หลังจากที่เรียนจบไป แล้วก็มาเริ่มทำงานแล้ว รู้สึกว่าทำให้ลืมๆ บรรยากาศในการทำวิทยานิพนธ์ไปซะแล้ว พอรุ่นน้องคนหนึ่งมาบอกว่า อยากให้เขียนการเตรียมตัวทำวิทยานิพนธ์หลังสอบโครงร่างเสร็จ เพราะว่าอาจเป็นตัวอย่างให้กับรุ่นน้องๆ ได้นำไปเป็นแนวคิดได้ ก็เลยมาคิดว่าความคิดนี้ดีจังเลย แล้วก็เลยมานั่งย้อนคิดทบทวนว่าเมื่อตอนเราสอบโครงร่างเสร็จแล้วเราทำอะไรไปมั่ง ก็ขอเขียนการดำเนินการทำวิทยานิพนธ์ในบริบทของนิสิตปริญญาเอก หลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยนเรศวร นะคะ เริ่มเลยดีกว่า เนอะ
1. ก่อนอื่น วันที่สอบโครงร่างเสร็จ วันนี้ขอแนะนำให้นอนอย่างเต็มที่ เพราะว่าคนที่จะสอบโครงร่างน่าจะ อดนอนมาแล้วอย่างต่ำ 2-3 คืน พักผ่อนให้เต็มที่ค่ะ เพราะว่าบางทีการฝืนทำอะไรไปโดยที่ร่างกายไม่พร้อม อาจจำให้คุณภาพงานลดลงก็ได้
2. หลังจากพักผ่อนแล้ว 1 วัน (ไม่ควรเกินนี้นะ เพราะเดี๋ยวลืม อิอิ) สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรกคือ รีบแก้โครงร่างให้เสร็จเพื่อนำไปให้ที่ปรึกษาดู และนำส่งบัณฑิตต่อไป วิธีการคือก็นำข้อเสนอแนะของกรรมการทุกท่านมาอ่านอย่างละเอียด 1 รอบ นำข้อเสนอแนะที่เพื่อนจดให้มาอ่าน แล้วฟังที่บันทึกเสียงไว้ มาจัดระเบียบความคิด ค่อยๆ แก้ไปทีละประเด็นตามคำแนะนำ ค้นคว้าเพิ่มเติม ส่งให้ที่ปรึกษาดูเป็นระยะๆ เมื่ออาจารย์ที่ปรึกษายอมรับว่างาน ใช้ได้แล้วก็ส่งบัณฑิตได้เลยค่ะ ช่วงการแก้โครงร่างนี้ ไม่ควรทำเกิน 1 เดือนนะคะ ยิ่งทำช้าก็จะมีแต่ผลเสีย แล้วถ้าบัณฑิตยังไม่ออกประกาศให้ดำเนินการวิจัยได้ก็ไม่สามารถจะทำหนังสือถึงผู้เชี่ยวชาญได้เลย
3. เมื่อแก้โคงร่างเสร็จแล้ว ระหว่างรอประกาศอนุมัติให้ดำเนินการทำวิทยานิพนธ์ ก็มานั่งวางแผนการทำได้เลยค่ะ มีวิธีย่อยๆ ดังนี้
3.1 อ่านขั้นตอนการวิจัยของตนเองอย่างละเอียดอีกครั้ง แล้ววางแผนให้ตัวเองอย่างคร่าวๆ ว่า อยากจบประมาณเมื่อไร ถ้าอยากจบแบบนี้เราควรจะทำอะไรในช่วงไหน ใช้เวลาเท่าไหร่ เช่น ถ้าสอบครงร่าง เทอม 1ปี 2552 แล้วอยากจบ เทอม 2 ปี 2553 ก็วางแผนเช่น
ระยะเวลา |
กิจกรรม |
เทอม 1 ปี 2552 |
สอบโครงร่าง |
เทอม 2 ปี 2552 |
ดำเนินการหาข้อมูลพื้นฐาน สร้างเครื่องมือ และสร้างนวัตกรรมพร้อมทั้งหาคุณภาพให้เรียบร้อย |
เทอม 1 ปี 2553 |
ทดลองนวัตกรรม หรือ เก็บรวบรวบข้อมูล |
เทอม 2 ปี 2553 |
เขียนรายงานการวิจัย |
3.2 เมื่อวางแผนคร่าวๆ แล้ว ก็มาวางแผนการทำแบบละเอียดค่ะ คือก็ดำเนินการทำตามขั้นตอนที่เขียนไว้ในบทที่ 3 ของโครงร่าง คือถ้าเราเขียนโครงร่างให้ชัด ว่าจะทำอะไรกับใคร ที่ไหน แล้วมีจุดประสงค์ชัดเจนแล้ว จะทำให้วิทยานิพนธ์ของเรา ทำได้อย่างสบายๆ เลย
3.3 เมื่อกำหนดแผนแบบละเอียดแล้ว ก็มาดูว่าเราจะทำอะไรก่อนหลัง เช่น อันดับแรกต้องทำหนังสือถึง ผู้เชี่ยวชาญผ่านบัณฑิต ก็ไปขอแบบฟอร์มของบัณฑิตมากรอกข้อมูล การขอหนังสือช่วงนี้ จะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์
3.4 อย่าลืมไปขอทุนการทำวิทยานิพนธ์ของคณะนะคะ เพราะถ้าประกาศจากบัณฑิตอนุมัติให้ทำวิทยานิพนธ์ เกิน 3 เดือน ก็จะขอไม่ได้แล้วค่ะ ดังนั้นต้องรีบขอไว้ก่อน อ้อ !!!! อีกอย่างเข้าไปดูเวปของบัณฑิตวิทยาลัยเป็นระยะๆ ถ้าเค้ามีประกาศให้ขอทุนได้ ก็ขอทันทีค่ะ เป็นทุนที่ไม่เกี่ยวกับทุนคณะนะคะ เราสามารถขอได้ทั้ง 2 แหล่ง
4. หลังจากนั้นก็ดำเนินการทำวิทยานิพนธ์ตามแผนที่ตัวเองวางไว้เลยค่ะ ซึ่งต้องไปพบที่ปรึกษาบ่อยๆ นะคะ งานที่ออกมาจะได้มีคุณภาพ
5.หาปฏิทินการศึกษาของแต่ละภาคเรียนมา ติดไว้ในที่ๆ เห็นได้ชัดๆ เลย ค่ะ แล้วดูกำหนดการของมหาวิทยาลัยว่า เราจะทำอะไรได้ในช่วงไหน เช่น ยื่นขอจบได้ภายในเมื่อไหร่ ต้องส่งรูปเล่มตรวจรูปแบบวันสุดท้ายเมื่อไหร่ ต้องส่งรูปแล่มฉบับสมบูรณ์เมื่อไหร่
6. เกือบลืม..... สำหรับนิสิต ป.เอก มหาวิทยานเรศวร ผลงานวิทยานิพนธ์จะต้องได้รับการตีพิมพ์ หรือ มีใบตอบรับจากวารสารวิชาการ ที่มี peer review ก่อนนะคะจึงจะยื่นขอสอบวิทยานิพนธ์ได้ ซึ่งการติดต่อลงวารสารต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือน (อาจเร็วหรือช้า กว่านี้ แต่ควรเตรียมเวลาไว้ประมาณ 1 เดือนค่ะ) แล้วเมื่อยื่นขอสอบแล้ว จะกำหนดวันสอบต้องหลังจากยื่นขอสอบอีกอย่างน้อย 1 เดือน ให้เผื่อเวลาสำหรับจุดนี้ไว้ด้วย
อยากฝากไว้ว่า ในการทำวิทยานิพนธ์นั้น ควรจะต้องมีวินัยในตนเองให้มาก เพราะการเรียนในระดับปริญญาเอกคงไม่มีใครมาบังคับ ชี้ให้เราทำอย่างโน้นอย่างนี้ เราจะต้องจัดการทุกอย่างด้วยตัวของเราเอง วิทยานิพนธ์มันจะมีลักษณะเฉพาะอย่างนึงคือ ถ้าเมื่อไหร่เราทิ้งมันไปเราจะลืมมันได้ง่ายมาก และเมื่อเราจะกลับมาจับมันใหม่ เราจะต้องเสียเวลาในการทบทวนมันทุกครั้ง ดังนั้นเมื่อทำวิทยานิพนธ์แล้ว ควรให้เวลากับมันทุกวัน ถึงแม้ไม่รู้จะทำอะไรก็หยิบมาอ่านซักวันละครึ่งชั่วโมงก็ยังดี
อีกอย่างอย่าคาดหวังว่าการทำวิทยานิพนธ์ของเราจะเป็นไปตามแผน อย่าคาดหวังว่าทุกอย่างจะราบรื่นอย่างที่เราคิดไว้ จากประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้รู้ว่า มีเรื่องให้ตื่นเต้นอยู่ทุกขั้นตอนของการทำวิทยาพนธ์ มีปัญหามาให้แก้เรื่อยๆ บางอย่างเราคิดว่ามันดีแล้วแต่พอมาเจอกับเหตุการณ์จริงกับไม่เป็นไปตามที่หวังไว้ ก็มีเรื่องให้แก้กันไป ที่สำคัญที่สุดคือจำไว้ว่า......อย่าท้อ
อีกอย่างอีกครั้ง (5 5 5 5) ควรเขียนรายงานวิจัยไปเรื่อย อย่าคิดว่าพอทดลองเสร็จแล้วเขียน 5 บททีเดียว ถ้าทำแบบนั้นจะทำให้เหนื่อยมาก ค่อยๆ เขียน ค่อยๆ ปรับไปทีละหน่อย จะทำให้เราทำความเข้าใจกับงานตัวเองได้อย่างถี่ถ้วนอีกด้วย
ก็มีคร่าวๆ ประมาณนี้เท่าที่นึกออกค่ะ การทำวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกให้เสร็จคงไม่ใช่เรื่องยาก เพราะในโลกนี้ก็มีคนจบปริญญาเอกตั้งมากมาย เมื่อคนอื่นทำได้ทำไมเราจะทำไม่ได้ แต่การทำวิทยานิพนธ์มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกเช่นกัน ทุกอย่างมันต้องมาจากความตั้งใจ การทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ และความพยายามอย่างเต็มที่ อยากให้รุ่นน้องๆ ก้าวผ่านมหานทีที่ชื่อว่าวิทยานิพนธ์ไปอย่างตั้งใจจริง แล้วจะพบว่า ความสำเร็จที่รอเราอยู่หลังการทำวิทยานิพนธ์เสร็จ มันสวยงามมากแค่ไหน อันนี้คงบอกกันไม่ได้ ถ้าใครอยากรู้คงต้องลองไปค้นหาเองค่ะ
พี่อัง หลักสูตรและการสอน มน. รุ่น 1
ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันที่ ที่เป็นประโยชน์ยิ่ง ......ค้า..หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับ พี่ ๆด้วย จริงม๊ะ... พี่อัง
ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆในการทำวิทยานิพนธ์ให้สำเร็จ การให้และการแบ่งปันเป็นสิ่งดีที่สุด "สุขแท้ด้วยปัญญา"แล้วชีวิตก็จะมีความสุขค่ะ
น่ารักที่สุดขอบคุณมากๆเลยนะครับ