โล่งใจกันไปอีกเปลาะหนึ่งสำหรับบรรดาผู้ประกอบการ
ร้านอินเทอร์เน็ตและเกมที่ลุ้นกันมานานว่า
ภาครัฐจะวางกรอบใดลงมาให้เดินกันแน่ในเรื่องของเวลาเปิด-ปิดการให้บริการ
ทั้งนี้ผลการประชุมร่วมกันระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมกับกลุ่มผู้ประกอบการ
เมื่อวันที่ 7 เม.ย.
ได้ชี้ชัดให้ธุรกิจประเภทนี้สามารถเปิดให้บริการได้ตามอัธยาศัยตลอด 24
ชั่วโมง กระนั้นเสียงสะท้อนของปัญหาก็ยังไม่จางหายไปเสียทีเดียว
ไม่ว่าจะเป็นมาตรการ ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีใช้บริการในช่วงหลัง
22.00 น. และปัญหาการปฏิบัติหน้าที่ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ซึ่งน่าจะเป็นภาระหนักสำหรับเจ้าภาพรายใหม่อย่างกระทรวงวัฒนธรรม
ไม่น้อยไปกว่าการกำหนดช่วงเวลาเปิด-ปิดร้านเลยทีเดียว
นายสุวรรณ ไชยบุตร
เจ้าของร้านอินเทอร์เน็ตและเกมแห่งหนึ่งในย่านโชคชัย 4
ให้ความเห็นเกี่ยวกับการเข้ามาดูแลของกระทรวงวัฒนธรรมว่า
รู้สึกเห็นด้วยกับการ มีหน่วยงานเข้ามาดูแล
แม้จะไม่ใส่ใจนักว่าเป็นใคร เพราะแท้จริงแล้วสิ่งที่ต้องการก็คือ
การออกกฎระเบียบที่จริงจังเป็นมาตรฐานเดียวกัน
เพื่อจะได้ปฏิบัติตามได้ถูกต้อง และอีกอย่างหนึ่งก็คือ
ไม่อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามายุ่งเกี่ยว
เพราะที่ผ่านมามีตำรวจเข้ามาไล่ ลูกค้าเด็กๆ ตั้งแต่ 17.00 น.
ทั้งที่ทางร้านได้พยายามเปิดรับเด็กนักเรียนหลัง 15.30 น.
และให้เด็กที่อายุไม่ถึง 18 ปี กลับเมื่อถึงเวลา 22.00 น.แล้ว
ตามมาตรการที่กำหนดให้เปิดให้บริการแก่ลูกค้าวัยเรียนได้ในช่วง 14.00
– 22.00 น.
“เราเข้าใจว่าตำรวจเองก็ต้องทำหน้าที่ของเขา
แต่อยากให้มีข้อกำหนดที่ชัดเจนว่า ห้ามไม่ให้ทำอะไรบ้าง และอย่างไร
โดยยินดีจะปฏิบัติตามทุกเรื่อง แต่ต้องขอให้ทุกร้าน
ใช้มาตรฐานเดียวกันด้วย”
ผู้ประกอบธุรกิจบริการอินเทอร์เน็ตและเกมรายนี้
กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
มองมาที่ร้านอินเตอร์เน็ตและเกมในละแวกมหาวิทยาลัยกันบ้าง นายประธาน
อำนวยสุขวงศ์ เจ้าของร้าน I grace internet & game station
ตรงข้ามมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวถึงปัญหาที่พบว่า
ควรมีการดูแลเรื่องลิขสิทธิ์เกมให้ทั่วถึงมากขึ้น
เพราะจากประสบการณ์บอก
ได้เลยว่ามีการละเมิดลิขสิทธิ์กันมากและมีทุกที่
แต่บางครั้งทางราชการเห็นเป็นร้านเล็กๆ จึงไม่ให้ความสนใจเท่าที่ควร
ส่วนการควบคุมเรื่องอายุผู้ใช้บริการนั้นมองว่าห้ามได้ยาก
เพราะยังมีบางร้านเปิดให้บริการอยู่
สำหรับ นายวินิจ ซื่อสัตย์ ร้านชิงช้าไม้
หนึ่งในร้านอินเทอร์เน็ตและเกมหลังมหาวิทยาลัย ราชภัฎจันทรเกษม
ที่ทุกร้านพร้อมใจกันติดประกาศเรื่องการงดให้บริการแก่เด็กอายุต่ำกว่า
18 ปีไว้อย่างพร้อมเพรียง บอกมาตรการนี้เป็นสิ่งที่ดี
เพราะทั้งร้านของตนและร้านอื่นๆ
ในบริเวณใกล้เคียงก็มักไม่รับลูกค้าอายุน้อยๆ อยู่แล้ว
เนื่องจากมีปัญหามาก พ่อแม่มาตามบ้าง เสียงดังบ้าง ทำให้วุ่นวาย
เจ้าของร้านชิงช้าไม้
มีคำถามถึงหน่วยงานราชการผู้ดูแลในเรื่องการควบคุมเวลาเล่นเกมว่า
ทำไมจึงไม่ไปควบคุมที่บริษัทเกมให้ปิดเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งน่าจะได้ผลกว่า
และสำหรับการเข้ามาดูแลร้านอินเทอร์เน็ตและเกมของกระทรวงวัฒนธรรมนั้น
คิดว่าถ้าออกมาตรการอะไรที่เกินความจริงออกมาก็คงรับไม่ไหว
และอยากบอกว่าทุกปัญหามีทางออกที่ดีอยู่แล้ว
อย่างเรื่องการเปิดเว็บลามกอนาจาร ถ้าแต่ละร้านจัดที่นั่งให้ดี
หันหน้าจอมาให้เห็นกันชัดๆ
ก็ไม่มีลูกค้าคนไหนกล้าเปิดดูอยู่แล้ว
ด้านความคิดเห็นของสมาพันธ์และสมาคมของผู้ประกอบการร้านอินเตอร์เน็ตและเกม
ต่างๆ นั้น นายเฉลิมศักดิ์ เลิศลบธาตรี
นายกสมาคมผู้ประกอบการร้านอินเทอร์เน็ตไทย บอกว่า
ยังไม่ขอออกความเห็นในเรื่องนี้ เพราะอยากให้เรื่องถึงบทสรุปจริงๆ
เสียก่อน โดยต้องรอทางกระทรวงมหาดไทยด้วย ทั้งนี้ การจะเปิด-ปิด
ช่วงเวลาใดนั้น ต้องตอบว่าเป็นการแก้ปัญหาสังคมในจุดใด
เพราะถึงแม้จะมีมาตรการเกี่ยวกับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี แต่คนที่อายุ
18-20 ปีก็คือนักศึกษาที่ยังขอเงินพ่อแม่อยู่
“ต้องแยกประเด็นให้ออกระหว่างเรื่องร้านอินเทอร์เน็ตกับร้านเกม
เพราะตอนนี้สังคมกำลังสับสน
และภาพลักษณ์ของร้านอินเทอร์เน็ตในปัจจุบันค่อนข้างออกมาในทางลบ
ทุกวันนี้ปัญหา เกิดจากเกม แต่ถึงเวลาที่ถกเถียงหาทางออก
กลับหยิบยกเรื่องอินเทอร์เน็ตขึ้นมาพูดกัน
จึงขอติงเรื่องการหาคำตอบให้กับสังคมเกี่ยวกับเหตุผลที่ให้เปิดบริการร้าน
เกม 24 ชั่วโมง นอกจากนี้
ยังต้องการให้มีข้อตกลงที่ชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษร
เพื่อการปฏิบัติที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันและเท่าเทียมกัน”
นายกสมาคมผู้ประกอบการร้านอินเทอร์เน็ตไทย กล่าวให้ข้อคิด
ส่วน นายชวพงษ์ นัยนะแพทย์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย สมาพันธ์ผู้ประกอบการ
อินเทอร์เน็ตแห่งประเทศไทย อธิบายว่า เรื่องมาตรการที่กระทรวงวัฒนธรรม
กำหนดให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีใช้บริการร้านอินเตอร์เน็ตได้ระหว่าง
14.00 – 22.00 น.
นั้นเป็นไปตามพระราชบัญญัติเด็กและเยาวชนที่ให้เด็กทำสิ่งต่างๆ
อยู่นอกที่พักอาศัยได้ไม่เกิน 22.00 น. อยู่แล้ว
และทางสมาพันธ์ยินดีให้ความร่วมมือกับกระทรวงวัฒนธรรม
ในการปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ ทุกเรื่อง
รวมถึงการให้ความช่วยเหลือแก่สังคมด้วย
ตัวแทนจากสมาพันธ์ผู้ประกอบการอินเทอร์เน็ตแห่งประเทศไทย
ยังระบุด้วยว่า สำหรับสิ่งที่คาดหวังให้ภาครัฐเข้ามาดูแลเพิ่มขึ้น
ก็คือ ปัญหาเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของ เจ้าหน้าที่ตำรวจ
เกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้ประกอบการ
ซึ่งทุกวันนี้ยังมีกรณีที่ร่วมกับคนบางกลุ่ม
ที่ไม่หวังดีเข้าจับกุมร้านอินเตอร์เน็ตโดยไม่มีหมายค้น
ซึ่งตรงนี้ตนเคยทำหนังสือถามกฤษฎีกาแล้วได้ความว่า
เป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ แต่ทุกวันนี้ก็ยังทำกันอยู่
ทำให้ผู้ประกอบการถูกบีบและเดือดร้อนมาก เพราะมีผลต่อธุรกิจ
กว่าเรื่องจะจบก็ต้องใช้เวลาถึง 3 ปี ซ้ำยังต้องจ่ายค่าประกันตัวถึง
50,000 บาทด้วยไม่ว่าจะผิดจริงหรือไม่ก็ตาม
ความคลางแคลงใจเหล่านี้ดูเหมือนจะได้รับคำตอบที่ค่อนข้างน่าพอใจแล้วส่วน
หนึ่ง สำหรับผู้ประกอบการร้านอินเทอร์เน็ตและเกม เมื่อ น.ส.ลัดดา
ตั้งสุภาชัย ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม
ได้ให้คำตอบเกี่ยวกับปัญหาระหว่างผู้ประกอบการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า
ทางกระทรวงได้ทำหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทย และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
เพื่อแจ้งไปยังท้องที่ทุกแห่งแล้ว เกี่ยวกับมาตรการต่างๆ
ที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ทั้งนี้ ทุกอย่างจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปสั่งปิดร้านผู้ประกอบการไม่ได้
และจะเป็นผู้ลงมาช่วยดูแลเด็กๆ ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี เมื่อถึงเวลา
22.00 น. เท่านั้น
ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม มีมุมมองเกี่ยวกับปฏิกิริยาของ
เหล่าผู้ประกอบการฯ ด้วยว่า
ผู้ประกอบการให้ความร่วมมือกับกระทรวงวัฒนธรรม
เป็นอย่างดีและเพิ่มขึ้นมาก ทั้งในเรื่องการดูแลเด็กที่มีอายุต่ำกว่า
18 ปี และการขอใบอนุญาตฉายฯ
เพื่อให้เป็นร้านอินเทอร์เน็ตและเกมที่ถูกต้องตามกฎหมาย
รวมถึงการตอบรับเข้ามาร่วมกลุ่มเฝ้าระวังเพื่อช่วยเหลือสังคม เช่น
การช่วยจัดทำรายชื่อเกมที่ไม่เหมาะสมให้แก่กระทรวง สำหรับการจัด Rate
ของเกม เป็นต้น
“นโยบายของกระทรวง คือ
การดูแลผู้ใช้บริการโดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชนด้วยความห่วงใย
และชวนผู้ประกอบการเข้ามาร่วมดูแลด้วยกัน ทั้งนี้แนวคิดสำคัญ คือ
มองว่าผู้ประกอบการเป็นพันธมิตรของเรา ไม่ใช่มิจฉาชีพที่ทำร้ายเด็ก
และชวนให้เขาเข้ามาเป็นกลุ่มเฝ้าระวังเพื่อช่วยเหลือสังคมด้วย”
ผอ.ลัดดา กล่าวเสริม
ย้อนกลับมาถามความรู้สึกของเด็กและผู้ปกครองที่ได้รับผลในเรื่องนี้โดยตรง
กันบ้าง นายจิรวัฒน์ วิจักษณบดี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
เกมเมอร์ผู้มีอายุคาบเกี่ยวมาตรการ ห้ามไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 18
ปีใช้บริการร้านอินเตอร์เน็ต มองว่ามาตรการดังกล่าวเป็นเรื่องที่ดี
เพราะจะได้ไม่ต้องอยู่ดึก แต่ก็อาจมีปัญหาอยู่บ้าง
เพราะเท่าที่สังเกตดูบางร้านก็ปฏิบัติ แต่บางร้านก็ไม่ เช่น
เวลาตำรวจจะเข้ามาตรวจก็ให้เด็กกลับบ้านไปก่อนแล้วค่อยมาใหม่ หรือ
ปิดประตูหน้าร้าน แต่มีเด็กเล่นอยู่หลังร้านก็มี ทั้งนี้โดยส่วนตัว
ใช้เวลาเล่นเกมที่บ้านบ้างและ ตามร้านบ้านตั้งแต่ 18.00 – 24.00 น.
โดยประมาณ และไม่คิดว่าเดือดร้อนอะไร
ส่วน ว่าที่ร้อยตรีสายชล ศรีสุข อายุ 41 ปี
ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ในฐานะที่เป็นคุณพ่อว่า
เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการเข้ามาควบคุมดูแลเรื่องระยะเวลาการเล่นเกมของเด็ก
ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี แต่ก็ไม่ 100%
เพราะคิดว่ายังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงก็คือ
ความจำเป็นของเด็กบางคนที่บ้านไม่มีอินเทอร์เน็ต
แต่จำเป็นต้องค้นคว้าทำรายงาน ซึ่งเด็กส่วนนี้จะได้รับผลกระทบมาก
ดังนั้น การใช้มาตรการใดใดจึงต้องดูจุดประสงค์ของเด็กด้วย
“สิ่งสำคัญของการดำเนินมาตรการนี้ก็คือ
จิตสำนึกของเจ้าของร้านที่จะให้ความร่วมมือ
พร้อมกันนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ควรช่วยสอดส่องดูแลเมื่อถึงเวลา
แต่ไม่ใช่การควบคุมหรือทำโทษแต่อย่าง ใด
เพียงแต่เป็นหูเป็นตาว่าเด็กเล็กๆ กลับบ้านเมื่อถึงเวลาแล้วหรือยัง
ส่วนเด็กที่โตแล้วก็ไม่ต้องห่วงมาก เพราะเขามีวุฒิภาวะพอ
ไม่นานก็กลับบ้านเองได้” คุณพ่อวัย 41 ปีฝากข้อคิดเห็นทิ้งท้าย
เมื่อผู้ประกอบการตระหนักถึงปัญหาของสังคมและ ยินดีน้อมรับมาตรการหรือ
ข้อตกลงต่างๆ มากขึ้น ภาครัฐพยายามหาช่องทางรับฟังความคิดเห็น
ของผู้ประกอบการอย่างจริงจัง เยาวชน ผู้ปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ
และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดี
ปัญหาทุกอย่างก็ย่อมจะเบาบางลง และเห็นทางออกที่ชัดเจนขึ้น
เพราะจุดใหญ่ใจ
ความของเรื่องนี้ก็คือการสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกันนั่นเอง…
บทความโดย ปาจารีย์ พวงศรี
บทความจาก : ไทยรัฐ
วันที่ : 17 เมษายน 2549
ที่มา :: http://www.bcoms.net/article/detail.asp?id=231
<hr width="100%" size="2" />