9 ลักษณะของประเทศที่ขาดแคลนความคิดสร้างสรรค์


  1. การเมืองของประเทศนี้ วนเวียนอยู่กับการใส่ร้ายป้ายสีด่าทอกัน นักการเมืองประเทศนี้จึงมีฝีปากกล้า ปัญญาด้อย เพราะมัวเสียเวลา ไปขุดคุ้ยหาเรื่องด่า จนไม่ค่อยมีเวลาคิดสร้างสรรค์พัฒนาบ้านเมือง
  2. ละครประเทศนี้ ทุก ๆ สิบปี จะต้องมีบ้านทรายทอง ดาวพระศุกร์ และสลักจิต วนกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีกคนละครั้งสองครั้งเสมอ ไม่เชื่อไปถามนางสาวทองสร้อยดูได้
  3. แฟชั่นของประเทศนี้ เน้นที่ยี่อห้อที่กำลังได้รับความนิยมในสังคมชั้นสูง สังเกตง่าย คนในประเทศนี้ เวลาออกไปไหนจะแต่งกาย ด้วยเสื้อผ้า กระเป๋า และรองเท้ายี่ห้อเดียวกันทั้งกลุ่ม
  4. วงการเพลงของประเทศนี้ มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ในการลอกเลียนทำนองเพลงของประเทศอื่น ๆ จนปัจจุบัน ได้ลามไปถึงการ ลอกมิวสิควีดีโอ ลอกเครื่องแต่งกาย ทรงผม ท่าเต้น ปกเทป ฯลฯ
  5. การแจกรางวัลในประเทศนี้ ทั้งรางวัลของวงการบันเทิง หรือโฆษณาจะนิยมแจกกันงานละไม่ต่ำกว่า 4 - 5 โหล ทั้ง ๆ ที่มีผู้คิดสร้างสรรค์ อะไรใหม่ ๆ ขึ้นจริง ๆ ไม่ถึง 4 - 5 ราย
  6. ในวงการโฆษณาที่ว่าเป็นแหล่งรวมนักคิดชั้นนำของประเทศนี้ ยังคงใช้วิธีเปิดหนังสือ และวีดีโอหนังโฆษณาของประเทศอื่น ๆ เพื่อก็อปปี้ เลียนแบบในประเทศนี้
  7. นักศึกษาหญิงในคณะที่คะแนนสอบสูง ๆ ของประเทศนี้มีค่านิยมอยากทำงานเสิร์ฟบริการคนประเทศอื่นบนเครื่องบินมากกว่าอยากทำงาน ที่ได้ใช้สติปัญญาและความคิดสร้างสรรค์
  8. เชียร์ลีดเดอร์ของประเทศนี้ ยังคงภูมิอกภูมิใจกับท่าเต้นเดิม ๆ โดยเฉพาะเชียร์ลีดเดร์ของสองมหาวิทยาลัยที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดในประเทศ ป้าคนที่เป็นเชียร์ลีดเดอร์รุ่นหนึ่งหลังสงครามโลก ก็ยังสามารถเต้นเข้าจังหวะกับทีมเชียร์ลีดเดอร์น้องใหม่รุ่นปัจจุบันได้ สันนิษฐานว่า คงมีคำสาปมาจากคุณป้ารุ่นแรกว่า ถ้าใครคิดสร้างสรรค์ท่าอะไรขึ้นมาใหม่ ๆ มันผู้นั้นจะต้องมีอันเป็นไป
  9. ชื่อของประเทศนี้ ได้รับการตีพิมพ์บ่อยครั้งในกินเนสส์บุ๊คว่าเป็นเจ้าของสถิติที่สุดในโลกในด้านที่ไม่สร้างสรรค์อยู่มากมาย เช่น ไข่เจียวยักษ์ ธูปยักษ์ และล่าสุดจานบินทรงเจดีย์ยักษ์

        บทความคอลัมน์ "9 นรก โอ๊ทส์ยกล้อ" หนังสือพิมพ์มติชน เดือนมกราคม 2542

หมายเลขบันทึก: 27643เขียนเมื่อ 9 พฤษภาคม 2006 11:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 14:53 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)
ได้ตั้ง 9 ประเด็นแล้ว ต่อไปจะมีรายละเิอียด วิธีทางและแนวทางการเติมความคิดสร้างสรรค์ เพื่อแก้ไขจุดบอดทั้ง 9 ข้อบ้างไหมครับเนี่ย



ถ้าเราจะขอเป็นคนนึง ที่ไม่เข้าข่าย 9 ข้อนั้น จะกลายเป็นตัวประหลาดไม๊เนี่ย อิอิ

ส่วนข้อเสนอแนะ วิธีการแก้ไข 9 ข้อ ดรีมว่ามันน่าจะทางแก้ไขได้นะคะ ให้ผู้รู้แนะนำดีกว่า คุณบอน จะเสนอ แนะก็ได้ ดรีมยินดีรับฟังคะ

ส่วน พี่แก้มแหน่ม ดรีมก็ไม่ขอเป็น 1 ใน 9 ข้อเช่นกัน คงไม่ใช่ตัวประหลาด จริงไหมคะ

เมืองไทยเราชอบทำอะไรที่ไม่ค่อยมีประโยชน์เลย  น่าจะเอาเวลามาคิดทำอย่างอื่นกันเช่นทำไงให้ชาวบ้านมีน้ำใช้ไม่อยากจน ไม่เห็นต้องไปทำให้ต่างชาติดูเลยอย่างจีนเขาไม่เห็นต้องง้อต่างชาติเลยเขาก็อยู่ได้

  • อ่านข่าวทำนองนี้มากๆ + เห็นนักการเมืองตีกันแล้วก็รู้สึกปลงสังเวชกับประเทศตัวเอง (ห้ามว่าว่าแล้วยังกระแดะอยู่ทำไมนะ แต่เกิดที่นี่แล้วขอตายที่นี่ดีกว่า  แต่ที่เขียนอย่างนี้เพราะมีความรู้สึกอย่างนี้จริงๆตลอดเวลาที่ผ่านมา)
  • นักการเมืองต้องมาจากครอบครัวที่ร่ำรวย พื้นฐานทางบ้านดี มีเงิน มีคนรู้จักนับหน้าถือตาเยอะ พูดง่ายๆว่า "มีอิทธิพล" ในท้องถิ่น เพราะในการหาเสียงแต่ละครั้งต้องใช้เงินทั้งนั้น  แต่คนที่มีอิทธิพล จะมีซักกี่คนที่มีทั้งเงิน ทั้งความรู้ ทั้งจิตใจดี พร้อมที่จะเข้ามาช่วยเหลือบ้านเมือง  ส่วนมากก็เป็นนักเลง เพราะเหตุผลหลายๆอย่าง
            1. ที่บ้านไม่เคยพัฒนาเรื่องจิตใจ พูดกันทีไรก็เป็นแต่เรื่องเกมการเมือง ชิงไหวชิงพริบ ไม่ก็เรื่องเงินๆทองๆ เช่น เรื่องวิธีเอาชนะคู่แข่ง จะโยกย้ายคน โยกย้ายเงินอย่างไร         
            2. เป็นนักเลงเอาไว้สู้กับนักเลงการเมืองอื่นๆที่รายล้อมอยู่ ขืนไม่เป็น เดี๋ยวเสร็จกันพอดี
            3. มีเงินแล้วก็มักเหลิง การทำตัวดี การเล่าเรียนลืมหมด
  • เมื่อไหร่หนอ ที่คนไทย จะได้คนที่มีทั้งฐานะดี ความรู้ดี และจิตใจดี มาบริหาร  เพื่อว่าชาติไทยจะได้พุ่งกับเขาสักที คนดีๆที่กำลังตั้งใจทำงานอยู่ก็มี เช่น กลุ่มผู้บริหารกทม. เป็นตัวอย่าง  มีทั้งความรู้ ทั้งจิตใจดี และมีฐานะ  
  • หากจะให้เสนอทางแก้ ผมก็คิดเห็นว่า...น่าจะเป็นอย่างนี้นะ
            1. อบรมพัฒนาทางด้านจิตใจกันมั่ง ฝึกจิตตามสถานปฏิบัติธรรมที้งหลายกันบ้าง เพราะหลักการบริหารบ้านเมืองที่ดี ก็มีพื้นฐานมาจากธรรม  ใครไม่เชื่อให้ไปดูนายหลวง
            2. รวมกลุ่มกับคนดี  คนดีที่เค้าทนไม่ไหว ตั้งใจโดดลงมาเล่นการเมืองเพื่อหวังช่วยประเทศชาติก็มี ไปรวมกลุ่มกับพวกเค้า เพื่อจะได้เกิดพลังสร้างสรรค์ เกิดการคิดอะไรใหม่ๆ ขืนมัวแต่ไปขุดพฤติกรรมของฝ่ายตรงข้ามมาเพื่อเอาไว้เถียงให้ฝ่ายตรงข้ามเถียงไม่ขึ้น อีกหน่อยนักการเมืองจะด่าเจ็บยิ่งกว่าแม่ค้าเสียอีก
            3. หัดทำตัวดี มีการศึกษา ให้สมกับฐานะของตระกูลมั่ง ทำตัวเป็นผู้มี education เป็นแบบอย่างให้คนอื่นเค้าปฏิบัติตาม

    หวังว่านี่ไม่ใช่เป็นการระบายอย่างเดียวนะ...^_^

การเมืองเป็นเรื่องของผลประโยชน์ การจัดสรรค์ผลประโยชน์

 นักการเมืองในอุดมคติ คือ ต้องเก่ง ดี มีศีลธรรม (หาได้ยากมากๆๆๆ ) แต่จำเป็นต้องค้นหากันต่อไป

1.ถ้าเราได้คนเก่งดีมีศีลธรรม เข้าไปเป็นตัวแทนสภา เขาก็จะจัดสรรค์ผลประโยชน์ ให้กับประชาชนโดยส่วนใหญ่ของประเทศ  แต่นักการเมืองของไทย ทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม เอางานการ การเมืองมาเป็นอาชีพ ทำมาหากิน เป็นครอบครัวการเมือง เล่นเกมส์และเล่นมายากลกันเก่งมากๆ ครอบงำและหลอกคนได้เก่ง

2. นักการเมืองไทยในปัจจุบันยังทำตัวเป็นแก๊งการเมืองอันทพาล ทำตัวเป็นทาสรับใช้มาเฟียโลก  ทำอย่างไรก็ได้ที่จะให้ตัวเองมีอำนาจมีผลประโยชน์ เป้นคนที่สละชาติเพื่อชีพ

****** ถึงเวลาแล้วที่จะต้องหาเลือดใหม่ ใส่เข้าไปในการเมืองไทย โดยมีกฎหมาย ห้ามเป็น สส.เกิน 2สมัย ห้ามสืบทอดทายาททางการเมือง ผัวเป็นสส. เมียเป็นสว. ลูกเป็นสส. หลานเป็น สจ. เป็นสิ่งต้องห้ามเด็ดขาด

                                           สุด   เมืองสีนุ่น

                             [email protected] 

  • ขอบคุณอาจารย์เอกรินทร์ และอาจารย์สุด เมืองสีนุ่น มากนะคะ
  • ที่อาจารย์เข้ามาแสดงความคิดเห็น ในแง่มุมต่างๆ ซึ่งสิ่งที่อาจารย์แนะนำมา ดิฉันคิดว่า คนที่อ่านคงได้คิด และยิ่งเป็นนักการเมืองมาอ่านแล้วละก็ คงอาจจะได้นำมันไปปรับปรุงอีกแน่นอน
  • ขอขอบคุณทุกท่านค่ะ
  • ถ้าเรามีนักการเมืองที่มีคุณภาพ ไม่เป็นแบบนี้   
  •  ประเทศไทยคงดีนะครับ

พี่แอ๊ด หมายถึงใครคะเนี่ย อิอิ

แต่ดรีมก็เห็นด้วยนะคะ มัวแต่จะคิด รบ ฟาดฟันกัน (ในที่นี่หมายถึงคำพูดนะคะ) กัน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท