Day 10-11 22-23 October 2008 Kawaguchiko (3)
ที่ Kawaguchiko Park Hotel นั้นมีจุดเด่นที่ทางโรงแรมเขาภูมิใจนำเสนอมาก คือ บ่อน้ำร้อนออนเซ็น Fouyou no yu ที่ได้จากธรรมชาติเป็นหิมะละลายจากภูเขาไฟฟูจิ ถือว่ามาจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ซะด้วยนะคะ อย่างนี้เราจะพลาดได้อย่างไร
ที่เมืองคาวากูชิโกะ มีจุดท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งคือ Ohshino Hakkai ซึ่งเป็นบริเวณที่มีบ่อน้ำพุที่หิมะละลายจากภูเขาไฟฟูจิมากระจายตัวอยู่แปดบ่อในหมู่บ้าน Ohshino ถือว่าเป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ไม่แน่ใจว่าที่โรงแรมเราเขาต่อน้ำมาจากแหล่งนี้หรือเปล่า
เพื่อนอีกห้อง สามีเธอไปแช่น้ำร้อนมาแล้ว ส่วนตัวเธอไม่ชอบแช่น้ำร้อน เลยเหลือผู้เขียนและคุณเตี้ยจากสุรินทร์ เราจึงพยักหน้ากันบอกว่าเป็นไงเป็นกัน เราไปลองดีกว่า เขาแยกห้องหญิง-ชาย ชัดเจนค่ะ
ธรรมเนียมการใช้บ่อน้ำร้อนแช่ตัวนั้น เมื่อไปถึงสถานที่ เขาจะมีบริเวณให้เก็บของ เปลื้องผ้า แล้วไปอาบน้ำถูตัว สระผมด้วยน้ำฝักบัวให้สะอาด แล้วจึงลงบ่อแช่ เราตกลงกันว่าจะอาบน้ำสระผมให้สะอาดจากที่ห้องพัก นุ่งผ้าเช็ดตัว ใส่เสื้อคลุมลงไป แล้วใครจะว่ายังไงก็ช่าง เราจะลงสระทั้งๆนุ่งผ้าเช็ดตัว ก็อาบน้ำมาสะอาดแล้วนี่นา และเป็นนักท่องเที่ยวทำอะไรเปิ่นๆ เจ้าถิ่นคงให้อภัย ยิ้มสู้ค่ะ
โชคดีมากที่ไม่มีใครมาใช้บ่อน้ำร้อนเลย มีเรากันสองคน โอย น้ำร้อนจริงๆ ต้องค่อยๆแช่เท้าลงไปก่อนสักพัก แล้วค่อยๆขยับลงไปจนได้แช่ทั้งตัว ร้อนจนหน้าตา เนื้อตัวแดงไปหมด หัวเราะกันอยู่สองคนว่าเราจะสุกทั้งตัวเป็นกุ้งต้มก็คราวนี้ แช่อยู่ไม่ถึงสิบนาที ก็ขึ้นค่ะ พอขึ้นมารู้สึกเลยว่าสบายตัวจริงๆ คืนนั้นนอนหลับสบาย ชักติดใจ
ตอนเช้าเรานัดเวลาอาหารเช้าไว้แปดโมง ก่อนแปดโมงสองสามนาทีเขาโทรศัพท์บอกว่าอาหารเช้าตั้งเรียบร้อยแล้ว เราก็รีบลงไป เห็นอาหารเช้าที่เขาตั้งไว้แล้วตะลึงในความงาม ความประณีตของการจัดวางอาหารและภาชนะ คนที่เตรียมเป็นคุณลุงอีกคน โรงแรมนี้เห็นมีแต่ผู้ชายทำงาน ยังไม่เห็นผู้หญิงเลย เราประทับใจมาก ชมเขากันใหญ่ คุณลุงคนนี้พูดภาษาอังกฤษได้บ้าง เขาโค้งขอบคุณคำชม ดูท่าทางมีความสุขที่เราประทับใจและถ่ายรูปกันใหญ่
อิ่ม อร่อยเหลือเกิน หลังอาหารเช้าแสนอลังการ ข้างนอกฝนก็ยังตกอยู่ไม่ขาดสาย จะนั่งรถบัสท่องเที่ยว แม้ไม่ลงตามจุดต่างๆก็คงมองไม่ค่อยเห็นอะไรอยู่ดี เราเลยตัดสินใจกลับโตเกียวเลยดีกว่าแม้ฝนตกยังเดินดูของ ช้อปปิ้งในห้างได้
คุณน้าคนที่ขับรถไปรับพวกเราเมื่อวาน นั้นทำงานที่ฟร้อนท์ด้วย มีพนักงานหนุ่มๆพูดภาษาอังกฤษได้อีกคน ดูเรื่องการชำระเงิน เช็คเอ้าท์เสร็จ คุณน้าก็พาพวกเราไปส่งที่สถานีรถไฟคาวากูชิโกะ
ต้องบอกว่าประทับใจในความมีน้ำใจ การบริการของเขามาก โรงแรมก็ไม่ได้ใหญ่โตหรูหรานัก ค่าที่พัก-อาหารเช้า เราก็จ่ายราวคนละ 2700 บาท รู้สึกว่าความพอใจ ความสุขที่ได้รับเกินราคาเงิน มาพักที่โรงแรมแห่งนี้ทำให้ประทับใจการมาเยือนคาวากูชิโกะ คุ้มแล้วที่ได้มา แม้จะไม่ได้เห็นภูเขาไฟฟูจิชัดๆ ไม่ได้เที่ยวไปตามที่วางแผน ไม่เป็นไร...โอกาสหน้าคงได้มาเยือนกันอีก ให้ที่อยู่ไว้เผื่อใครอยากทราบรายละเอียดของโรงแรมค่ะ ราคาแต่ละช่วงของปีขึ้นลงไม่เท่าทัน
http://stayat.jp/detail.php?chiku=3030&kikan=029&ci=03/11/2009&co=03/13/2009
นั่งรถไฟขากลับมีสายฝนและกลุ่มหมอกตามหุบเขาหมู่บ้านให้ชมเป็นความงามสงบไปอีกแบบ
เรายังเหลือที่เที่บวอีกเมืองที่ต้องไปคือ คามาคุระ เพื่อนมัสการพระใหญ่ เมืองนี้เราก็ได้พบสิ่งน่าประทับใจ ติดตามกันได้ตอนต่อไปนะคะ
สวยมากคะโดยเฉพาะอาหารน่ากินทุกอย่างเลยคะ
สวัสดีค่ะแค่อ่านก็รู้สึกว่าสบายตัวจังเวลาแช่น้ำอุ่น
กำไรชีวิตค่ะ...
โชคดีนะคะที่ได้ท่องโลกตามที่เราอยากไป...อยากไปจังเลย...
เอาดอกไม้มาฝากนะคะ...
สวัสดีค่ะ..อาจารย์นุช
ศน.อ้วนตามอ่านหลายตอนแล้วค่ะ..แสนเพลินยังกับได้เที่ยวไปด้วย
อาจารย์นุชเล่าได้ละเมียดละไมมากค่ะ
โดยเฉพาะตอนนี้ภาพของอาหารการกินของชาวญี่ปุ่นนี้ช่างมหัศจรรย์จริงๆ ในการสรรหา ปั้นแต่ง และนำมาคู่กันให้ผู้คนได้ลิ้มรสอย่างละเล็กละน้อย และรสชาติก็แสนวิเศษ(หลายประเภทที่เคยได้มีโอกาสทานค่ะ)
ขอบคุณเรื่องราวดีๆ ประสบการณ์งดงามที่อาจารย์กรุณานำมาแบ่งปันค่ะ
จะตามอาจารย์นุชไปที่ "คามาคุระ" อีกค่ะ..
อาจารย์สบายดีนะคะ..ระลึกถึงเสมอค่ะ
พี่นุช คำว่าลื่นดี ของป้าแดง หมายถึง เขียนแบบอ่านแล้วลื่นไหล เพลินในการอ่านค่ะ
ขอบคุณค่ะ
เห็นภาพมื้อเช้าแล้วแอบกลืนน้ำลายเอื้อก..ก..ก ช่างเป็นมื้อเช้าที่มีหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูเสียเหลือเกิน สุนทรียภาพในเรื่องของไลฟ์สไตล์ และอาหารการกินของเขานี่นี่..สำคัญนะคะ ต้อมว่า....
และดีใจด้วยนะคะ ที่พี่นุชกับคุณเพื่อนได้อาบน้ำแร่กันแค่สองคน อิอิ
ขอบคุณทุกท่านที่มาติดตามไปท่องญี่ปุ่นด้วยกันค่ะ
แค่เห็นความประณีตความใส่ใจของเขาในการจัดเตรียมและจัดวางอาหารอย่างนี้ก็อิ่มใจแล้วจริงๆนะคะ
ขอบคุณคุณแดงที่มีดอกไม้มากำนัลเสมอๆ ดอกสีขาวด้านล่างไม่รู้จักชื่อ น่ารักจังค่ะ
ได้แช่น้ำอุ่นแบบญี่ปุ่นทำให้ครบสิ่งที่ตั้งใจทำในการเยือนญี่ปุ่นครั้งนี้ค่ะ โชคดีที่วันที่เราพักคงมีแค่พวกเรา ไม่เห็นแขกอื่นเลยค่ะ
สบายดีค่ะ ขอบคุณคุณศน.อ้วนที่มาตามอ่าน แสดงว่าเป็นคนจัดเวลาเก่งนะคะ ตัวเองช่วงนี้รู้สึกไม่ได้ไปเยี่ยมมวลมิตรบ่อยๆสม่ำเสมออย่างที่เคยทำ ด้วยมีสิ่งโน้นสิ่งนี้มาคั่นเวลาบ่อยๆค่ะ
คุณแดงไม่ต้องกลัวเรื่องอาบน้ำแบบญี่ปุ่นหรอกค่ะ ปกติเขาก็มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำปกติเหมือนทั่วๆไป ลงบ่อออนเซ็นนั้นก็แล้วแต่เราจะเลือกไปใช้บริการค่ะ ส่วนห้องน้ำเมืองจีนนั้น เมืองใหญ่ๆดีขึ้นกว่าสมัยก่อนมากๆๆ เมืองเล็กๆนั้นต่องทำใจ ใช้แท่งสูดดมที่มีแท่งคู่อุดจมูกเข้าไปเลย ได้ผลดีค่ะ^___^
อาหารเช้าเขาน่ารักจริงๆ เป็นอาหารเช้าเซ็ทแบบญี่ปุ่นมื้อแรกและมื้อเดียวของเราในทริปนี้ เลยรู้สึกว่าโชคดีค่ะ เห็นมีอย่างละนิดละหน่อย แต่ทานไม่หมดนะคะ อิ่มแปล้เลยค่ะ
สวัสดีค่ะ
ตามมาเยี่ยม...ชอบอาหารญี่ปุ่นค่ะ ดูหนังเรื่อง จังหวะรัก หัวใจดนตรี...
อินมากค่ะ...ต้องไปกินข้าวปั้น...
สวัสดีค่ะคุณแดง ชอบอาหารญี่ปุ่นเหมือนกันค่ะ ชอบตรงที่เป็นอาหารสุขภาพดี จัดมาสวยงามและรสชาตินั้นธรรมชาติ ทานแล้วรู้สึกว่าไม่ทำร้ายตัวเองค่ะ
หนังเรื่องนี้ทำให้ร้านอาหารญี่ปุ่นมีลูกค้าเพิ่มขึ้นนะคะ ^___^
สวัสดีค่ะพี่นุช
แอบตามไปออนเซ็นแล้วค่ะ อ่านแล้วยิ่งอยากไปมากมาย กุ้งส่งอีเมล์ไปให้พี่นุชตามระบบ blog แต่ไม่แน่ใจว่าจะถูกต้องหรือปล่าว เพราะไม่มี อีเมล์ address ของพี่นุช น่ะค่ะ แล้วก็ไม่เห็นพี่นุชตอบกลับมาเลย (ตามมาทวงค่ะ :-))
สวัสดีค่ะน้องกุ้ง ขอบคุณมากค่ะที่ตามมาทวง ดีใจค่ะ
สงสัยพี่จะตอบตกหล่นมังคะ อีเมล์พี่คือ [email protected] ค่ะ ขอโทษด้วยนะคะที่ปล่อยให้รอ
ออนเซ็นที่ถือว่าดีต่อสุขภาพนั้นทั่วไปจะเป็นน้ำแร่ที่มีกลิ่นและมีสีเช่นขาวขุ่นบ้างค่ะ พี่ยังไม่ได้เจอแบบน้ำแร่เลย ได้เจอแต่น้ำศักดิ์สิทธิ์^__^
เก็บข้อมูลให้เต็มที่แล้วเที่ยวให้สนุกนะคะ
สวัสดีค่ะพี่นุช
เพิ่งมาเจอค่ะ เชยจัง..แวะมาอ่านบันทึกญี่ปุ่นตอนฟูจิซังกับอองเซนเมื่อวานไปรอบแล้วค่ะ ทำให้คิดถึงตอนที่ไปที่นั่นค่ะ..พี่นุชเล่าแล้วทำให้คิดถึงอยากกลับไปอีกจังค่ะ ทั้งห้องพัก อาหารและที่นอนที่ี่พี่นุชถ่ายก็คล้ายกันจริงๆค่ะ แต่จำชื่อเรียวกังที่พักไม่ได้ค่ะ
เลยได้ย้อนความหลังเรื่องอองเซนค่ะ ขำๆพี่นุชที่บอกว่านุ่งผ้าเช็ดตัวลงไปแช่น้ำแร่..เอ..ทำไมเรานึกไม่ถึงอย่างพี่นุชนะ...เล่าไปก็เขินตัวเองเหมือนกันค่ะ เพราะอุตส่าห์ตั้งใจตื่นไปแช่ตอนตีสามอีกซักรอบ จะได้ไม่มีคน ปรากฏว่าสาวๆญี่ปุ่นที่นั่นหลายคนก็คิดเหมือนกันเลยค่ะ ใจตรงกัน จริงๆถ้ามีคนไทยไปด้วยคงเขินกันเองมากกว่าค่ะ พอดีมีทั้งสาวและไม่สาวญีุ่ปุ่นก็เลยเป็นไงเป็นกัน แอบสังเกตถ้าเป็นสาวอายุน้อยจะปิดด้วยผ้าถูตัวกัน แต่ถ้าอายุมากๆแล้ว ไม่มีปิดเลยค่ะ ตามสบายใจฉัน..ที่นั่นมีอองเซนแบบ outdoorด้วยค่ะ เลยหนีไปนั่งแช่และดูวิวทะเลสาปด้านนอกไปด้วย มีควันลอยขึ้นจากน้ำแร่และจากตัวเรา บรรยากาศดีมากๆเลยค่ะ อากาศด้านนอกก็หนาวมากด้วยค่ะ
ส่วนอาหารญี่ปุ่นประทับใจมากๆเลยค่ะกับถ้วยโถโอชามเค๊าน่ารักกุ๊กกิ๊กสีสันสวยสดไปหมด แถมติดใจข้าวญี่ปุ่นมากๆเลยค่ะ เค๊าให้ข้าวมาเป็นโถเท่าไหร่ สองคนจัดการเกลี้ยงโถเลยค่ะ น้ำหนักขึ้นหลายโลเหมือนกันค่ะทริปนั้น
แต่อุ๊ยังไม่มีโอกาสได้ไปดูพระใหญ่เลยค่ะ เป็นอีกหนึ่งความหวังที่จะไปค่ะ ขอบคุณพี่นุชที่เป็นไกด์พิเศษ..เลยขอตามพี่นุชไปด้วยคนค่ะ :)
ค่ะคุณอุ๊ พี่ก็ยังประทับใจกับการจัดอาหารและการได้แช่น้ำแร่แบบนี้ โชคดีไม่มีคนอื่น หากเป็นคนญี่ปุ่นก็ยังพอทำเนา แต่หากเจอคนไทยด้วยกันคงต้องชวนเขาให้นุ่งผ้าเช็ดตัวเหมือนเราอิ อิ
พี่กำลังวางแผนจะไปญี่ปุ่นอีกรอบ ไปคนละเส้นกับเที่ยวนี้ จะไป Beppu ด้วยเป็นเมืองแห่งบ่อน้ำพุร้อนเลยค่ะ จะไปปลายมีนาต่อต้นเมษา ซื้อตั๋วโปรโมชั่นไว้แล้ว ตอนนี้กำลังวางแผน อิ อิ คนข้างกายยังไม่ทราบเลยว่าเราจะหนีเที่ยวอีกแล้ว เส้นทางและที่เที่ยวน่าตื่นเต้นจริงๆค่ะ กะว่าจะต้องลองอนเซ็นเอาท์ดอร์บ้าง คงได้บรรยากาศดีอย่างคุณอุ๊เล่าค่ะ