ภาพยนตร์โฆษณา


ผลิตภัณฑ์เบบี้มายด์ เจ้าของสโลแกน "แม่...หนูเกลียดผู้ชาย"

หลายครั้งที่นั่งดูรายการในทีวี  เมื่อก่อนชอบดูหนัง ดูละคร หรือไม่ก็ รายการวาไรตี้                           พักหล้งหันมาดูรายการข่าว หรือไม่ก็สรุปข่าวตามช่องต่าง ๆ ที่มีอยู่ในทีวีไทย                                  แต่ด้วยความน้ำเน่าที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงของละคร ที่มุ่งตอบสนองไลฟ์สไตล์                                 ของผู้บริโภคคนไทย ยุคไหน ๆ ก็ไม่ยอมเปลี่ยน และอีก รายการข่าว เมื่อก่อน                                   ก็ชอบ เพราะชอบผู้ดำเนินรายการหรือคนอ่าน แต่เดี๋ยวนี้ มันน่าเบื่อทั้งละครทั้งข่าว

เพราะข่าวเดี๋ยวนี้ ดูแล้วเครียด ประมาณว่า "ข่าวชั่วลงฟรี  ข่าวดีต้องจ่ายตัง"                                    ผู้คนเลยมักไม่ค่อยได้บริโภคข่าวดีกัน ว่ากันอย่างงั้น  และบางครั้งผู้ดำเนินรายการก็ค่อนข้างนำเสนอความคิดเห็นและอารมณ์ของตัวเองลงไปด้วย มันเลยทำให้ข่าว กลายเป็นการประโคมข่าว คนดูคนฟังเลยเกิดอาการไม่ชอบใจ

ในทัศคติของคนเขียนเอง ใจเป็นกลาง  ทำใจ+ปล่อยวาง ก็อยู่ได้ แต่บางครั้งก็แอบภาวนาไม่อยากให้เกิดเรื่องเลวร้ายใด ๆ เลย 

จึงหันมาดูรายการ "ภาพยนตร์โฆษณา" ซึ่งดูแล้วให้ข้อคิดเยอะ ว่าไปแล้วเยอะกว่าข่าว มากกว่าละครก่อนข่าวหลังข่าวซะอีก บางทีก็ดูไปยิ้มไปมีความสุขดี  "ยิ้มได้" คนคิดโฆษณาเก่ง สามารถผูกเรื่องขึ้นมาให้คนจดจำได้ ลักษณะเด่นของโฆษณา อาจจะเป็นต้วแสดง หรือแม้แต่เพลงประกอบ ที่ทำให้คนดูจำได้ เช่น โฆษณาน่ารัก ๆ อย่าง ผลิตภัณฑ์เบบี้มายด์ เจ้าของสโลแกน "แม่...หนูเกลียดผู้ชาย"     และอีกตัวนึง คนเขียนจำไม่ได้ว่าเป็นผงปรุงรส ชนิดหนึ่ง "ที่ลูกสาว เป็นคนชอบสงสัย ถามว่า ทำไม ๆ ๆ ๆ ...."   และยังมีโฆษณาอื่น ๆ อีกมากมายเลย ที่น่าชมและมีสาระ                       

 

หมายเลขบันทึก: 264853เขียนเมื่อ 31 พฤษภาคม 2009 23:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 มิถุนายน 2012 18:57 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มาจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ภาพยนตร์โฆษณาดีๆมีหลายเรื่องทีเดียวเลย ชอบโฆษณาผงซักฟอกที่เด็กคนหนึ่ง ทำเป็นผีหลอกพวกรถซิ่ง คิดได้ดี

ขอบคุณค่ะ คุณ ป.1

ยินดีและขอบคุณสำหรับความเห็นเพิ่มเติม ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันนะคะ และเห็นด้วยกับครู ป 1 ค่ะ คนทำโฆษณาปัจจุบันนี้ เก่งคิดอะไรออกมาสะท้อนให้เห็นภาพแห่งความเป็นจริงในสังคมบ้านเรา

ยายธีก็ชอบดูหนังโฆษณาค่ะ..เมื่อสามสี่ปีก่อน...เขาใช้สโลแกนว่า..ป ปลานั้น....นั้นหายาก....ก็เป็นมุมมองหนึ่งในประเทศไทยที่ในน้ำไม่มีปลาในนาไม่มีข้าว...เหมือนตอนเป็นกรุงสุโขทัย...กรุงเทพเป็นเมืองเทวดา..เทวดาทำนาไม่เป็น..ได้แต่ขายที่ทำนาไปสร้างโรงงานจนน้ำเน่าไปหมด..ป ปลาเลยหายากขึ้นทุกที..นิยายน้ำเน่าก็เกิดขึ้นแทนปลา...อิอิ...ยายธีดูหนังโฆษณามากไปหน่อยเลยเพ้อเจ้อค่ะ

ขอบคุณยายธีค่ะ

ที่กรุณาเข้ามาอ่านBlog ร่วมกันคิด ร่วมกันสร้างสรร ค่ะ มีมุมมองที่เปลี่ยนแปลงไป อย่างไรเสีย ก็ยังรู้สึกดีดี กับภาพยนตร์โฆษณาดีดี ที่คนคิด เขาคิดนะคะ ในเชิงสร้างสรร

เราสนับสนุน และเก็บมาเป็นสื่อการเรียนการสอนได้

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท