น้องเกี้ยว..สาวน้อยที่คิดบวกกับธาลัสซีเมียที่เผชิญมาตลอดชีวิต


ตรวจเลือดพบตั้งแต่ในครรภ์ ..ปัจจุบันถ่ายเปลี่ยนเลือดทุกเดือน

    เรียงความนี้กะว่าจะส่งให้ทันวันธาลัสซีเมียโลก เต่ส่งไม่ทันคะ พราะไม่ทันนึกถึงหนูเกี้ยว หลานสาวของเพื่อนสนิทของแม่ที่มีมุมมองธาลัสซีเมียแบบบวกๆ  ก็เลยขอนำมาลงเผยแพร่เป็นมุมมองให้ผู้เผชิญธาลัสซีเมียเช่นเดียวกับหนูเกี้ยว เพื่อเป็นกำลังใจคะ

        เรียงความเรื่อง โรคธาลัสซีเมีย

   ก่อนที่หนูจะพูดถึงเรื่องโรคโลหิตจาง หนูขอพูดประวัติย่อๆของหนูซึ่งเป็นโรคธาลัสซีเมียมานาน 12 ปีแล้ว หนูชื่อเด็กหญิงกัญจณัฐ ภู่พระสิงห์ ชื่อเล่นน้องเกี้ยว ปัจจุบันอายุ 12 ปี ขณะนี้กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รร.นครสวรรค์ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ หนูเป็นโรคธาลัสซีเมียตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ หมอตรวจเลือดพบจนใกล้คลอดแล้ว หนูเคยไปประชุมวันธาลัสซีเมียโลกที่รพ.รามาธิบดี จัดร่วมกับรพ.พระมงกุฏ, รพ.จุฬา, รพ.ศิริราช หนูไปกับย่า ซึ่งดูแลหนูตั้งแต่เกิด หนูรักษาตัวที่รพ.สวรรค์ประชารักษ์ อ.เมือง จ.นครสวรรค์  หนูเริ่มให้เลือดตั้งแต่อายุ 4 ปี หนูฟังคำบรรยายจากหมอและอ่านหนังสือที่หมอแจกให้ จึงได้มีความรู้ว่าประเทศไทยของเรามีคนเป็นโรคนี้ประมาณ 600,000 คน ซึ่งโรคนี้ได้รับการถ่ายทอดจากพ่อแม่ ซึ่งพ่อแม่มีโรคนี้แฝงอยู่ หรือเราเรียกว่าเป็นพาหะ  ฉะนั้นคนที่แต่งงานกันควรตรวจเลือดก่อน และต้องศึกษาหาความรู้ คนที่เป็นธาลัสซีเมียจะมีอาการซีด ยิ่งถ้าเป็นไข้ก็จะซีดมาก เพราะหนูเคยเป็นไข้เลือดออก หนูต้องเติมเลือด นอนโรงพยาบาลหลายวัน  คนที่เป็นโรคธาลัสซีเมียจะได้รับยีนผิดปกติจากพ่อแม่ จึงควรตรวจกรองธาลัสซีเมียที่รพ.ใหญ่ๆ แต่ถ้าแต่งงานแล้วตรวจพบว่าลูกเป็นธาลัสซีเมียต้องตรวจตั้งแต่ครรภ์อ่อนๆและควรฝากครรภ์ก่อน 3 เดือน ควรตรวจทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง

   ตัวหนูเองเป็นคนหนึ่งที่เป็นโรคนี้ ต้องไปเติมเลือดที่รพ.ทุกเดือน หนูต้องออกจากบ้านตั้งแต่ 05.30 น.ซึ่งเป็นรถโดยสารเที่ยวแรก เพราะต้องรีบไปเจาะเลือด ให้เลือดและพบหมอ การให้เลือดต้องใช้เวลานานประมาณ 2-3 ชั่วโมง หนูนอนให้เลือดเกือบ 10 ปีแล้ว การให้เลือดเสี่ยงต่อการเป็นโรคบางอย่าง นอกจากนี้ยังมีธาตุเหล็กเกิน ตอนกลางคืนต้องฉีดยาขับธาตุเหล็ก คืนละประมาณ 8-10 ชั่วโมง เดี๋ยวนี้หนูโตแล้วผสมยาเองได้ แต่ยังไม่กล้าฉีดตนเอง

     คนเป็นโลหิตจาง เมื่อมีอาการซีด ควรไปเติมเลือดตามที่หมอสั่งทุกเดือน หรือ 2 เดือนต่อครั้ง คนพวกนี้จะเหมือนคนทั่วไป เรียนหนังสือได้ดี มีชีวิตที่มีคุณภาพสดใส และแข็งแรง และทำอะไรได้มากเหมือนคนปกติหากมีความพยายามและตั้งใจ รวมทั้งมีกำลังใจที่เข้มแข็ง เป็นโรคนี้ไม่น่าอาย เราต้องสดใสร่าเริงเป็นคนดี

วิธีการรักษา

1  ให้เลือดทุกเดือนหรือ 2 เดือนครั้งตามคำสั่งหมอ

2  ถ้าให้เลือดเต็มที่ทุกเดือนต้องให้ยาขับธาตุเหล็กควบไปด้วย จะทำให้ผูป่วยแข็งแรงเหมือนคนปกติทุกประการ

3 รักษาโดยการปลูกถ่ายไขกระดูกจากพี่น้องท้องเดียวกัน หรือผู้อื่นที่ไม่เป็นญาติก็ได้

นอกจากนี้ยังควรปฏิบัติตัวให้สม่ำเสมอ คือ

1 ออกกำลังกายเท่าที่ทำได้ ไม่หักโหมจนเกินไป ไม่สูบบุหรี่

2 อาหาร คนที่เป็นโรคธาลัสซีเมียเม็ดโลหิตแดงแตกง่าย ร่างกายจึงพยายามสร้างเม็ดเลือดแดงใหม่ทดแทน  ควรรับประทานอาหารที่มีคุณภาพสูง เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ นม ผักสด ควรละเว้นอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง

3 ไม่ควรซื้อยากืนเอง  ต้องอยู่ในความดูแลของหมอ

4 ควรให้เลือดสม่ำเสมอ

    ตัวหนูเองปฏิบัติตัวโดยเคร่งครัด ให้เลือดเดือนละ 1 ครั้งๆละ 300 ซีซี โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่รพ.สวรรค์ประชารักษ์ ชื่อแพทย์หญิงกิติมา กาญจนกำแหง ซึ่งท่านเก่งมาก

   เรื่องทั้งหมดที่กล่าวมานี้ เป็นเรื่องของหนู และบางตอนหนูอ่านจากหนังสือที่แพทย์ส่งมาให้ ดูทีวี ฟังคำบรรยายจากการไปประชุม  หนูหวังว่าคงเป็นประโยชน์ต่อท่านผู้อ่านไม่มากก็น้อ ถึงแม้หนูจะเป็นเด็ก หนูก็ไปรักษาตัวกับหมอเป็นประจำมานานเกือบ 10 ปี ซึ่งตัวหนูเองก็อยากรักษาให้หายขาดจากโรคนี้ เพื่อหนูจะได้มีชีวิตที่ดีเหมือนคนอื่นๆ หนูอยากให้มีหน่วยงานของรัฐ หรือรพ.ช่วยให้คนที่เป็นโรคนี้ให้หายเป็นปกติ เพื่อให้เขาได้มีโอกาสช่วยประเทศมากขึ้น

 

คำสำคัญ (Tags): #ธาลัสซีเมีย
หมายเลขบันทึก: 272337เขียนเมื่อ 30 มิถุนายน 2009 21:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 มิถุนายน 2012 08:25 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

สวัสดีค่ะ

  • ครูตาของเป็นกำลังใจให้น้องเกี้ยวนะคะ
  • ไม่ทราบว่าน้องเขาเจอพี่เพชร - พี่ขวัญ มิสทาลัสซิเมียรึยัง
  • หาอ่านหนังสือของพี่ขวัญ  เรื่องนางสาวทาลัสซิเมียสิคะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท