หากเปลี่ยนได้ไหม๊เราแค่ชี้แนะแต่อย่าชี้นำ...
วันนี้ระหว่างนั่งรอที่ประชุมคณะฯ ขณะที่นั่งทำงานไปพลางๆอยู่นั้นก็มีอาจารย์ท่านนึงเดินเข้ามาพูดคุยผมเองจำท่านได้ดีครับว่าเคยเจอท่านมาก่อนที่ ม.ทักษิณ สมัยยังต้องเดินทางไปเรียนที่ ม.ทักษิณ คุยไปคุยมาท่านบอกว่าท่านทำงานอยู่ที่นี่แหละนานแล้วแต่อยู่ที่กองการเจ้าหน้าที่ปีนี้ได้โอกาสให้มาช่วยสอน(อัลฮัมดุลิลละฮฺ) อาจารย์เริ่มประโยคกับผมว่า "ผมอ่านงานของอาจารย์แล้วชอบมาก...อัลฮัมดุลิลละฮฺ" แล้วต่อด้วยการเปิดประเด็นว่า ผมยังใหม่สำหรับการสอนอยากได้รับคำแนะนำในวิถีคิดและมุมมองจากหลายๆท่านที่มีประสบการณ์ในการสอนแต่ก็ไม่กล้า ก็เลยได้โอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน
ท่านถามว่านักศึกษากลุ่มนี้ (ขอไม่บอกนะครับสาขาใด) เป็นไงบ้าง ท่านสะท้อนว่าไม่รู้ท่านสอนเป็นนไงบ้างเห็นนักศึกษาไม่ค่อยพูดคุยเลย ไม่อยากรับโอกาสที่เขาให้มาแล้วทำหน้าที่ได้ไม่ดี (ท่านมีความตั้งใจมากครับดูจากการพูดคุย) คราวนี้ได้ทีของผมเสนอมุมมองต่อท่าน อิอิ ได้โอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ผมก็เลยเสนอท่านว่าทำไมเราไม่ให้เขาได้พูดเองบ้างหละครับ หรือ ไม่ก็ไปเรียนรู้นอกห้องที่ไม่ใช่ในห้องเรียนเพราะเขาเป็น "นักศึกษา ไม่ใช่ นักเรียน" บางคร้งการเรียนแต่ในห้องมันทำให้เด็กมีวิถีคิดสลัดไม่พ้นคราบของความเป็นนักเรียนเลยฟังอย่างเดียว (เรียนจริงๆ) ลองให้เขาได้พยายามอ่านโดยหาบทความที่เกี่ยวกับเรื่องนั้นหรือหยิบประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เรียนมาแล้วมานั่งพูดคุยแลกเปลี่ยนกันโดยที่เราไม่ชี้นำก่อนแต่รอคอยชี้แนะดีกว่าเพื่อฝึกให้เด็กได้คิดวิเคราะห์ตามมุมมองด้วยเหตุและผลของเขาเอง ผมเสนอใ้ห้ไปเรียนใต้ต้นไม้หากนักศึกษาไม่เยอะหรือสถานที่ไหนก็ได้ในมหาวิทยาลัยในเมื่อเราเป็นอุทยานแห่งการเรียนรู้ วิธีการนี้เคยเสนอเพื่อนอาจารย์(รุ่นพี่ที่ ม.อ.) ที่เพิ่งมาสอนใหม่ก็อัลฮัมดุลิลละฮฺ ท่านบอกว่าได้ผลเด็กสนทนากันอย่างออกรส
เหตุผลที่ผมเสนอท่านไป...ผมมองอย่างในรูปครับ
ผมมองว่าคนเรามีความคิดและคิดได้หลากหลายแน่ครับ หากเราไม่ปิดกั้นและยึดติดกับวิถีคิดเดิมๆ แม้กระทั่งเรื่องการสอนเพราะผมมองว่า คงไม่มีวิธีการสอนใดดีที่สุดเมื่อบริบทเปลี่ยนไปวิธีการสอนใหม่ก็ต้องมาแทนที่วิธีการสอนเดิมเพื่อเพิ่มเติมส่วนที่ควรจะก่อเกิดและขาดหายไปให้สมบูรณ์ และที่สำคัญผมมองว่าวิธีการสอนที่อิงกับบทบัญญัติทางศาสนา อย่างที่อาจารย์ IBM ครูปอเนาะ (อ.อิบรอเฮม หะยีสะอิ) ได้พยายามถ่ายทอดบทเรียนในหลายๆบล๊อกให้ได้อ่านทำอยู่ จะเป็นการสอนและบทเรียนที่ล้ำค่ามากๆครับ
เพราะฉะนั้นเป็นไปได้ไหม๊ ? ที่นักศึกษาไม่ควรอยู่แต่ในห้องเรียน แล้วเนื้อหาบทเรียนเป้นไปตามที่เขาอยากจะเรียนภายใต้กรอบของการนำไปใช้ได้จริงและไม่หลุดแผนการจัดการเรียนรู้ของผู้สอน
ผมเชื่อครับว่า นักศึกษา เขามีความเป็นผู้แสวงหาอยู่ในตัวเพียงแต่เราต้องพยายามอย่ายัดเยีดความเป็นนักเรียนให้เขาอยู่ร่ำไปพยายามชี้แนะแต่อย่าชี้นำให้เขาได้สลัดคราบความเป็นนักเรียนและเข้าใจบทบาทหน้าที่ที่ควรจะเป็นในการแสวงหาความรู้เปิดเวทีพื้นที่ให้เขาให้มากที่สุด จุดจบของคำตอบก็จะเป็นเราและเขาที่มีความสุขกันทั้งสองฝ่าย เราเองก็ได้มุมมองใหม่และการพัฒนาก็เกิดขึ้นเรื่อยเมื่อเรายอมรับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
บางครั้งมุมมองของนักศึกษาอาจดีกว่าเราก็ได้ใครจะไปรู้...วัลลอฮฺอะลัม
ชีวิต ต้นไม้ ใบหญ้า ยังเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ฉันใด วิถีคิดเดิมๆย่อมเปลี่ยนและเติบโต ไปตามกาลเวลา ฉันนั้น
ขอบคุณมากครับอาจารย์
ขอบคุณที่เข้ามาเติมเต็มและเพิ่มพูนความรู้ที่ชัดแจ้งมากขึ้นครับเพื่อความสมบูรณ์แบบให้มากที่สุดของเนื้อหาครับ
ดูแลสุขภาพด้วยครับ