สืบเนื่องจากผมได้ร่วมเป็นคณะทำงานจัดทำข้อเสนอแผนพัฒนาบุคลากรการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการได้มอบหมายให้ ดร.สมบัติ สุวรรณพิทักษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นหัวหน้าคณะทำงาน และ ผอ.กลุ่มการเจ้าหน้าที่ กศน.เป็นเลขานุการ ในการทำงานให้เป็นเอกสารผมได้รับมอบงานให้ทำหน้าที่สรุปให้เห็นภาพการคิดในเบื้องต้นเพื่อจะดั้นด้นค้นหาข้อสรุปเป็นแผนพัฒนา และข้อเสนอแก่รัฐบาลต่อไป ในการนี้ได้รวมรวมข้อมูลที่มีจากกลุ่มการเจ้าหน้าที่และเขียนเชื่อมโยงให้มีประเด็นที่จะใช้เป็นข้อมูลในการทำแผนพัฒนาบุคลากรให้สมบูรณ์ต่อไป ท่านใดอ่านแล้วมีความเห็นหรือข้อเสนอแนะอย่างไรขอให้ร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยครับ
วิเคราะห์โครงสร้างระบบบริหารและอัตรากำลัง
การจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย มีโครงสร้างระบบบริหารจากชุมชน โดยมีศูนย์การเรียนชุมชน เป็นสถานีบริการจุดแรกที่เปรียบเสมือนห้องเรียนที่จัดการความรู้ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ซึ่งมีศูนย์การเรียนชุมชนประจำตำบลประสานงานโครงข่ายการเรียนรู้เชื่อมโยงสู่ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอที่เป็นสถานศึกษา ทำหน้าที่จัดส่งเสริมประสานการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยในระดับอำเภอ ภายใต้การส่งเสริม สนับสนุนและกำกับของสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัด เพื่อแปลงนโยบายจากสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยในส่วนกลางสู่การปฏิบัติในสถานศึกษาและบริหารจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยในจังหวัด เพื่อสนองความต้องการของประชาชนและสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการสนับสนุนให้เกิดสังคมแห่งการเรียนรู้ สำหรับบทบาทหน้าที่ของหน่วยงานและสถานศึกษาที่เกี่ยวข้องได้แก่
สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
เป็นสำนักงานหนึ่งในสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ มีอำนาจหน้าที่ดังนี้
1. เป็นหน่วยงานกลางในการส่งเสริม สนับสนุน และประสานงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และรับผิดชอบงานธุรการของคณะกรรมการ
2. จัดทำข้อเสนอแนะ นโยบาย ยุทธศาสตร์ แผน และมาตรฐานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยต่อคณะกรรมการ
3. ส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินการพัฒนาคุณภาพทางวิชาการ การวิจัย การพัฒนาหลักสูตรและนวัตกรรมทางการศึกษา บุคลากร และระบบข้อมูลสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
4. ส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินการเทียบโอนผลการเรียน การเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ และการเทียบระดับการศึกษา
5. ส่งเสริม สนับสนุน และประสานงานให้บุคคล ครอบครัว ชุมชน องค์กรชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรเอกชน องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการ และองค์กรอื่น รวมตัวกันเป็นภาคีเครือข่าย เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งในการดำเนินงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
6. จัดทำข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์เครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สถานีวิทยุโทรทัศน์เพื่อการศึกษา วิทยุชุมชน ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ห้องสมุดประชาชน พิพิธภัณฑ์ ศูนย์การเรียนชุมชน และแหล่งเรียนรู้อื่น เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างต่อเนื่องของประชาชน
7. ดำเนินการเกี่ยวกับการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการดำเนินงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
8. ปฏิบัติงานอื่นใดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือกฎหมายอื่นที่บัญญัติให้เป็นอำนาจหน้าที่ของสำนักงาน หรือตามที่รัฐมนตรีมอบหมาย
สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัด
มีสถานภาพเป็นหน่วยงานในสังกัดของสำนักงาน เป็นหน่วยงานการศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานธุรการของคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัด/กรุงเทพมหานคร และมีอำนาจหน้าที่บริหารจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยภายในจังหวัด
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอ
มีสถานภาพเป็นสถานศึกษาทำหน้าที่ส่งเสริม สนับสนุน ประสานงานและจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยร่วมกับภาคีเครือข่าย โดยการดำเนินงานของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอ อาจจัดให้มีศูนย์การเยนชุมชนเป็นหน่วยจัดกิจกรรมและสร้างกระบวนการเรียนรู้ชุมชนได้
ศูนย์การเรียนชุมชน
เป็นศูนย์กลางการจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยในชุมชนเพื่อสร้างโอกาสในการเรียนรู้ การถ่ายทอดและเป็นเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ วิทยากร ตลอดจนภูมิปัญญาของชุมชน โดยมีศูนย์การเรียนชุมชนที่ได้รับการคัดเลือกให้ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการประสานงานกับศูนย์การเรียนชุมชนและหน่วยงานหรือองค์กรหรือกลุ่มต่างๆ ในชุมชนในการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยในตำบล
อัตรากำลัง
ในภาพรวมของอัตรากำลังของสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ซึ่งประกอบด้วยข้าราชการพลเรือนสามัญ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ลูกจ้างประจำ พนักงานราชการและครูศูนย์การเรียนชุมชน มีทั้งสิ้น 16,778 อัตรา ซึ่งสามารถจัดกลุ่มข้อมูล แสดงเป็นสารสนเทศได้ดังตารางและแผนภูมิต่อไปนี้
อัตรากำลังข้าราชการพลเรือน/ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและ
ลูกจ้างประจำ/พนักงานราชการ/ครู ศรช.
ประเภท |
จำนวน (อัตรา) |
ข้าราชการพลเรือน |
408 |
ข้าราชการครูและบุคลากรฯ |
2,841 |
ลูกจ้างประจำ |
1,304 |
พนักงานราชการ |
5,192 |
ครู ศรช. |
7,033 |
รวม |
16,778 |
อัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ตำแหน่ง |
จำนวน (อัตรา) |
ผู้บริหารการศึกษา |
|
- ผู้อำนวยการ |
76 |
- รองผู้อำนวยการ |
76 |
ผู้บริหารสถานศึกษา |
|
- ผู้อำนวยการ |
964 |
- รองผู้อำนวยการ |
24 |
ครู |
1,669 |
ศึกษานิเทศก์ |
32 |
บรรณารักษ์ |
383 |
เจ้าพนักงานห้องสมุด |
11 |
นักจัดการงานทั่วไป |
1 |
เจ้าพนักงานธุรการ |
1 |
รวม |
3,237 |
อัตรากำลังพนักงานราชการ
ตำแหน่ง |
จำนวน (อัตรา) |
ครูอาสาสมัครการศึกษาฯ |
5,018 |
ตำแหน่งอื่นๆ |
174 |
รวม |
5,192 |
(มีต่อ บันทึกถัดไป) http://gotoknow.org/blog/disakul/269800
เรียนถาท่านผอ.คะ
จะมีการเริ่มทกแผนพัฒนาบุคลากรกศน.เมื่อไรคะและถือว่าเป็นสิ่งที่ดีคะ เหมือนสิ่งที่พูดว่า
หน่วยงานที่ดี ต้องมีการพัฒนา
หน่วยงานที่ล่าช้า ต้องคำนวณถึงสิ่งใด
หน่วยงานที่รวดเร็ว ต้องรับใช้บริการ....
แผนพัฒนาจะเสร็จภายในเดือนหน้าครับ ซึ่งต้องเสนอผ่านให้ รมต.ศธ . พิจารณาพื่อขอรับการสนับสนุนทรัพยากรที่รัฐบาลพึงสนับสนุนได้อีกทีครับ อย่างเช่นที่รัฐบาลต้องการให้มีศูนย์การศึกษาตลอดชีวิตในพื้นที่นั้น เราก็เสนอว่าต้องการกำลังคนเพิ่มในการจัดการ ทั้งนี้ก็ต้องรอดูกันต่อไปครั บ
ขอเรียนถามผอ.ด้วยคนค่ะ..พนักงานราชการที่สอบขึ้นบัญชีไว้..มีโอกาสได้รับบรรจุเป็นข้าราชการไหมคะ...
จะนำแจ้งกับบุคลากรกศน.พนัสนิคมต่อไปค่ะ
ยังจะเรียกบรรจุจากพนักงานราชการส่วนหนึ่งครับ และโอนจากบรรณารักษ์เป็นครูอีกส่วนหนึ่ง แต่ยังไม่ทราบจำนวนครับ
ถ้าแผนพัฒนาผ่านด้วยดี ก็คงต้องมุ่งความสำคัญไปที่ ศูนย์การเรียนชุมชนแหละครับ การมีครู ศรช.เพียงคนเดียวจะพอเพียงกับภาระกิจในท้องที่หรือไม่ ตำบลหนึ่งคงมี ครู ศรช.เพียงคนเดียวไม่ได้ หากต้องการผลงานที่ดี ครูอาสาก็คงเป็นตัวประสานอีกระดับหนึ่ง เอาไว้แผนผ่านก่อนแล้วค่อยมาวิเคราะฆ์เส้นทางเดินอีกที เพราะดูอัตรากำลัง ครูแล้ว เฉลี่ยอำเภอละ 2 คนเท่านั้นเองนะ จะพอกับโครงสร้างหรือเปล่าหนอ เพราะส่วนใหญ่จะไปพอกอยู่กับอำเภอใหญ่ๆ แสดงว่าอำเภอเล็กๆไม่มี ครูอยู่เลยมั๊ง ดูไม่สอดคล้องกับโครงสร้าง ศูนย์อำเภอเลย
ขออนุญาตเห็นด้วยกับท่านผอ.อนันต์ครับผม