มันจะฝ่อไหมเนี่ย


เราจะจัดการกับ "มัน" อย่างไรดี

          วันนี้เรียนวิชา Health Policy กับอาจารย์ที่ปราดเปรื่องในวงการนโยบายสุขภาพท่านหนึ่ง คือ ท่าน รศ.ดร.เสาวคนธ์ รัตนวิจิตราศิลป์ ท่านเล่าเรื่องการบริหารจัดการในระบบราชการของกระทรวงสาธารณสุขว่าหลังจากที่เมืองไทยเรามีการปฏิรูปนโยบายสุขภาพแล้ว ทำให้ปัจจุบันงบบริหารจัดการของกระทรวงสาธารณสุขทั้งหมดไปกองรวมกันอยู่ภายใต้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ทำให้หลายๆ กรม กอง ในบ้านเราตอนนี้ฝ่อไปหมด ที่ว่าฝ่อเพราะคิดจะทำอะไรทีก็ต้องไปขออนุมัติจาก ท่าน สปสช. แล้วก็รอให้ท่านอนุมัติลงมาก่อนจึงจะมีงบฯ ในการทำงาน ทำให้เกิดความไม่ค่อยคล่องตัวในการบริหารจัดการเท่าไร

          ท่านวิเคราะห์อีกว่าตอนนี้กรมที่ดูจะมีความคล่องตัวมากที่สุด เห็นจะเป็นกรมสุขภาพจิตและกรมควบคุมโรคติดต่อ เพราะว่าไข้หวัด 2009 ทำให้กรมเหล่านี้สามารถขออนุมัติงบจาก ครม. ได้โดยตรง (ฮา)

           ที่เล่ามาทั้งหมดจะโยงเข้าเรื่องของตนเองว่า ตอนนี้ทันตแพทย์ที่เป็นอาจารย์ในสถาบันการศึกษาเริ่มเกิดวิกฤตโดยเฉพาะคนที่เป็นพนักงานมหาวิทยาลัย เพราะตอนนี้ทันตแพทย์ในกระทรวงสาธารณสุขมีสิทธิพิเศษต่างๆ เหนือกว่าทันตแพทย์ที่เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยมาก ทั้งด้านการเป็นข้าราชการที่มีสวัสดิการต่างๆ ดีกว่าพนักงานของรัฐ และมีเงินเดือนที่มากกว่ากันตั้งแต่หนึ่งหมื่นถึงหลายหมื่นบาท (ที่กล่าวอย่างนี้เพราะตั้งแต่สมัยที่ท่านเฉลิมเป็น รมต.สาธารณสุขท่านได้อนุมัติเงินเพิ่มให้แพทย์และทันตแพทย์เพื่อเป็นกลยุทธ์ในการดึงบุคลากรเหล่านี้ให้อยู่ในระบบราชการต่อไป) เรียกว่าตอนนี้แพทย์-ทันตแพทย์ในระบบราชการก็มีเงินเดือนมากพอๆ กับทันตแพทย์เอกชนเลยทีเดียว

           ที่เขียนมาอย่างนี้ไม่ได้น้อยใจในวาสนาของตัวเอง แต่พออาจารย์ท่านพูดถึงเรื่อง ฝ่อ ก็เลยลองมาเชื่อมโยงให้ท่านผู้อ่านได้ช่วยกันขบคิด เพราะในด้านหนึ่งผู้เขียนเอง (ในฐานะที่เป็นทันตแพทย์) ก็แอบเห็นด้วยในการเพิ่มเงินเดือนให้กับแพทย์และทันตแพทย์ที่ทำงานในโรงพยาบาล แต่ถ้าหันกลับมามองที่สถาบันการศึกษาเล่า สถาบันซึ่งเป็นแหล่งผลิตบุคลากรเหล่านี้ สถาบันที่ต้องการทั้งคนดีและคนเก่งเพื่อมาช่วยกันเป็นเบ้าหลอมผลิตทันตแพทย์ออกมารับใช้สังคม แต่อนิจจาแทบไม่มีอะไรที่จะดึงดูดใจคนพวกนี้เลย นับวันทันตแพทย์จบใหม่ไม่ค่อยจะมีใครอยากมาใช้ทุนเป็นอาจารย์ ส่วนอาจารย์ที่ทำงานอยู่ก็แทบจะพาเหรดลาออก ย้ายสังกัดกันหมด แล้วเราจะคาดหวังอะไรได้ต่อไป ฤาคณะทันตแพทยศาสตร์ก็จะฝ่อตามไปด้วย

          ช่วย Ninko คิดหน่อยนะคะ

หมายเลขบันทึก: 279578เขียนเมื่อ 23 กรกฎาคม 2009 22:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 พฤษภาคม 2012 02:42 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

โหอาจารย์ ไปเรียนก็ยังอดที่จะคิดไม่ได้เลยเน้อ

นั่นดิ มันจะมีนโยบายอะไรมาดึงดูดบ้างเน้อ

เห็นก็เหนื่อยแทนเช่นกัน

เป็นกำลังใจให้อาจารย์อยู่ต่อกลับมาใช้ทุนนะคะ อิอิ

 

ถ้าได้สายสนับสนุนดีๆ อย่างนี้

ก็คงพอเป็นกำลังใจได้บ้างแหละค่ะ อิ..อิ..

เห็นด้วยครับ ตอนแรกผมก็อยากเป็นอาจารย์นะ แต่พอรู้ว่าเงินเดือนแค่หมื่นสอง แต่ถ้าทำโรงบาลได้สามหมื่นห้า(อย่างต่ำ) ก็เลยเปลี่ยนใจแบบไม่ต้องคิดมาก เพราะถ้าจะเป็นอาจารย์ นอกจากจะอยากก้าวหน้า ได้เรียนต่อง่าย อีกอย่างหนึ่งที่ต้องมีคือ "บ้านรวย" เพราะลำพังเงินเดือนครูน่ะ น้อยกว่าบางคณะที่เรียนจบสี่ปีซะอีก เห็นด้วยอย่างยิ่งมาเป็นอาจารย์น่ะ งานก็หนัก แถมยังมีส่วนสำคัญในการสร้างทันตแพทย์รุ่นใหม่ๆอีก ตอนนี้ผมเลือกใช้ทุนโรงบาล แต่ถ้าหากมีการปรับเปลี่ยนนโยบาย ไม่แน่ อาจขอย้ายมาเป็นอาจารย์ก็ได้

สวัสดีปีใหม่ 2553 ครับ คุณหมอ Ninko

สำหรับเรื่องอาชีพอาจารย์นั้น no comment (มีเรื่องมากจนไม่อยากพูด)

ตอนนี้โดยพฤตินัย มหาวิทยาลัยออกนอกระบบไปแล้ว (หรือใช้การบริการแบบนอกระบบไปแล้ว) ค่าตอบแทนขึ้นบ้างไหมครับ

ค่าตอบแทนเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ การเปลี่ยนจากตำแหน่ง "ข้าราชการ" เป็น "พนักงานมหาวิทยาลัย" ตั้งแต่ปี 2000

โดยเงินเดือนเพิ่มอีก 0.6 เท่า เพื่อแลกกับสวัสดิการต่างๆ ทั้งหลายของระบบราชการที่หมดไป

แต่ในความเป็นจริงเพื่อนๆ ที่รับราชการในกระทรวงอื่นล้วนแต่ได้รับค่าตอบแทนสูงกว่าในมหาวิทยาลัยมาก

อีกทั้งระบบสวัสดิการต่างๆ ก็ยังได้รับเหมือนเดิมเพราะเป็นข้าราชการ

ถ้าคิดแค่นี้โดยไม่มีอุดมการณ์ใดๆ ร่วมด้วย ก็ทำให้ตัดสินใจได้ไม่ยากว่าจะทำงานที่ไหน

ช่วงนี้ก็เกิดวิกฤตหนักในคณะฯ เนื่องจากอาจารย์พากันลาออกเพื่อไปหางานใหม่ที่ได้รับค่าตอบแทนสูงกว่า (มาก)

น่าคิดเหมือนกันว่า เราสอนลูกศิษย์มามากมายหลายรุ่น

แม้แต่ลูกศิษย์เราที่เพิ่งจบไปยังได้รับเงินเดือน+ค่าตอบแทนที่สูงกว่าอาจารย์

ยังอย่างนี้ จะไม่ให้บางคณะฯ ซึ่งไม่ใช่เพียงแต่คณะทันตแพทย์เกิดวิกฤตได้อย่างไร? น่าคิดนะคะ

I wanna clik LIKE for the above comment 1,000 times ^^

Take care.

ท่านก็ได้แต่ตำหนิตามที่ท่านคนนี้ถนัด ไม่เคยนำเสนอทางแก้เลย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท