูระเบิด ซึ่งตอนนี้มีข่าวว่า อิหร่านอาจจะสร้างระเบิดลูกแรกสำเร็จในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า ทำให้อิสราเอลวางแผนจะถล่มด้วยขีปนาวุธพิสัยไกล ซึ่งปลอดภัยกับนักบินมากกว่าใช้ฝูงบินบินข้ามประเทศ

...

อิสราเอลจะทำอะไรบุ่มบ่ามแบบเดิมได้ยาก เพราะเทคโนโลยีระหว่างอิสราเอลกับชาติอาหรับ-เปอร์เซีย (อิหร่าน) มีความห่างกันน้อยลง ไม่เหมือนตอนอิสราเอลตั้งประเทศใหม่ๆ

อุปสรรคของอิสราเอลคือ อิหร่านขอซื้อระบบป้องกันขีปนาวุธ S-500 จากรัสเซีย ทำให้อิสราเอลต้องส่งรัฐมนตรีที่พูดรัสเซียได้ไปขู่บ้างปลอบบ้าง หวังให้ทางรัสเซียเลิกขาย โดยขู่ว่า ถ้ารัสเซียขาย... อิสราเอลจะส่งอาวุธให้จอร์เจียที่กำลังเตรียมถล่มชนกลุ่มน้อยเชื้อสายสลาฟ (รัสเซีย)

...

CDC รายงานว่า วิธีตรวจเลือดที่ใช้กันอยู่ตอนนี้มีแนวโน้มจะพบเชื้อไวรัส H1N1 เมื่อปริมาณเชื้อไวรัสมีมาก และไม่พบเมื่อปริมาณเชื้อมีน้อย ทำให้ความไว (sensitivity; sensitive = อ่อนไหว ไว บอบบาง; sensitivity = ความไว) ของการตรวจต่ำ

การศึกษาก่อนหน้านี้ทำในสัตว์ทดลองพบว่า สัตว์ที่มีอาการหนักมีแนวโน้มจะได้รับปริมาณเชื้อมากกว่า มีเชื้อหมุนเวียนในร่างกายสูงกว่า

...

ทำให้มีความเป็นไปได้สูงว่า การคิดอัตราตายทุกวันนี้สูงเกินจริง เพราะหลงทางไปคิดเฉพาะคนไข้ที่มีอาการหนัก ไม่ได้คิดจากฐานผู้ติดเชื้อจริงทั้งหมด

CDC ตีแผ่ความไวของการตรวจไว้ดังนี้ การตรวจแบบ QuickVue = 69%; Directigen = 49%; BinaxNow = 40%

...

ซึ่งถ้านำหลักคิด "โยนหัว-โยนก้อย" มาใช้แล้ว วิธีการตรวจทั้งสามวิธีนี้ไม่คุ้มค่า สมควรแนะนำให้หมอ พยาบาลทุกคนนำเหรียญไปล้างสบู่ แล้วใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงมากกว่าการเจาะเลือดตรวจ

WHO (องค์การอนามัยโลก) รายงานเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า มีคนที่ตรวจเลือดพบโรคแล้ว 162,230 ราย ตาย 1,154 ราย แต่ CDC ประมาณการณ์ว่า คนที่ติดเชื้อจริงๆ น่าจะมีมากกว่า 1 ล้านคน

...

วิธีคิดของ CDC สอดคล้องกับหลักยอดภูเขาน้ำแข็ง (tip of the iceberg) คือ อะไรที่พบ 1 ส่วนจะมีจริงประมาณ 10 เท่า คล้ายภูเขาน้ำแข็งที่ลอยน้ำ 1 ส่วน จมน้ำ 10 ส่วน

ถ้าลองคิดอัตราตายจริงๆ ดูจากวิธีคิดของ CDC คือ โอกาสตาย = 1,154 หารด้วย 162,230 x 10 แล้วนำ 1,000 ไปคูณ เพื่อคิดโอกาสตายต่อพันรายจะได้ =  0.7113

... 

อัตราตายที่ 1 ในพันใกล้เคียงกับไข้หวัดใหญ่ทั่วไป ซึ่งทำให้คนตายทั่วโลกปีละ 250,000-500,000 ราย แต่ไข้หวัดใหญ่ไม่ดัง เพราะคนที่ตายส่วนใหญ่เป็นคนสูงอายุ หรือมีโรคเรื้อรัง

ไข้หวัด2009 ดังเพราะคนที่ตาย 40-45% เป็นวัยรุ่น-หนุ่มสาวที่มีสุขภาพดี

...

กลไกที่เป็นเช่นนี้... ผู้เชี่ยวชาญบางท่านสันนิษฐานว่า คงจะเป็นเพราะเชื้อหวัด 2009 มีลักษณะคล้าย "เหล้าเก่าในขวดใหม่" คือ กลายพันธุ์ไปกลายพันธุ์มา... รูปร่างทางระบบภูมิคุ้มกันไปคล้ายกับเชื้อเก่า

คนวัยกลางคนหรือคนสูงอายุอาบน้ำร้อนมาก่อน ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก... มากจนระบบภูมิคุ้มกันโรคจำได้ว่า วายร้ายรายนี้... ข้าฯ เคยเห็น เลยจัดการได้ดีกว่าพวกอายุน้อย

...

ผู้เชี่ยวชาญบางท่านสันนิษฐานว่า วัยรุ่น-คนหนุ่มสาวนี่ "ไฟ(ธาตุไฟ)มันแรง"... เรื่องของเรื่องคือ ระบบภูมิคุ้มกันคนเราใช้วิธีฆ่าเชื้อโดยการเพิ่มธาตุไฟ ทำให้เกิดการอักเสบ เกิดอนุมูลอิสระ ทำให้เชื้อโรคตาย

ทีนี้พวกคลื่นลูกใหม่ไฟแรงอาจมีการอักเสบ หรืออนุมูลอิสระมากเกิน ทำให้ตายง่ายกว่าคลื่นลูกเก่าๆ

...

ตอนนี้บริษัทผลิตชุดตรวจหวัด 2009 รับปากว่า จะไปหาวิธีตรวจให้แม่นยำกว่าการโยนหัวก้อย คือ ใช้วิธีตรวจ PCR แบบที่ทางนิติเวชใช้ตรวจ DNA หาว่า ใครเป็นพ่อ-ใครเป็นลูกกันทำนองนั้นออกมาโดยเร็ว

พวกเรามีส่วนช่วยป้องกันการกลายพันธุ์ของหวัด 2009 ได้โดยการช่วยกันล้างก๊อกน้ำก่อนแล้วล้างมือให้ถูกวิธี แล้วใช้ลายนิ้วมือของนิ้ว 2-5 (นิ้วชี้-กลาง-นาง-ก้อย) ถูตรงลายมือเบาๆ ตามด้วยใช้ลายนิ้วมือของนิ้ว 1 (นิ้วโป้ง) ถูตรงลายมือเบาๆ

...

แพทย์แผนจีนบางท่านเชื่อว่า การกระตุ้นใบหู-มือ-เท้าบ่อยๆ ช่วยให้สุขภาพดี... การล้างมือให้ดีก็เสริมดวงได้ โดยการถูตรงลายนิ้วมือกับลายมือให้มากหน่อย ช่วยให้ติดไวรัสน้อยลง ซึ่งถ้าได้รับเชื้อน้อยมักจะไม่มีอาการ หรือมีอาการอ่อน ไม่หนักเหมือนพวกได้รับไวรัสคราวละมากๆ

ไม่ว่าท่านจะแข็งแรงดีหรือป่วยก็ขอให้ช่วยกันล้างมือ... ยิ่งถ้าป่วยแล้วได้รับเชื้อเพิ่ม หรือโดนเชื้ออื่นๆ ซ้ำ อาการป่วยจะยิ่งหนักขึ้น ตรงกันข้ามถ้าคนทั้งโลกช่วยกันล้างมือจะช่วยลดความรุนแรงของโลกได้อย่างมากมาย 

...

คนเรามีศักยภาพแฝงอย่างหนึ่ง คือ ถ้ามุ่งมั่นจะทำอะไรดีๆ จริงๆ แล้ว, "คนเรามักจะทำอะไรดีๆ ได้มากกว่าที่คิดไว้เสมอ" 

ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ 

 > Thank Reuters

ที่มา                                                                      

  • นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ รพ.ห้างฉัตร ลำปาง สงวนลิขสิทธิ์. ยินดีให้นำไปเผยแพร่โดยอ้างอิงที่มาได้. ห้ามนำไปใช้เพื่อการค้า > 8 สิงหาคม 2552.
  • ข้อมูล ทั้งหมดเป็นไปเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ ไม่ใช่วินิจฉัยหรือรักษาโรค ท่านที่มีโรคประจำตัวหรือความเสี่ยงต่อโรคสูงจำเป็นต้องปรึกษาหมอที่ดูแล ท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้.

หมายเลขบันทึก: 285156เขียนเมื่อ 8 สิงหาคม 2009 22:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 08:33 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท