การสัมมนาโครงการตรวจติดตามประเมินผล สคช.
การสัมมนากลุ่มย่อยที่ ๓ เรื่อง : รอง อจ.สคช. กับ การสนับสนุนงาน สคช. ผู้เข้าสัมมนากลุ่มย่อยประกอบ รองอัยการจังหวัด สคช. จากทุกสำนักงานที่อยู่ภายในสังกัดสำนักงานอัยการเขต ๓ จำนวน ๑๖ สำนักงาน รวม ๑๖ คน
ผลการสัมมนาของกลุ่ที่ ๓ ซึ่งตัวแทนของกลุ่มได้รายงานผลการระดมความคิดเห็น และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างสมาชิก ต่อที่ประชุมสัมมนาโครงการตรวจติดตามประเมินผลและนิเทศงาน สคช.จังหวัด และ สคช.จังหวัด สาขา ปี ๒๕๕๒ พอสรุปได้ดังนี้
ประเด็นที่ ๑ เรื่อง : รองอัยการจัหวัด สคช. กับ การสนับสนุนงาน สคช. มีปัญหา และ อุปสรรค ดังนี้
- เผยแพร่ความรู้กฎหมายต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมายใหม่ ๆ ที่ประชาชนยังขาดความเข้าใจ
- ให้คำปรึกษาปัญหากฎหมายต่าง ๆ
-ประนอมข้อพิพาท/ช่วยเหลือด้านกฎหมาย
-ไม่มีทนายอาสาในบางจังหวัด ทำให้เกิดความล่าช้าในการช่วยเหลือ
-ไม่มีคู่มือการประนอมข้อพิพาทที่ชัดเจน
-ประสานงานกับองค์กรอื่นในจังหวัดในส่วนภูมิภาคและท้องถิ่น
-ดูแลให้คำปรึกษาแก่เจ้าหน้าที่ในหน่วยงาน เนื่องจากบางครั้งเจ้าหน้าที่ที่ย้ายมาใหม่ยังไม่เข้าใจในระบบงาน
-เข้าร่วมประชุมกับหน่วยงานอื่น
-แบ่งเบาภาระอจ.สคช (ตามที่ อจ.มอบหมาย)
-เข้าร่วมเป็นกรรมการ/คณะอนุกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ เช่น คณะกรรมการ อชก.(กองทุนฟื้นฟูเกษตรกรผู้ยากจน)/คณะอนุกรรมการ สคช.จังหวัด
-เป็นวิทยากรให้กับหน่วยงานอื่น บรรยายความรู้กฎหมายด้านด่างๆ
-บุคลากรในหน่วย สคช.ไม่เพียงพอทำให้ปฏิบัตงานไม่ได้ประสิทธิภาพตามเป้าหมาย
ประเด็นที่ ๒ เรื่อง : โครงการสัมมนาควรดำเนินในรูปแบบใด
ข้อดีของโครงการ
-ทำให้ทราบนโยบายส่วนกลาง
-เสริมทักษะความเข้าใจ
-ทำให้พนักงานอัยการ/หน่วยงานทราบถึงภารกิจเสริมศักยภาพ
-กระตุ้นการทำงานให้ตรงตามวัตถุประสงค์
-แนะนำแก้ไขข้อบกพร่องให้ตรงนโยบาย
ข้อเสีย
- การนัดความ/การให้คำปรึกษา การประนอมข้อพิพาท
- สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย/เวลา
การสัมมนากลุ่มย่อยที่ ๓