ในการทำงานวิจัยให้ดี ต้องเริ่มจาก
กรอบแนวคิดพื้นฐานก่อนโดยต้องตั้งธง ว่า...
จะผลิตงานดี ที่มี ปย.ให้ได้โดยต้องสามารถ
1 ตั้งโจทย์วิจัยที่ดี
2 เข้าใจ วิธีวิทยา
3 มี กระบวนทัศน์ใหม่ๆที่ น่าสนใจ
4 หาทรัพยากรวิจัย
5 หาเครือข่ายนักวิจัย
ในการเริ่มต้น คงต้องอ่านงานวิจัยมากๆ หัดลองกำหนดหัวเรื่องของเราเอง
หาพี่เลี้ยง มาช่วย และลงมืิอทำงานวิจัยชิ้นแรก
เข้าประชุม งานวิชาการบ่อยๆ เพื่อเปิดหูเปิดตา และเพื่อนๆ นักวิจัย
จำไว้ครับ งานวิจัยชิ้นแรกมักขายหน้าเสมอ ครับ (คำของ ดร.โกมาตยร์)
คำนี้ ทำให้หายเกร็งเครียดเวลาทำวิจัยได้มากทีเดียวครับ
วิชาที่น่าเรียนรู้เพิ่มเติมในการทำวิจัยไ้แก่
1 ระเบียบวิธีวิจัย
2 การประเมินวรรณกรรม
3 ระบาดวิทยา
4 สถิติ
5 GCP ระเบียบวิจัยในมนุษย์
สำหรับการอบรมผมแนะนำช่วงนี้ มสธ. มีหลักสูตร นี้น่าสนใจครับ
ชื่อหลักสูตร กลยุทธ์การพัฒนานักวิจัยครับ
อบรม 14-18 กย.52 ค่าอบรม 4500 บาทครับ
หากเป็นไปได้ ... ถ้าเราได้มีโอกาสเชียร์คนอื่นได้หัดเริ่มเรียนการทำวิจัยแบบง่ายๆ ไม่ยุ่งยากใจในชีวิตของคนหน้างานนี่ พี่กะปุ๋มมองว่าน่าจะ work นะคะ...
ขอบคุณเภสัชเอกนะคะที่มักเล่าเรื่องราวการทำวิจัยดีดีให้ได้เรียนรู้ร่วมด้วยเสมอค่ะ
(^__^)
พี่กะปุ๋ม
ตอนนี้กำลังผลักดัน ดึง กระตุ้น ให้เจ้าหน้าที่ทำ R2R เริ่มต้นนำเสนอมา 10 กว่าเรื่อง ตอนนี้ที่เดินจริง ๆ ซัก 7-8 เรื่อง เมื่อเสร็จสมบูรณ์จะเหลือเท่าไหร่หนอ ปัญหาก็คือ คนที่ทำวิจัยไม่มีสมาธิ (ไม่มีเวลาตั้งหลัก)ในการเขียน เพราะเดี๋ยวต้องทำงานนี้ เดี๋ยวต้องออกไปประเมินเรื่องนั้น และที่ปรึกษาก็ไม่ค่อยว่าง บางครั้งที่ปรึกษาไม่ค่อยว่าง ไม่เข้าใจแนวคิดของเจ้าของงาน ส่วนหนึ่งที่จะให้เกิดงานวิจัยในหน่วงงานคือ ภาคบังคับ ผู้ปฎิบัติงานต้องมีงานวิจัยคนละ 1 เรื่อง/ 2 ปี หรือแผนกละ 1 เรื่อง/ปี
ผมเป็น คนแปลกครับ เป็นแกะดำ
ปกติ เภสัชกรไทย มักไม่ค่อยชอบงาน patient care
แต่ชอบงาน drug management
ปกติ คนชอบงานวิชาการ มักไม่อยู่ โรงพยาบาลชุมชน
สำหรับการดึงให้คนอื่น ทำวิจัย ใน รพ. ตนเอง ผมก็ทำไม่ได้ 555
แต่นอก รพ. ในเครือข่ายต่างๆ ผมกระตุ้น ได้พอสมควร ในฐานะ
mentor
แต่คำถาม สำคัญกว่า คำตอบ ซึ่งก็คือ
1 ทำอย่างไร จึงจะปลุกกระแสคนให้สนใจทำวิจัยได้
2 ทำอย่างไร บรรยากาศ การทำวิจัย จะสนุกสนาน มีความสุข
3 ทำอย่างไร การเริ่มต้นทำวิจัยจะง่ายขึ้น ทั้งเรื่องทุน ระบบงานที่เอื้อ และวิธีวิจัย
4 ทำอย่างไร งานวิจัย จึงเกิดประโยชน์ กับผู้ป่วยมากๆครับ
ผมชบมากกว่า จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ครับ
เน้นมองทางออก ไม่มองปัญหา
มองหาสิ่งดีๆ
เห็นจุดแข็ง
ใช้เทคนิค วาฬบอกเยี่ยม
เทคนิคพวกนี้ ผมใช้กับ อสม. และคนไข้ได้ผลดีมากครับ