สุ
นางสาว สุรีรัตน์ รงเรือง

นิทานเสริมสร้างจินตนาการ


ความคิดของเด็ก

      ตอนนี้รับน้องเวลล์มาอยู่ด้วยแล้ว หลังจากที่ฝากแม่เลี้ยงมา 2 ปีครึ่ง ลูกมาอยู่ด้วยแสนชื่นนนนน..ใจ แม้ว่าต้องเลี้ยงคนเดียวก็ตาม แต่ก็มีเรื่องตลกๆ ทำให้เราคนเป็นแม่ต้องคิดว่า เออนะ เด็กเค้าก็คิดอะไรได้มากมาย ทุกๆคืน จะเล่านิทานให้น้องเวลล์ฟังก่อนนอน ส่วนมากจะเป็นนิทานอีสป (ตอนนี้น้องเวลล์อายุ 6 ขวบแล้ว) ซึ่งเค้าจะเป็นคนเลือกว่าให้เล่าเรื่องอะไร (คืนละหลายเรื่องเชียวแหละ) คืนนั้น เรื่องหนึ่งที่เค้าเลือกคือเรื่อง  "แม่เหยี่ยวกับลูก"  เรื่องมีอยู่ว่า แม่เหยี่ยวเป็นทุกข์ใจที่เห็นลูกของตนนอนป่วยมาหลายวันแล้ว เมื่อลูกนกมีอาการทรุดหนักลงทุกวัน แม่เหยี่ยวก็ร่ำไห้สะอึกสะอื้นปานจะขาดใจ  ลูกนกจึงเอ่ยขึ้นว่า "อย่ามัวแต่ร้องไห้อยู่เลยแม่จ๋า แม่ลองไปบนบานเทพยดาที่ศาลสิจ๊ะ ท่านจะได้ช่วยชีวิตลูก ท่านจะได้ช่วยให้ลูกหายเจ็บหายไข้"   แม่เหยี่ยวได้ฟังแล้วก็ยิ่งร้องไห้หนักขึ้นไปแล้วว่า   "แม่ก็อยากทำเช่นนั้นจ้ะลูก แต่แม่ไปขโมยอาหารที่คนนำมาถวายท่านทุกๆวัน แล้วเทพยดาจะช่วยเราทำไมล่ะ  โธ่เอ้ยแม่ไม่น่าทำเช่นนั้นเลย ไม่ควรขโมยของท่านเลย" 

ซึ่งเรื่องนี้มคติเตือนใจว่า  "เมื่อสำนึกผิด บางครั้งก็สายเกินไป"

     เมื่อเล่าเสร็จก็อธิบายให้น้องเวลล์ฟังอีกรอบ และถามน้องเวลล์ว่าเข้าใจหรือเปล่าลูก ลูกบอกว่าเข้าใจทุกอย่างเลย แต่สิ่งเดียวที่น้องเวลล์ไม่เข้าใจคือว่า ทำไมลูกนกจึงป่วย แล้วป่วยเป็นอะไร ทำไมแม่ไม่พาไปหาหมอ โรงพยาบาลอยู่ไกลเหรอ ....  เท่านั้นแหละหัวเราะแล้วก็นึกว่าเออจริงสินะ เราเป็นผู้ใหญ่แท้ๆ ทำไมเราไม่คิดว่าป่วยเป็นอะไร เด็กๆ ช่างคิดเสียจริงๆ ซึ่งคุณแม่เองก็ได้ข้อสรุปของการเล่านิทานว่า เป็นการเสริมสร้างจินตนาการให้ลูกได้อย่างแท้จริง เด็กๆ ได้คิด (เยอะมากกกกก) ได้ถาม (หลายคำถามมากกกก) เด็กได้ข้อคิดดีๆ จากนิทาน ได้เรียนภาษา คำศัพท์ที่หลากหลาย ที่สำคัญได้ใกล้ชิดพ่อแม่  และไม่ต้องไปดูละครนำเน่า ซึ่งต้องยอมรับว่าเด็กรับความเน่าๆ ของละครมาเยอะมากเสียด้วยสิ

ตอนนี้รู้สึกดีมากๆ ที่ลูกไม่ต้องนั่งดูทีวี แต่หาเรื่องให้เราเล่านิทานให้ฟัง ลองดูสิคะ พ่อแม่จะเห็นความเปลี่ยนแปลงของลูก อย่าคิดว่าเป็นเรื่องเสียเวลาเพราะ คนเป็นพ่อแม่จะรู้สึกเสียดายเวลา เมื่อเวลาผ่านไป แล้วเราไม่สามารถที่จะมีเวลาแบบนี้กับลูกได้อีก....  

คำสำคัญ (Tags): #นิทาน
หมายเลขบันทึก: 272429เขียนเมื่อ 1 กรกฎาคม 2009 09:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 22:03 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

สนุกดีค่ะแต่มีคนลงน้อยจัง

LOVEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEELOVEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEELLLLLLLLLLLLLLLLLLLLLLLLLLLLLLLLLLLLLLLOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEE

สวัสดีค่ะอาจารย์สุรีรัตน์ 

  • โห...เป็นบันทึกที่ถูกใจครูตามาก ๆ ค่ะ
  • ครั้งหนึ่งเป็นคุณแม่ของลูกตัวน้อย  (ตอนนี้โตเป็นสาวสวยแล้วค่ะ)   พี่ตาชวนลูกอ่านหนังสือทุกคืน  เค้าเห็นการอ่านของแม่มาตั้งแต่แบเบาะ  เพราะพี่ตามีหนังสืออ่านไว้หัวเตียง  ก่อนนอนก็อ่าน...  เขาก็มาเปิดอ่านด้วย..อ่านรูปค่ะ 
  • โตขึ้นประมาณ 2-3 ขวบ เราเล่าเรื่อง /เล่านิทานจากธรรมชาติสิ่งแวดล้อมนี่แหละ  เช่นเรื่องสายฝน   เรื่องก้อนเมฆ   เรื่องลูกเจี๊ยบ เล่ากันไป  แล้วก้อพากันเขียนรูป  และเขียนเรื่องประกอบ  แม่เขียนลูกเป็นคนจินตนาการค่ะ 
  • โตขึ้นอยู่ป.2  อ่านหนังสือแตกหมด  แอบเอาเรื่องสั้นของแม่ติดกระเป๋าไปโรงเรียนทุกวัน  เขียนเรื่องลงสตรีสารด้วย
  • ตอนนี้จบป.ตรีเกียรตินิยมอันดับ 1 ครุศาสตร์จุฬาฯ ค่ะ
  • พี่จะเล่าขานกับคุณแม่รุ่นน้องเรื่องนี้เสมอ  เพื่อให้ได้ลูกที่รักการอ่าน  และจะไม่มีโอกาสไปติดเน็ต  ติดแช็ตเลยค่ะ     

สวัสดีค่ะ ครูตา เืรื่องการอ่านน้องเวลล์ชอบมากค่ะ ป.1 แต่อ่านหนังสือได้แตกฉานพอสมควรค่ะ เค้าชอบอ่านทุกอย่าง ป้าย ประกาศ กระดาษ ตรา ยี่ห้อ ฯลฯ อ่านไม่ออกก็จะจำมาถามเสมอ แต่ตอนนี้น้องมีปัญหานิดหน่อยเรื่องไมชอบเีขียน ไม่รู้จะำทำยังไงดีค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท