ปรากฏการณ์ "ผู้ (อวดอ้างว่าตน) วิเศษ" มีเหตุปัจจัยอะไรหนอ?
มีคนตั้งข้อสังเกตว่า
ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ (พ.ศ. 2550-ปัจจุบัน)
มีผู้ (อวดอ้างว่าตน) วิเศษ
เกิดขึ้นมากมาย...
เช่น
- แม่ชีกายสิทธิ์ ที่ชอบดูกรรม แก้กรรม ให้ดารา (เป็นส่วนใหญ่)
- ชายอีกคนซึ่งปฏิบัติธรรมจน "บรรลุ" แต่กลับเพี้ยนเรื่องตรงไปตรงมาอย่างไม่น่าเชื่อ
[แต่พอถูกจับได้ว่า "มั่วข้อมูล" ก็ให้ผู้บริหารของตนทำทีขอความช่วยเหลือ...]
- หญิงอีกคนที่นั่งสมาธิเห็นภัยพิบัติล่วงหน้าอย่างน้อย 3 ครั้ง และให้สัมภาษณ์สื่ออย่างชัดเจน
[แต่พอไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็บอกว่าสื่อลงข่าวผิด...]
หมอดูที่เที่ยว ฟันธง/confirm ผิดๆ ถูกๆ
[รายหนึ่ง พอทายผิด บอกว่า คนที่ถุกทายเกิดต่างประเทศ ทายยาก
อีกคนไปทายคนอื่นเสียหาย เลยถูกฟ้อง]
- ชายที่ (อ้างว่า) x-ray กรรมคนอื่นๆ ได้
- หญิงอีกคนก็ (อ้างว่า) scan กรรมคนอื่นๆ ได้
[สักวัน อาจจะมีอีกคนที่ทำ MRI, PET กรรม ได้...ไฮเทคกว่า x-ray และ scan เยอะเลย...อิอิ]
ใครของจริง? ใครของปลอม?
หรือว่า
จริงเท็จแบบมีเงื่อนไข? (สมมติสัจจะ) ทั้งนั้น....
ดูดีๆ ทั้งหมดนี้
- มีอะไรร่วมกัน?
- มีอะไรเป็นแรงผลักดัน?
- มีอะไรเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ทำให้คงอยู่และเติบโตได้?
และสุดท้าย
พระดีๆ หายไปไหน....ทำไมยังไม่ออกมาให้ข้อมูลอีกด้านกับสังคม
ปล่อยให้
พระจำอวดสั่ง & สอน คนอยู่ทุกวัน (ฮา...เอ้ย...โฮ!)
น่าคิด..น่าคิด...
ความเห็น (27)
- น่าคิดจริงๆๆด้วยครับพี่ชิว
- พยายามบอกคนอ่าน คนดูและคนฟังข่าวว่า
- อย่าชื่อ ข่าวลืม
- ต้องฟังหลักกาลามสูตร ของพระพุทธเจ้า
- คิดถึงพี่ชิว
- สบายดีไหมครับ
- พบพี่นุชมาด้วยครับ
- พิมพ์ไวไปหน่อย
- ฮ่าๆๆ
- แก้ไขเป็น
- อย่าเชื่อ ข่าวลือ ครับ
สวัสดีครับ อ.แอ๊ด
ไม่ได้คุยกันนานเชียว ไปงาน G2K มาเจอหลายคนเลยนะครับ ดีจังเจอพี่นุช พี่ไม่ได้พบมานานแล้ว
แต่เมื่อวานเจอพี่ดาวกับพี่วสุครับ ทั้งสองท่านมากรุงเทพ ส่งน้องน้ำฝนเข้าจุฬา และโชคดีจังที่หาหอพักได้แล้ว
บันทึกนี้พี่เขียนด้วยอารมณ์หงุดหงิดเล็กๆ ครับ ดูเหมือนไม่ค่อยสุภาพเท่าไร (จริงๆ แล้ว ตัวจริงก็ไม่ค่อยสุภาพเท่าไรอยู่แล้ว...ก็แสดงว่าที่เขียนไว้ตรงนี้คือ ตัวตนที่แท้จริงครับ..ฮาฮา)
รำคาญ 'ผู้วิเศษ' นะครับ อวดอุตริกันสารพัด...เรื่องของเรื่องก็คือมีผลประโยชน์หนุนหลังทั้งนั้น
วันพุธที่ 17 มิถุนายน พี่จะไปให้สัมมนาที่ ม.ศิลปากร ทับแก้ว อีกแล้วครับ อาจารย์บอกว่าเรื่องอะไรก็ได้ ถ้าเตรียมไม่ทัน ก็สอน Origami แล้วกัน (เล่นง่ายไหม...อิอิ)
แต่...เอ!...หรือจะพูดถึงเรื่อง ปรากฏการณ์ "ผู้วิเศษ" ในสังคมไทยดี? (พูดเสร็จ...อาจต้องคอยหลบรองเท้าที่อาจจะลอยมาหลายคู่..ต้องฝึกหลบไว้ก่อน...ฮาฮา)
ไม่มี demand ก็ไม่เกิด supply ค่ะพี่ อาจจะต้องดูลึกขึ้นด้วยว่าสังคมเราเป็นไร ป่วย? ถ้าภูมิคุ้มกันเข้มแข็ง มีความรู้จริง รู้จักวิเคราะห์แยกแยะข้อมูล เรื่องแบบนี้ก็จะไม่มีบ่อยเหมือนที่เห็น เพราะมีไปก็ไม่เกิด ไม่ดัง คนไม่สนใจ ส่วนใหญ่มันเกิดจากใจของคนป่วยค่ะ คือมีแนวโน้มอยากจะเห็นอยากจะฟังอยากจะเชื่อแบบนั้นอยู่แล้ว เพราะมันสำเร็จรูป ง่าย และใช้วัตถุมาช่วยได้ การที่จะทำตามคำสั่งสอนพระพุทธเจ้า หรือปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัดมันยาก เลยหนีไปหาสูตรสำเร็จที่โดนใจ และหลอกตัวเองว่าแป่เอี่ย
เติมอีกนิดค่ะพี่ มันเหมือนเรื่องสินค้าลอกเลียนแบบ คือคนก็ยังนิยม เพราะมันดูเหมือนทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่ใช่ แต่ใช้แล้วสร้างความรู้สึกดี เลยหลอกตัวเองและหลอกคนอื่นว่ามีของแบรนด์เนมใช้ เป็นเหตุว่าทำไมสินค้าก็อปถึงเกลื่อนเมือง และพฤติกรรมอวดอุตริก็ยังคงได้รับความนิยม พื้นฐานมันคือเรื่องของการไม่อยากลงแรงลงทุนในสิ่งที่ยาก ถึงแม้จะดีกว่าก็ตาม
เงิน เงิน เงิน ผู้คนบูชา
เพราะ อัตตา ครับ CONFIRM!
สวัสดีครับ ซูซาน
จริงด้วยครับ เพราะ demand นี่แหละ และตอนนี้ดูเหมือนจะเยอะซะด้วยครับ
อีกอย่างหนึ่งคือ รายการ TV บางรายการก็โปรโมทน่าดู น่าคิดเหมือนกันนะครับว่าทำไม
เรื่อง เลียนแบบ นี่ก็จริงครับ ตามๆ กันไป แต่พอถึงจุดหนึ่งคนน่าจะรู้ทันแล้ว เผลอๆ อาจไปฉุดเอาต้นฉบับ (original) ลงเหวตามไปด้วย (ข่าวดีก็คือ ฟันเงินไปแยะแล้ว...อิอิ)
สวัสดีครับ คุณ happy guy
เข้าไปชมมาแล้วครับ สนุกดี ภาพประกอบน่ารักมากๆ
อย่างไรก็ดี ดูเหมือนว่าเรื่องแนวนี้จะมีมาเรื่อยๆ ไม่เคยหยุดครับ (อาจหายไปนิดๆ หน่อยๆ เดี๋ยวก็โผล่มาอีก คล้ายโรคเรื้อรัง รอวันปะทุ)
สวัสดีครับ คุณ dsin
เงิน / อำนาจ คนต้องการ ถ้ามีการตลาดหนุนหน่อย ก็มีโอกาสไปโลดครับ
สวัสดีครับ เดอ
CONFIRM! เชียวรึ...อิอิ...ระวังโดนฟ้อง 50 ล้านนะครับ ;-)
เดี๋ยวจะนำงูไปฝากครับ...5555
"ความไม่รู้ หรือ อวิชชา"
ถ้ารู้ คงไม่ทำ ที่ทำเพราะไม่รู้
กิเลส
กาลามสูตร + โยนิโสมนสิการ
พินิจ - พิเคราะห์ - พิจารณา - พิสูจน์
โปรดใช้จักรยานในการรับชม^^
เจริญพร โยมอ.บัญชา
อาตมาเห็นว่าผู้ที่แสดงตัวอวดอ้างตัวตนว่าวิเศษอย่างโน้นอย่างนี้
ส่วนใหญ่แล้วเพราะต้องการ ลาภยศและบริวารเท่านั้น
อาตมาเห็นมาหลายราย(ทั้งพระและฆราวาส)
เจริญพร
สวัสดีครับ อ.วรภัทร คนไร้กรอบ
มีบางกรณีที่รู้ทั้งรู้ครับ แต่ปล่อยตามน้ำ เพราะมีสาวกเชื่ออยู่เยอะ แถมยังมีรายได้เข้ามาเรื่อยๆ ด้วย เพราะหากยอมรับว่า "เพี้ยน" หรือ "ลวงโลก" ก็จะเป็นอันตรายต่อตนเองและผู้สนับสนุนที่อยู่เบือ้งหลังอย่างมาก (ลงทุนการตลาดไปเยอะ...)
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับ คุณ ไทเลย-บ้านแฮ่
โลกปัจจุบันหมุนเร็วมาก ข่าวสารท่วมทะลัก บางทีไม่ต้องการ ยังโผล่มาเองเลย แม้แต่คนที่มีสติสมบูรณ์ บางช่วงยังอาจรับมือได้ไม่มีประสิทธิภาพเลยครับ
ดูแต่พระดังบางรูปที่เทศน์เก่ง มีคนศรัทธาเยอะ บางทีเจอคำถามบางอย่าง ก็ยังตอบได้ไม่ดี เพราะคิดไม่ทันก็มีครับ
สวัสดีครับ คุณ muekzero
จริงด้วยครับ ใช้ "จักรยาน" รับชม และใช้ "โทรทัศน์" ไว้ซ้อมถีบ...เวลาเจออะไรเพี้ยนๆ...อิอิ
กราบนมัสการ หลวงพี่ พระปลัด
เรื่องอวดอุตริฯ นี่ ผมเข้าใจว่าพระพุทธองค์ตรัสเตือนไว้มิใช่หรือครับ แต่น่าแปลกที่ทุกวันนี้ ดูเหมือนจะมีมากขึ้น แถมยังมีคนพร้อมที่จะเชื่อถือมากด้วย!
เรื่อง ลาภ ยศ และบริวาร นี่จริงครับ ลาภได้มาง่ายๆ ด้วยเพราะศรัทธา ยศก็ได้ด้วยคือมีคนยกย่อง ส่วนบริวารนี่นับเป็นสาวกลัทธิก็ได้ด้วยครับ
ทางออกที่สร้างสรรค์จากเรื่องนี้ควรเป็นอย่างไรได้บ้างหนอ?
ปรากฏการณ์ที่มีผู้อ้างตัวว่าวิเศษ มีเหตุปัจจัยอะไร
- ยุคที่คนสุขยากทุกข์ง่าย...เรื่องแบบนี้จะเฟื่องฟู
- ในห้องเรียน...ครูนกจะบอกนร.เสมอว่า..ขอให้ฟังหูไว้สองหู
- ส่วนเรื่องกรรม...ก็เกิดจากการกระทำนั่นล่ะค่ะ
- ปลูกแตงกินโต ปลูกองุ่นก็กินองุ่นค่ะ
สวัสดีครับ ครูนก noktalay
จริงด้วยครับ...เขากำลัง "หากิน" บนความทุกข์ง่ายของคนนั่นเอง
เดี๋ยวนี้ นอกจากจะฟังหูไว้สองหูแล้ว แม้แต่เห็น 2 ตา ยังอาจจะต้องไว้ 4 ตาอีกครับ ;-) [อย่าด่วนเชื่อในสิ่งที่เห็น...เพราะมีภาพตัดแต่งต่อเติมแนบเนียนมากมาย]
ขอบคุณครูนกมากครับ
ผมคิดว่า ตอนนี้ ฅนเราไม่มีอะไรยึดเหนี่ยว ประกอบกับปัจจุบันสื่ออิเล็กทรอนิกส์มีมากขึ้น ทำให้ข่าวประเภทนี้กระจายเร็ว แล้วยิ่งตอนนี้สถานการณ์เศรษฐกิจ สถานการณ์บ้านเมืองก็ไม่น่าไว้ใจ ทำให้ฅนไม่มีที่พึ่งมากขึ้น
ต้องช่วย ๆ กัน ดู ช่วย ๆ กันคุ้ย ช่วย ๆ กันเขี่ย สักวันต้องเจอของแท้ครับ
สวัสดีครับ คุณ mr.smile
จริงครับ เกิดเร็ว และกระจายอย่างรวดเร็วด้วยสื่อ (ทั้งสิ่งพิมพ์ & อิเล็กทรอนิกส์)
สถานการณ์บ้านเมืองนี่ก็น่าห่วงครับ ทุกมิติเลยทีเดียว ที่หนักสุด (ในความคิดของผม) น่าจะเป็นเรื่องการศึกษา และเศรษฐกิจ เรื่องความมั่นคงนี่ตามมาทีหลังนิดหน่อยครับ
ผู้อวดอ้างเหล่านี้ที่บอกว่านับถือชินสาสน์
ธรรมฐิตมองว่า(อาจถูกหรือผิด)เพราะเขาเข้าหาชินสาสน์ผิดเหลี่ยมผิดมุมเลยตั้งเป้าหมายผิดทิศไป
และนั่นไมใช่วิสัยของผู้รู้จริง(แต่เป็นเพียงคุณวิเศษแบบโลกีย์ดูอย่างพระเทวทัตเป็นตัวอย่าง)..ปรากฏการณ์เฉกเช่นนี้มีมาแต่ก่อนพุทธกาล
หากแต่ว่าจุดหมายหลักอย่างหนึ่งของชินสาสน์คือ ..ต้องการเชื่อมโยงรอยต่อระหว่างสิ่งที่มันเป็นจริงตามกฎเกณฑ์ธรรมชาติกับสิ่งที่มนุษย์สัมผัสว่าเป็นอยู่..
..แต่สังคมปัจจุบันชอบของปลอมมากกว่าของจริงขอรับ..
ขออนุโมทนากับบันทึกนี้
เพื่อให้คนที่ต้องการเข้าถึงชินสาสน์จริงๆได้เรียนรู้ขอรับอาจารย์..
กราบนมัสการพระคุณเจ้าครับ
ต้องขอความรู้เรื่อง "ชินสาสน์" ซะแล้วครับ เดี๋ยวผมไปค้นดูเองด้วยครับ
ฝากความถึงคุณบัญชา
๑สรรพสิ่ง๒มีการเปลี่ยนแปลง๓เป็นธรรมดา ๔ล้วนเกิดแต่เหตุ๕ที่เป็นปัจจัยปรุงแต่ง ผ่าน๖หู๗ตา๘จมูก๙ลิ้น๑๐กายสัมผัส๑๑ทั้งปวง เมื่อ๑๒เหตุปัจจัยระงับ ๑๓โดยฝึกรู้๑๔เท่าทัน๑๕อินทรีย์๕ แล้ว๑๖เพียร๑๗พิจารณา๑๘ใน ความ๑๙ไม่ประมาท๒๐ เป็นสติ บน๒๑พื้นฐาน๒๑ดำเนิน๒๒กาย๒๓หายใจ๒๔เข้า๒๕ออก๒๖ ความสงบ๒๗ระงับ๒๘ก่อเกิดความมหัศจรรย์เป็น๒๙ธรรมดาของการฝึก ๓๐ไม่ต้องการ๓๑เป็น๓๒รู้ ๓๓เหมือนน้ำย่อมไหลลงสู่ที่ต่ำ๓๔๕๖๗๘๙๑๐ เป็นปัจจัตตังเวทิตะโพวิญูหิติ จึงขอให้แนวทางในการฝึกตนตามลำดับ๑-๓๔๕๖๗๘๙๑๐ วัน/เดือน/ปี อยากให้ฝึกปฎิบัติเอาจริงนะครับ คนส่วนมากเป็นอย่างนี้ชอบรสอร่อยง่ายๆ จึงไม่ได้ลองแสวงหาสิ่งอื่นที่พิเศษ สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม ครับ
ขออวดคุณวิเศษของคนมีโลกีย์ครับ ได้เคยลงเดินเล่นแถวบางอ้อ1-4ชั่วโมง ร่มรื่นเย็นใจปลอดโปร่ง อยู่หลายวัน บางวันสังขารแทบจะหลุด วันนี้ก็เพียงแต่มองเห็นองค์สมเด็จท่านเพียงบางๆ โลกุตรยังยากอยู่ครับ ครูบาอาจารย์ท่านที่มีคุณวิเศษ ที่เขียนหนังสือด้วยปัญญาญาณไว้มากมาย ลองหาอ่านดูนะครับ แค่จิตอกุศลล่วงเกินท่านแม้ไม่มีเจตนา กรรมนั้นเกิดแล้วรวมตัวอยู่รอบตัวท่านเป็นพลังผลักสู่เหตุทั้งหลายเพราะท่านสร้างเหตุปัจจัยด้วยอวิชาดังคนไร้กรอบท่านกล่าวล๊ะครับ ครูบาอาจารย์ท่านรู้เหตุทั้งหลายครับจึงไม่ลงมาแสดงตน เพราะรู้ กรรมใดใครก่อก็รับชอบกันไป ว่าสัตวโลกย่อมเป็นไปตามกรรม
รุ่งอรุณ