เคล็ด(ไม่)ลับ : เมื่อลูกท้องผูก


                              

        ปัญหาที่ชวนปวดศีรษะ เมื่อลูก ๆ ไม่สบายเห็นจะเป็นเรื่องใหญ่คือ เรื่อง ระบบขับถ่าย หรือท้องผูก

         แล้วเราจะทำอะไรกันดี  "สวนถ่าย" ดีหรือเปล่า  ? ข้อนี้ไม่ค่อยอยากแนะนำสักเท่าไหร่ ขอเป็นข้อสุดท้ายที่เราจะเลือกค่ะ

        - เด็กทารก เมื่อท้องผูก ปัญหาส่วนใหญ่มาจากนม คือเมื่อครบเดือน ก็จะเปลี่ยนนมผสม เปลี่ยนที ก็ท้องผูกที  ค่ะ 

 

                                    

 

       ข้อแนะนำเบื้องต้น  กินนมแล้วอุ้มพาดบ่า  เพื่อลดอาการปวดท้อง สังเกตอุจจาระ ถ้าหากถ่ายแข็ง ถ่ายลำบาก แสดงว่าไม่ถูกนมยี่ห้อนี้  ส่วนมากมักจะเปลี่ยนนมใหม่แล้วสังเกตถ่ายอีกครั้งว่าถ่ายอ่อนลงหรือเปล่า หากถ่ายแบบนี้ก็ใช่เลย กินต่อค่ะ (ถ้าประหยัดช่วงนี้ซื้อนมปริมาณน้อยจะดี เพราะหากเปลี่ยนนม จะได้ไม่เปลืองมากค่ะ) 

 

       ส่วนมากที่พบคือผู้ปกครองมักจะพา ไปพบแพทย์ด้วยท้องผูก เด็กร้องโยเย ส่วนมากมักจะได้ยาน้ำขับลม   และแนะนำเรื่องนมค่ะ  ไม่ค่อยสวนสักเท่าไหร่  แต่ไม่ค่อยถูกใจพ่อแม่นะค่ะ ที่ผ่านมา เพราะตามทางการแพทย์อาการท้องผูก คือ ไม่ถ่าย 3 วัน ค่ะ ถึงจะเรียกว่า ท้องผูก  แต่ส่วนใหญ่พ่อแม่มักจะพาเด็กมาเมื่อไม่ถึงวันเลย  (ร้องไม่ยอมหยุด ก็พามาเสียแล้วค่ะ)

 

       - เด็กเล็ก ๆ เด็กอ่อน ควรดื่มน้ำตามหลังดื่มนม  หรือไม่ถ่ายควรดื่มน้ำผลไม้ เช่น น้ำส้ม สัก 2-3 ออนซ์ คั้นเองจะดีจะได้มั่นใจเรื่องความสะอาดค่ะ จะได้ไม่ท้องเสียอีกที  แถมโรคเพิ่มขึ้นค่ะ

 

                                  

 

       แต่ตัวผู้เขียนมัก จะทำดังนี้ค่ะ

- ถ้าหากเด็กเล็ก ๆ เด็กทารกมักจะหาอะไรมาสวนก้นน้องแทน ยาสวน เช่น ที่ รพ.จะเอาปรอทวัดไข้ทางทวารหนักชุบวาสลีน มาสวนก้นน้องแทน(อันนี้ไม่แนะนำ ถ้าหากทำเองที่บ้านค่ะ ควรให้ผู้ชำนาญกระทำดีกว่าค่ะ)  แต่ถ้าหากที่บ้านจะเหลาสบู่เป็นแหลมเล็กน้อยสวนก้นแทนค่ะ (ดูปลอดภัยกว่ากันเยอะ)

 

- หรือจะนำมะขามเปียก มาละลายน้ำ นำไปเคี่ยวไฟอ่อน ๆ ผสมน้ำตาลสักเล็กน้อย  นำไปป้อนเขาสักเล็กน้อย ประมาณ ครึ่ง - ช้อนชา  

 

- อีกอย่างค่ะ  คั้นน้ำส้ม ให้ดื่มสักวันละ 2-3 ออนซ์ เคล็ดลับคือ ผสมน้ำตาลสักเล็กน้อยเขย่าในน้ำส้มที่คั้น  สาเหตุที่ทำอย่างนี้ก็คือหลักการ ออสโมซีส  ลำไส้จะได้ดูดซึมน้ำเข้ามามากขึ้น ทำให้อุจจาระอ่อนตัวไม่แข็ง จะได้ไม่ถ่ายลำบาก

 

    ถ้าเป็นเด็กโต ก็ง่ายขึ้น ปรับอาหารให้มีผัก ให้มากขึ้น ดื่มน้ำเพิ่มขึ้น ออกกำลังกาย แค่นี่ก็ห่างไกลจากโรคท้องผูก ซึ่งจะเป็นสาเหตุโรค ริดสีดวงทวารหนัก ต่อไปค่ะ

        3 ข้อจำให้แม่น กินผัก ดื่มน้ำ ออกกำลังกาย  ปลอดภัยแน่นอน             (ใช้ได้ทั่วไปกับผู้ใหญ๋)

                 

           ฟังดุเหมือนง่ายนะค่ะ แต่ก็สุขใจค่ะ ที่เห็นเขาเติบโต

 

 

              

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 275640เขียนเมื่อ 11 กรกฎาคม 2009 18:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:03 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

 
สวัสดีค่ะบล๊อกสวย

บันทึกมีสาระคะ

สวัสดีครับ

  • แวะมารับความรู้ไปใช้กับชีวิต
  • สบายดี นะครับ
  • ฝนตกบ้างหรือเปล่า
  • มหาสารคาม  ฝนซาไปสองวัน แล้ว
  • ....
  • เป็นกำลังใจให้เช่นเคย นะครับ

สวัสดีค่ะ คุณ พิมญดา

- ขอบคุณค่ะ แอบไปเยี่ยมบล๊อคสวยของคุณพิมพ์เช่นเดียวกันค่ะ

สวัสดีค่ะ อาจารย์พนัส

- หวัดถามหาเหมือนกัน แต่ต้องดูแลผู้ป่วยต่อไป ชีวิตนี้แทบไม่มีเวลาแม้กระทั่ง ลาป่วย เฮ้อ ! เห็นหน้าผู้ป่วย มากกว่า หน้าลูก เสียอีกค่ะ 555

- ฝนหายไปไหนนา โคราช แล้งจัง แต่ทำไมน้ำขังในที่ลุ่ม

- ขอบคุณค่ะ

ร่วมแชร์ประสบการณ์ "เรื่องท้องผูกในเด็ก" กันนะครับ

พร้อมคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญ

https://www.facebook.com/babyconstipation

"นะคะ"สะกดแบบนี้ ไม่ใช่ "นะค่ะ"

ที่อ่านมา ทำหมดแล้วค่ะแต่ลูกไม่กินเลย ทั้งน้ำเปล่า ทั้งน้ำส้ม ผลไม้ ก็ไม่เอาแล้วแต่อารมณ์ กินบ้างไม่กินบ้างตอนนี้ น้องเลยไม่กล้าเบ่งอึกลัวการอึไปเลยค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท