วุฒิ(นามสมมุติ) เป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวี
รับยาต่อเนื่องมา 4 ปีแล้ว
สุขภาพร่างกายแข็งแรงปกติดี
วันนี้วุฒิ มารับยาต้านไวรัสต่อเนื่อง
พยาบาล : ทานยาตรงเวลาหรือเปล่าค่ะ
วุฒิ : ตรงเวลาครับ เวลาทำงาน หรือติดธุระออกนอกบ้าน
ผมจะพกยาไปด้วย
พยาบาล : มีอาการผิกปกติไม๊
วุฒิ : ไม่มีครับ
พยาบาล : วุฒิหน้าตาสดชื่นดีนะ มีแฟนใหม่ใช่เปล่า ...
วุฒิ : .... หมอรู้ได้อย่างไง
พยาบาล : ฮั่นแน่ มีจริงๆใช่เปล่า
วุฒิ : มีมา 3 ปี แล้วครับ
พยาบาล : แล้ววุฒิป้องกัน(ใช้ถุงยางอนามัยหรือเปล่า)
หรือเปล่า
วุฒิ : แรกๆก็ป้องกัน แต่พักหลังไม่ได้ป้องกัน 2 ปีกว่าแล้ว
ครับ
พยาบาล : แล้วคิดอย่างไร ไม่กลัวเค้าติดเชื้อเหรอ
บาปกรรมนะ
วุฒิ : ผมไม่กล้าบอกครับ เค้าดุมาก ถ้าเค้ารู้ว่าผมเป็น
เอดส์เค้าเอาผมตายแน่
พยาบาล : พี่ช่วยได้ พาเค้ามาหาพี่ พี่ไม่บอกหรอกว่า
วุฒิรู้มานานแล้ว พี่จะช่วยว่าวุฒิเพิ่งมาตรวจ
เลือด แล้วพยาบาลให้พาภรรยามาด้วย
เช้าวันรุ่งขึ้น วุฒิพาภรรยามาหาพี่พยาบาลแต่เช้า
"หลังจากพูดคุยกับภรรยาของวุฒิแล้ว ภรรยาบอกว่าถ้าวุฒิมีเชื้อเอชไอวีจริงก็ไม่เป็นไร จะรักและดูแลไม่ทิ้งกัน"
ผลเลือดของภรรยาวุฒิพบว่าไม่ติดเชื้อ
ในกรณีอย่างนี้ มีผู้ป่วยจำนวนมากที่ปิดบังคู่
แล้วด้วยบทบาทหน้าที่ของทีมผู้รักษา ดูแล จะใช้กลยุทธ วิธีการ เพื่อให้คู่ของผู้ป่วยได้รับการตรวจเลือดเพื่อ
* ถ้าตรวจเลือดแล้วพบว่ายังไม่ติดเชื้อจะเป็นการช่วยให้ไม่ติดเชื้อ เพราะคู่ของผู้ติดเชื้อจะได้รับทราบวิธีการป้องกันการติดเชื้อ การอยู่ร่วมกันในครอบครัว ในสังคม
*ถ้าตรวจเลือดแล้วพบว่าติดเชื้อแล้ว จะเป็นการช่วยให้ป้องกันไม่ให้ป่วย ไม่ให้เข้าสู่ระยะของภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง คือไม่มีอาการของโรคเอดส์นั่นเอง เพราะจะได้เข้าระบบการรักษาด้วยยาต้านไวรัส แล้วร่างกายจะมีภูมิคุ้มกันสูงขึ้น มีร่างกายแข็งแรงปกติ
ไม่มีความเห็น