วันที่เสียย่าไป
วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม 2552 เป็นวันที่เสียย่าไป สร้างความเศร้าโศกเสียใจแก่ลูกหลานเป็นที่สุด ฉันรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกผิดที่วันนี้ไม่ได้ไปดูย่าทั้งๆที่คิดว่าจะไป แต่บังเอิญครูอุ้มและครูจำรัสมาหาก็คุยกันเกี่ยวกับงาน ครูจำรัสกลับไปก่อน ก็ยังคุยกับอุ้มต่อ จนบ่ายจึงไปส่งอุ้มขึ้นรถกลับบ้านพักครูที่มาบชลูด และคิดว่าจะซื้อกับข้าวก่อนกลับบ้าน น้องสาวโทรบอกว่าย่าเสียแล้ว รีบบึ่งรถกลับบ้าน น้องสาวกำลังแต่งตัวให้เสร็จพอดี จึงให้แม่และญาติผู้ใหญ่เฝ้าไว้ ฉันและน้องๆไปเตรียมเก็บกวาดศาลาที่วัดเพื่อเตรียมตั้งศพ
ย่าอายุมากแล้ว คือ 95 ปี แต่ไม่หลงลืม ระยะหลังทานอาหารได้น้อย ผอมลงกว่าเดิมมากเรี่ยวแรงไม่ค่อยมี จึงหลับมากบางครั้งฉันไปดูก็พบว่าย่าหลับอยู่ก็ไม่ได้ปลุกจึงโดนต่อว่า ว่า “ไม่ค่อยได้เห็นหน้า” เวลาไปหา เอาอาหารไปให้ก็ทานได้น้อยแต่ก็ยกมือโมทนาทุกครั้งไป ย่าชอบให้พรหลานๆที่ไปเยี่ยม ฉันเป็นหลานคนแรกของย่า ได้ใกล้ชิดกันมากตั้งแต่เด็ก เพราะย่าเลี้ยงมาแต่เล็กเพราะพ่อ แม่ อยู่ครอบครัวใหญ่ พ่อแม่ไปทำงาน ย่าก็เลี้ยงฉัน จนโตไปโรงเรียนและแยกครอบครัวไปแล้วฉันก็ยังอยู่กับย่า ย่าจะสอนฉันให้ทำงานบ้าน ฝึกทำอาหาร ทำขนม ทำงานในไร่ หารายได้พิเศษ ย่าจะทำงานแล้วให้ฉันช่วย และย่าก็ให้ค่าแรงฉัน, ย่าพาฉันไปหามันสำปะหลังมาสับเป็นชิ้นเล็กๆตากแดดให้แห้งแล้วขายได้เงิน จนสามารถเก็บเงินได้จำนวนหนึ่ง ฉันซื้อทองได้ 1 สลึง ฉันประทับใจในช่วงชีวิตวัยเด็กที่อยู่กับย่ามากที่สุด ตอนหลังฉันต้องกลับไปอยู่กับพ่อแม่เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระงานบ้านและดูแลน้องๆด้วยยามที่พ่อแม่ไปทำงาน แต่ก็มีย่าอยู่ใกล้ๆคอยดูแลช่วยเหลืออยู่ จนฉันเรียนจบ มีงานทำ ชีวิตฉันก็ยังผูกพันใกล้ชิดกับย่าอยู่ ยามย่าเจ็บป่วยฉันก็เฝ้าย่าที่โรงพยาบาลแต่มาระยะหลังมีหลานคนสุดท้อง เพราะเป็นหลานที่เกิดจากลูกของย่าคนสุดท้อง คอยดูแลย่า ย่าเดินไม่ได้มานาน น้องสุต้องดูแลเปลี่ยนผ้าอ้อม เตรียมอาหารให้ ดูแลทุกเรื่อง
ขณะที่ย่าจากไปไม่มีใครรู้เพราะย่านอนหลับพอใกล้เวลาที่จะต้องเช็ดตัวเปลี่ยนผ้าอ้อม น้องสุ ไปปลุก ก็พบว่าย่าจากไปแล้ว...
ศพย่า ตั้งสวดที่วัดเชิงเนินสุทธาวาส
ลูกบุ๋มมาจาก ม.บูฯ ต้องรีบกลับเพราะสอบวันรุ่งขึ้น
ขอแสดงคามเสียใจด้วยค่ะ ครูณัฐก็เสียย่าสุดที่รักและแสนดีไปเมื่อหลายปีก่อน
และไม่มีโอกาสไปร่วมงาน เศร้าจัง ตอนนี้ก็ได้แต่สวดมนต์และ ทำบุญไปให้ท่าน
ท่านเลี้ยงครูณัฐมาแสนใจดีที่สุด ย่าเป็นผู้หญิงโบราณที่โบราณจริงๆ(ดีมากๆ)มีน้ำใจ
เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่เห็นแก่ตัว ไม่ว่าใคร ไม่พูดจาหยาบคาย ขยันทำบุญทุกวัน รักลูกหลาน ไม่นินทาใครเลยในชีวิต ครูณัฐจึงติดนิสัยของย่ามาบ้างในบางส่วนเช่นไม่นินทาใคร คิดถึงย่าจัง คงมีความรู้สึกเหมือนกันนะคะ
ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ ครูณัฐก็เสียย่าสุดที่รักและแสนดีไปเมื่อหลายปีก่อน
และไม่มีโอกาสไปร่วมงาน เศร้าจัง ตอนนี้ก็ได้แต่สวดมนต์และ ทำบุญไปให้ท่าน
ท่านเลี้ยงครูณัฐมาแสนใจดีที่สุด ย่าเป็นผู้หญิงโบราณที่โบราณจริงๆ(ดีมากๆ)มีน้ำใจ
เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่เห็นแก่ตัว ไม่ว่าใคร ไม่พูดจาหยาบคาย ขยันทำบุญทุกวัน รักลูกหลาน ไม่นินทาใครเลยในชีวิต ครูณัฐจึงติดนิสัยของย่ามาบ้างในบางส่วนเช่นไม่นินทาใคร คิดถึงย่าจัง คงมีความรู้สึกเหมือนกันนะคะ
สวัสดีค่ะคุณ นางฟ้าเดินดิน
ขอบคุณค่ะที่แวะมาเยี่ยม และแสดงความเสียใจด้วย
ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะพี่เมี้ยว ย่าไปสบายแล้วค่ะ
สวัสดีค่ะ
ขอแสดงความเสียใจด้วยน่ะค่ะ ท่านไปสบายแล้วค่ะ
สวัสดีค่ะ น้องเสงี่ยมและคุณสุนันทา
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมให้กำลังใจกันค่ะ
สวัสดีจ้ะ...
* ไม่รู้ข่าวเลย...
* แสดงความเสียใจด้วยนะ...
สวัสดีค่ะสาวสวยมวยไทย
ขอบคุณค่ะ
ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ
จริงๆนู๋ก้อรักย่ามากเหมือนกันย่าก้อดูแลเลี้ยงนู๋มาตั้งแต่เล็กๆ วันสงกานตร์ที่ผ่านมานี้นู๋ก้อกลับไปหาย่าคิดถึงแกมาไปกับพ่อ
มีความผูกพันกันมากๆๆ ได้มาอ่านเรื่องที่พี่เขียนไว้เลยคิดถึงแก ตอนนี้กลับมาอยู่กรุงเทพแล้วคะ ยังแอบร้องไห้คิดถึงแก
อยู่เลย รักย่ามากที่สุด ย่านู๋อยู่มหาสารคาม โบว์รักย่าที่สุดนะ
ครูเมี้ยว คะ ถึงครูกับ นู๋จะไม่รู้จักกันนะคะแต่ นู๋ก็ขอแสดงความเสียใจไปด้วยนะคะถือว่าท่านไปสบายแล้ว
นู๋มาอ่านเจอเรื่องของครูแล้วก้อรู้สึกคิดถึงย่านู๋เองอยู่คะรักแกมาก ขอแสดงความเสียใจอีกครั้งนะคะ
จากโบว์
สวัสดีค่ะหนูโบว์
ขอบคุณนะคะที่แวะมาอ่าน และมีความรู้สึกที่เหมือนกันคือรักและมีความผูกพันกับย่ามาก