๓๕.การเป็นบุตรชอบด้วยกฏหมาย


บุตรที่ชอบด้วยกฏหมาย

Æ การเป็นบุตรขอบด้วยกฎหมายของ

บิดามารดา Å

* การสมรสในที่นี้ หมายถึง การจดทะเบียนสมรสกัน โดยถูกต้องตามกฎหมาย

                ๑.๑ เด็กเกิดจากหญิงที่มิได้มีการสมรสกับชายให้ถือว่าเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของหญิงนั้น

    ๑.๒ เด็กเกิดแต่หญิงขณะเป็นภริยาชาย ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า  เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของชายผู้เป็นสามี

๑.๓  เด็กเกิดแต่หญิง  ภายใน ๓๑๐ วัน  นับแต่วันที่การสมรสกับชายได้สิ้นสุดลง  ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า  เป็นบุตรชอบด้วยกฎหายของชายผู้เคยเป็นสามี

๑.๔ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า บุตรที่เกิดจากหญิง  ก่อนที่ได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลแสดงว่าการสมรสเป็นโมฆะ  หรือภายในระยะเวลา ๓๑๐ วัน นับแต่วันนั้น   เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของชายผู้เป็นสามี หรือเคยเป็นสามี

๑.๕  กรณีที่หญิงทำการสมรสใหม่  และคลอดบุตรภายใน  ๓๑๐  วัน  นับแต่วันที่การสมรสเดิมสิ้นสุดลง  ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า เด็กที่เกิดแต่หญิงนั้นเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของชายผู้เป็นสามีคนใหม่  เว้นแต่  มีคำพิพากษาของศาลแสดงว่า เด็กมิใช่บุตรชอบด้วยกฎหมายของชายผู้เป็นสามีคนใหม่นั้น

๑.๖  ในกรณีที่ชายหรือหญิง สมรสซ้อน   เด็กที่เกิดในระหว่างสมรสซ้อนนั้น ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของชายผู้เป็นสามี  ซึ่งจดทะเบียนสมรสครั้งหลัง

* ถ้าศาลพิพากษาว่า  บุตรนั้นมิใช่บุตรชอบด้วยกฎหมายของชายผู้เป็นสามี  ซึ่งได้จดทะเบียนสมรสครั้งหลัง  ให้นำข้อสันนิษฐานตาม ข้อ ๑.๒  และ ๑.๓  มาใช้บังคับ

* ให้นำข้อ ๑.๖  มาใช้บังคับแก่เด็กที่เกิดภายใน ๓๑๐  วัน  นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด  ให้การสมรสซ้อนนั้นเป็นโมฆะด้วย

การฟ้องไม่รับเด็กเป็นบุตรกรณีที่กฎหมายให้สันนิษฐานว่าเด็กเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย   ของชายผู้เป็นสามีหรือเคยเป็นสามี  ชายนั้นจะไม่รับเด็กเป็นบุตรของตน         ก็ได้  โดยฟ้องเด็กกับมารดาเด็กเป็นจำเลยร่วมกัน   โดยพิสูจน์ว่า

                ๑. ตนไม่ได้อยู่ร่วมกับมารดาเด็ก ในระยะเวลาตั้งครรภ์ คือ ระหว่าง ๑๘๐ วัน  ถึง ๓๖๐ วัน ก่อนเด็กเกิดหรือ

๒. ตนไม่สามารถเป็นบิดาของเด็กได้ เพราะเหตุอย่างอื่น

* ถ้าขณะยื่นฟ้อง มารดาเด็กไม่มีชีวิตอยู่ จะฟ้องเด็กแต่ผู้เดียวเป็นจำเลยก็ได้

* ถ้าเด็กไม่มีชีวิตอยู่  ไม่ว่ามารดาของเด็ก จะมีชีวิตอยู่หรือไม่ จะยื่นคำร้องขอให้ศาลแสดงว่า  เด็กนั้นไม่เป็นบุตรก็ได้

* ชายผู้เป็นหรือเคยเป็นสามี  จะฟ้องคดีไม่รับเด็กเป็นบุตรไม่ได้ ถ้าปรากฏว่า ตนเป็นผู้แจ้งการเกิดของเด็กในทะเบียนคนเกิดเองว่า เป็นบุตรของตนหรือจัดหรือยอมให้มีการแจ้งดังกล่าว

 

*  ผู้มีสิทธิฟ้องคดีไม่รับเด็กเป็นบุตร *

๑. ชายที่ถูกสันนิษฐานว่าเป็นบิดา

             ๒. ผู้มีสิทธิได้รับมรดกร่วมกับเด็ก  หรือผู้จะเสียสิทธิรับมรดก เพราะการเกิดของเด็ก

               

* ผู้มีสิทธิฟ้องคดีตามข้อ ๒  จะฟ้องได้ต่อเมื่อ

                ๑. ชายผู้เป็นสามีหรือเคยเป็นสามี  ตายก่อนพ้นระยะเวลาที่ชายผู้เป็นหรือเคยเป็นสามีจะพึงฟ้องได้ และต้องฟ้องภายใน ๖ เดือน นับแต่วันที่รู้ถึงการตายของชายผู้เป็นหรือเคยเป็นสามี

               ๒. เด็กเกิดภายหลังการตายของชายผู้เป็นหรือเคยเป็นสามี และต้องฟ้องภายใน ๖  เดือน  นับแต่วันที่รู้ถึงการเกิดของเด็ก

                *  แต่ไม่ว่าเป็นกรณีใด ห้ามมิให้ฟ้องเมื่อพ้น ๑๐ ปี นับแต่วันเกิดของเด็ก *

 

ระยะเวลาการฟ้องคดีไม่รับเด็กเป็นบุตร

- การฟ้องคดีไม่รับเด็กเป็นบุตร ชายผู้เป็นหรือเคยเป็นสามี ต้องฟ้องภายใน ๑ ปี นับแต่วันรู้ถึงการเกิดของเด็ก  แต่ห้ามมิให้ฟ้องเมื่อพ้น ๑๐ ปี  นับแต่วันเกิดของเด็ก

                - กรณีที่ศาลพิพากษาว่า เด็กมิใช่บุตรของชาย       ผู้เป็นสามีคนใหม่ หรือชายผู้เป็นสามีในการสมรสครั้งหลัง               ถ้าชายผู้เป็นสามีหรือเคยเป็นสามีที่ต้องด้วยข้อสันนิษฐานว่าเด็กเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของตน  ประสงค์จะฟ้องคดีไม่รับเด็กเป็นบุตรให้ฟ้องคดีภายใน ๑ ปี นับแต่วันที่รู้ว่ามีคำพิพากษาถึงที่สุด

 

* * เด็กจะฟ้องคดีปฏิเสธความเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของชายนั้นก็ได้ โดยร้องขอต่ออัยการ

เด็กเกิดจากบิดา มารดา ที่มิได้สมรสกันจะเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของบิดาต่อเมื่อ

๑. บิดามารดาได้สมรสกันในภายหลัง

๒. บิดาได้จดทะเบียนว่าเป็นบุตร  (มารดาและบุตรต้องให้ความยินยอมด้วย)

๓. ศาลพิพากษาว่าเป็นบุตร

----------------------------------------------------------------------------------------------

หมายเลขบันทึก: 268636เขียนเมื่อ 16 มิถุนายน 2009 21:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 10:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

สวัสดีค่ะ

  • แบบนี้เคยเห็นเด็กเรียนในสาระสังคมศึกษา ฯค่ะ
  • จะได้แนะนำเด้กมาเรียนรู้ค่ะ
  • สบายดีนะคะ งานหนักหรือเปล่าคะ
  • สวัสดีครูคิม
  • ช่วงนี้จะหนักหน่อย กำลังเร่งจัดสัมมนา
  • หวังว่าอาจารย์คงสบายดี อย่าลืมสุขภาพและรักตัวเองครับ
  • สวัสดีค่ะ
  • อยากทราบว่าถ้าจะฟ้องเอาบุตรมาเลี้ยงเองหลังจากเลิกกับแฟนแล้วจะทำอย่างไง
  • บุตรเป็นผู้ชาย
  • บุตรไม่ใช้ลูกของผู้ชายที่เลี้ยงบุตรอยู่
  • แต่ในใบเกิดผู้ชายคนนี้เขารับเป็นบิดา
  • ทางบ้านของผู้ชายคนนี้ก็ไม่รู้ว่าไม่ใช้หลานของตัวเอง
  • ถ้าเราจะเอาลูกคืนมีสิทธิ์จะได้คืนไหม
  • แล้วเราจะโดนทางฝ่ายชายฟ้องกลับเรื่องอะไรบ้าง
  • ช่วยตอบหน่อยน่ะค่ะเพราะอยากทราบมาก
  • ขอขอบพระคุณอย่างยิ่งค่ะ
  • เรียน คุณโอ๋
  • กรณีของคุณไม่ทราบว่าได้จดทะเบียนสมรสกับฝ่ายชายหรือไม่ ถ้าไม่ได้จดทะเบียนเขาก็ไม่มีสิทธิ์ เพราะตามกฎหมายบุตรต้องเป็นของฝ่ายหญิงอยู่แล้ว  หากดูตามที่ให้ข้อเท็จจริงมา ฝ่ายชายเพียงลงชื่อรับเป็นบุตรในใบแจ้งเกิดเท่านั้น จึงไม่มีสิทธิที่จะนำบุตรไปเลี้ยง ได้ หากไม่ใช่บุตรของฝ่ายชายปัจจุบันก็สามารถพิสูจน์ทางพันธุรรมทางวิทยาศาสตร์ได้
  • อย่างไรก็ตาม เนื่องจากข้อเท็จจริงที่ให้มา ยังไม่สามารถจะให้คำแนะนำที่กระจ่างได้ จึงขอให้ท่านโทร.ไปปรึกษากฎหมายได้ที่หมายเลข โทร. 1157
  • ขอบคุณ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท