“ประกับ” ชีวิต...
ด้วยชีวิตนี้ที่มี “ธรรมะ” เป็นฐาน เป็นแนว เป็นเส้น เป็นถนน ชีวิตนี้ย่อมเดินตรงไม่หลงทาง
ด้วยชีวิตนี้ที่มี “ธรรมะ” เป็นเครื่องรัด เครื่องร้อย เครื่องเกี่ยว เครื่องเหนี่ยว ชีวิตนี้ย่อมไม่ร่อนเร่ หลงทาง ไปตามสาย ตามทางแห่ง “อกุศลกรรม”
ด้วยชีวิตนี้ที่มี “ธรรมะ” นั้นจึงเป็นชีวิตที่ แข็งแกร่ง แข็งแรง มั่นคง ตรงที่ เปรียบได้ดั่งชีวิตหนึ่งนี้มี “ประกับชีวิต” เป็นเครื่องรัด มัดตรึง เรากับธรรม...
ประกับแห่งชีวิตที่ว่าด้วย “ธรรมะ” นี้ แข็งแกร่ง แข็งแรงยิ่งหนัก
แม้อุปสรรคข้างหน้าจะหนัก “ธรรมะ” นั้นก็สามารถรับ สามารถสู้ สามารถอยู่ คู่กับเรา
เมื่อชีวิตนั้นแนบแน่นกับ “ธรรมะ” ชีวิตนั้นย่อมเป็นสุขอย่างยิ่ง
มีสติ มีสัมปชัญญะ ไม่วอกแวก วอแว สับสน อันจน หลงทาง ไม่จืดจางด้วยสุขแท้คือ “ความสงบ”
ขอให้เรามีธรรมะเป็น “ประกับชีวิต” ที่แนบแน่นเถิด
ชีวิตนี้จักมีความสุขยิ่งหนัก
ไม่ปวดหัว ปวดใจ ปวดหัวใจ ไปกับความคิด วาจา และการกระทำ ที่จะชัก จักนำเราลงไปในกองเพลิงแห่งมหานรกนั่น
“ประกับแห่งชีวิต” นี้ จะรัดและล็อคเราให้อยู่ในทางแห่งความดี ทางที่มีสรณะ (ที่พึ่ง) คือ พระรัตนตรัย
คุณแห่งพระพุทธเจ้า คุณแห่งพระธรรม และคุณแห่งพระอริยสงฆ์ จะรัด มัด ตรึงชีวิตให้ก้าวหน้า ก้าวไป ก้าวได้ด้วย “สัจธรรม”
“ธรรมะคือคุณากร ” ย่อมสร้างสรรค์ประโยชน์แก่หมู่มวลภมรและดอกไม้
ธรรมะนี้หากยั้ง ยืน อยู่คู่ชีวิตฉันใด
ชีวิตนี้ไซร้ย่อมสุขแท้ “สงบ” พลัน...
ความเห็น (2)
สังคมปัจจุบันชินกับของปลอมจนติดนิสัยพอเจอของแท้เลยคิดว่าปลอมขอรับท่านอาจารย์
..ตถตา..ขอรับ
/\
อ่านแล้ว อิ่มใจจัง
จะเป็นมนุษย์แล้วประสบกับความสงบได้ ต้องพบและมีความรัก
ความรักอันหมายถึงเมตตา ความเต็มเปี่ยมและล้นในตัวเอง (หมั่นรักษาใจตนไม่ให้กิเลสครอบครองหัวใจ)แล้วความรักที่เต็มในตัวเรานี้ล้นออกไปสู่ผู้อื่น อย่างเป็นหนึ่งเดียวกัน ความรักนี้เกิดจากการหยุดการกระวนกระวาย กลัว โลภ โกรธ หลง วิตกกังวลใดๆทั้งสิน
วันหนึ่งเมื่อผ่านความรุ้สึกอัน หลากหลายโลกๆ เมื่อมาปะทะความเย็นสงบแห่งรสพระธรรมอาจจะสะท้าน
จะสัมผัสชีวิตที่เต็มด้วยความรักคือการรู้ถึงเงื่อนของความเป็นจริงของธรรมชาติว่า ทุกสิ่งไม่เที่ยง
จะรู้ เห็นและเกิดชีวิตเย็นได้ จะเกิดชีวิตที่เต็มด้วยความรัก ต้องมีปัญญา สมาธิ
ชีวิต ความรัก นั้นเองคือพระธรรม (ไม่แยกกันเลย)