ภาพจาก amazon เรื่องย่อ นิทานต้นแอปเปิ้ลกับเด็กน้อย ( The Giving Tree ) ของ Shel Silverstein ผู้ที่สนใจสามารถเข้าคลิกชม clip นิทาน + website ของ Shel Silverstein <-ที่นี่ ขอขอบพระคุณ คุณหมอ มัทนา สำหรับข้อมูล ที่มาของ หนังสือนิทาน +ชื่อผู้เขียน+ภาพประกอบ+clip +website ของ Shel Silverstein
สัญลักษณ์ในนิทาน
ต้นแอปเปิลในเรื่องก็คือพ่อแม่ผู้บังเกิดเกล้าของเรา เมื่อครั้งที่เราเป็นเด็กตัวเล็กๆ เรารักที่จะเล่นกับพ่อกับแม่... ครั้นเมื่อเราโตขึ้น เราทอดทิ้งพ่อ และแม่ และกลับมาหาท่านอีกครั้งก็ต่อเมื่อ เราต้องการบางสิ่งบางอย่าง หรือเมื่อเรามีปัญหา ไม่ว่าอย่างไร...พ่อ และแม่ของเราก็จะอยู่และให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านสามารถจะหาให้ได้ พ่อและแม่ของเราท่านหวังก็แต่เพียง ให้เรามีความสุข
กวินมาคิดต่อเชื่อมโยงกับ เรื่อง ลูกอีช่างขอ ถ้าพ่อแม่ตามใจ ลูก ก็จะกลายเป็น พ่อแม่รังแกฉัน ในแบบที่ท่านเจ้าคุณ อุปกิตศิลปสาร นิพนธ์เอาไว้ ชอบกลอนท่อนที่ว่า
เอาอะไรได้ทุกอย่างช่างสะดวก
จะหยิบหมวกหมวกรี่เหมือนผีสิง
ทุกอย่างรู้เอาใจไม่ประวิง
ดูเหมือนชิงกันมาคราต้องการ
ไม่ช้านักทรัพย์ลดหมดสะดวก
จะหยิบหมวกหมวกกระเดียดข้างเกียจคร้าน
ถ้าเผลอหน่อยคอยหนีตะลีตะลาน
วิ่งเข้าร้านโรงจำนำไม่อำลา
เขาว่า คนเราเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยเงิน ถ้าเลี้ยงลูกด้วยเงินพอเงินหมด ก็จะเป็นแบบในคำกลอนว่ามั้ยครับ
สัญลักษณ์ในนิทาน
ต้นแอปเปิลในเรื่องก็คือพ่อแม่ผู้บังเกิดเกล้าของเรา เมื่อครั้งที่เราเป็นเด็กตัวเล็กๆ เรารักที่จะเล่นกับพ่อกับแม่... ครั้นเมื่อเราโตขึ้น เราทอดทิ้งพ่อ และแม่ และกลับมาหาท่านอีกครั้งก็ต่อเมื่อ เราต้องการบางสิ่งบางอย่าง หรือเมื่อเรามีปัญหา ไม่ว่าอย่างไร...พ่อ และแม่ของเราก็จะอยู่และให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านสามารถจะหาให้ได้ พ่อและแม่ของเราท่านหวังก็แต่เพียง ให้เรามีความสุข
กวินมาคิดต่อเชื่อมโยงกับ เรื่อง ลูกอีช่างขอ ถ้าพ่อแม่ตามใจ ลูก ก็จะกลายเป็น พ่อแม่รังแกฉัน ในแบบที่ท่านเจ้าคุณ อุปกิตศิลปสาร นิพนธ์เอาไว้ ชอบกลอนท่อนที่ว่า
เอาอะไรได้ทุกอย่างช่างสะดวก
จะหยิบหมวกหมวกรี่เหมือนผีสิง
ทุกอย่างรู้เอาใจไม่ประวิง
ดูเหมือนชิงกันมาคราต้องการ
ไม่ช้านักทรัพย์ลดหมดสะดวก
จะหยิบหมวกหมวกกระเดียดข้างเกียจคร้าน
ถ้าเผลอหน่อยคอยหนีตะลีตะลาน
วิ่งเข้าร้านโรงจำนำไม่อำลา
เขาว่า คนเราเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยเงิน ถ้าเลี้ยงลูกด้วยเงินพอเงินหมด ก็จะเป็นแบบในคำกลอนว่ามั้ยครับ