จากที่ได้อ่านบทความเรื่องการหุงข้าว อย่าให้มีควัน ของอาจารย์ นพ.วัลลภ ดิฉันก็นึกถึงเรื่อง การกินข้าวหม้อเดียวกัน ดิฉันได้ไปอ่านเจอ บทความหนึ่งของ อาจารย์ ศ. ดร.กาญจนา นาคสกุล เรื่องการกินข้าว จึงเก็บมาฝากทุกคน บทความเกี่ยวกับ การกินข้าวหม้อเดียวกัน ซึ่งดิฉันได้ประสบกับตัวเอง คือเรื่องมีอยู่ว่าดิฉันกับน้องจะเล่นอะไรด้วยกันเสมอ เล่นไปเล่นมาก็ทะเลาะกันทุกที จนแม่ดิฉันก็พูดออกมาว่า กินข้าวหม้อเดียวกัน ทะเลาะกันเหมือน หมา เลย นี่ก็เป็นคนพูดที่ดิฉันจำมาตลอด ก่อนที่ดิฉันจะเข้าเรียนเสียอีก
เราลองไปดูความหมายของคำว่า กินข้าวหม้อเดียวกันเลย
กินข้าวหม้อเดียวกัน แปลว่า กินข้าวจากหม้อที่หุงข้าวใบเดียวกัน.
คนที่กินข้าวจากหม้อใบเดียวกัน ถือเป็นคนครอบครัวเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวขนาดเล็กที่มีเพียงพ่อแม่กับลูก ครอบครัวขยายที่รวมปู่ย่าตายายพี่ป้าน้าอา หรือครอบครัวที่รวมข้าทาสบริวารตลอดจนคนงานที่อยู่ในบ้านนั้น.
เมื่อนำมาใช้เป็นสำนวน กินข้าวหม้อเดียวกัน จะมีความหมายว่า คนในคณะเดียวกัน กลุ่มเดียวกัน เช่น คณะลิเก คณะดนตรี ซึ่งผู้ที่แสดงด้วยกันมักต้องเดินทางกินนอนด้วยกันเหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน จึงมักรักใคร่กลมเกลียว ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เช่นเดียวกับคนในครอบครัวเดียวกัน.
ผู้เขียน ศ. ดร.กาญจนา นาคสกุล ราชบัณฑิต สำนักศิลปกรรม ราชบัณฑิตยสถาน
ขอบคุณ อาจารย์ทั้งสองท่านมากนะคะ ที่เข้ามาติดตาม และให้ข้อเสนอแนะแก่ดิฉัน
สิ่งที่อาจารย์ นพ.วัลลภ แนะนำมา ดรีมจะลองไปปรับเปลี่ยนดูตามที่แนะนำนะคะ
ขอบคุณอาจารย์ ขจิต ที่เสริมบทความนี้นะคะ
กินข้าวหม้อเดียวกันแล้วยังมีเรื่องทะเลาะกันอีกแบบนี้เขาเรียยกว่าไม่รักกัน แล้วอย่างนี้จะไปสู้คนข้างนอกได้ไงในเมื่อบ้านยังไม่สงบเลย
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา
ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร
บทความนี้นับว่าเป็นบทความที่สอนคนที่ทะเลาะกันได้ดี แต่ทั้งนี้คนที่นำมาพูดต้องเป็นตัวอย่างที่ดี ต้องคอยห้าปราม ไม่ใช่คนที่ชอบทะเลาะกับผู้อื่นตลอดเวลา
เหมือนสุภาษิตที่ว่า "ขว้างงูไม่พ้นคอ"