ซีรีย์ญี่ปุ่นและความประทับใจ


ข้อคิด feel good ยกระดับอารมณ์

หนังชุดญี่ปุ่นกับความสุขและประทับใจ

                ช่วงหนึ่งสัปดาห์นี้ดูหนังชุดญี่ปุ่นแล้วรู้สึกดี หลังจากยุ่งมาเกือบสองเดือนเต็มเนื่องจากจัดการอบรมแพทย์ มีเวลาพักบ้างแล้ว เลยดูหนังชุดญี่ปุ่นบ้าง คงไม่พูดว่า in trend เนื่องจากดูหนังที่หลายคนพูดถึงเช่น change, hero และ good luck สามเรื่องสามรส จริงแล้วก็พระเอกคนเดียวกันหมดเลย เรื่อง change คงทราบกันดี เป็นเรื่องของครูที่จับพลัดจับพลู ได้มาเป็นนายก แบบ อะไรดีล่ะ นึกไม่ออก คงไม่มีใครคิดเหตุผลที่จะเอาคนนี้มาเป็นนายกได้เหมือนหนังเรื่องนี้แน่ อย่างไรก็ตามนาย เคโตะ นี้ก็เป็นนายกที่ดี (พื้นฐานคงเป็นคนดีนะ) ติดดิน และคิดเป็น ชอบที่ (1) ชอบให้อธิบายให้ตัวเขาเองฟังแบบอธิบายให้เด็ก ป 5 ฟัง บางครั้งเราก็คิดว่าเราเก่งนะ พยายามทำเป็นฟังรู้เรื่อง เนื่องจากมันติด ศักดิ์ศรีไง แต่ถ้าพูดแบบให้เด็กป 5 ฟังรู้เรื่องแล้วละก็ แน่ใจเลยว่าเราต้องเข้าใจ และเราคงพูดภาษาเดียวกันแน่นอน  ชอบที่ (2) หนังมัน feel good มากๆ ตัวร้ายก็ไม่ร้ายเหมือนหนังไทย ไม่รู้ว่าจะร้ายมากมายอะไรขนาดนั้น รู้สึกเขามียางอายนะ ไม่เหมือนคนสมัยนี้ พอพูดด้วยเหตุผล พอจนด้วยเหตุผล พอคิดถึงความดีของตน และความดีของพระเอก เขาก็กลายเป็นสีเทาได้ ไม่ใช่ เอะอะอะไร ก็ร้ายตลอด ชอบที่ (3) หนังมันไม่เครียดเลย มีอะไรให้ลุ้นตลอด พลอตเรื่องก็ดี แหม อะไรมันจะขนาดนั้น แต่ก็ดูจนจบภายในคืนเดียวนะนี่ (นึกถึงสมัยก่อนอ่านเพชรพระอุมา รวดเดียว 22 เล่ม อ่านผู้ชนะสิบทิศทีเดียว 6 เล่ม อ่านกำลังภายในคืนเดียวจบหมดเลย มังกรหยกภาค 1 และภาค 2,3 ในอีก 2 คืนต่อมา) ชอบที่ (4) เรื่องมันเป็น แพทเทอร์น นะ เหมือนหนังนักสืบไง เดาได้ เดี๋ยวจะถึงตอนซึ้งแล้ว เดี๋ยวพระเอกจะต้องพูดอะไรเฉียบ ๆ เลยรู้สึกสบายใจ เพราะไม่ต้องเดา จริงแล้วเนื้อเรื่องตลอดก็ดีนะ เนื่องจากเป็นเรื่องของคนดี ที่ไม่เหลิง เรื่องต่อมาคือ hero พระเอกคนเดิมเป็นอัยการชื่อคุริว แต่แหกคอกมาก แต่งตัวตามสบาย ไม่ใส่สูทผูกไทด์ ไปทำงานในที่ทำงานที่มี tradition มากๆ เนื่องจากมีกึ๋น ที่แหกคอก ก็เลยสนุก ไม่เหมือนคนบางคน ชอบแหกคอก แต่ไม่มีกึ๋น เลยกลายเป็นน่าเกลียดไป และเป็นธรรมชาติ คนที่ทำอะไรไม่เหมือนคนอื่นย่อมโดดเด่น โดยเฉพาะเป็นพระเอก เหมือน Jack trout บอกว่า differentiate or die เรื่องนี้ชอบที่ (1) เป็นเรื่องสืบสวน สอบสวน ซึ่งปกติชอบมากอยู่แล้ว แต่เป็นเรื่องที่แปลก เช่นสอบสวนโจรโขมยกางเกงใน เป็นเรื่องเล็กๆ ที่หนังเรื่องอื่นมักจะมองข้าม แต่ในที่สุดก็เชื่อมโยงกับเรื่องใหญ่ๆ ชอบที่ (2) ตัวประกอบทุกคนมีบทบาทเสริมหมด คือถ้าไม่มีตัวประกอบ อัยการคนอื่น เลขาอัยการ นางเอก หัวหน้าอัยการ หนังก็ไม่สามารถดำเนินได้ เนื่องจากทุกคนมี plot มี character ชัดเจน ไม่ใช่คนดี แต่ไม่ใช่คนเลว คือเป็นคนจริงๆ ซึ่งก็ช่วยขับพระเอกให้เด่นขึ้นด้วย ชอบที่ (3) เป็นหนังตลก แฟนผมนั่งดู หัวเราะไปมา พอเรามาดูก็ขำในใจ โหย หาได้ที่ไหน เรื่องขำๆ ทำให้หัวใจชื่นบาน และยัง up grade feeling ของเราได้ขนาดนี้ ต่อมาก็เลยดูอีกเรื่องหนึ่งพระเอกคนเดิม คราวนี้เป็น copilot ขับเครื่องบินในเรื่อง good luck ชื่อ ชินได เป็นคนหนุ่มตรงไปตรงมา ไม่พูดอ้อมค้อม เจอคน audit ที่เฮี้ยน และเถรตรง มีนางเอกเป็นช่างเครื่อง เรื่องนี้ชอบที่ (1) feel good อีกนั่นแหละ ดูแล้วมีความสุข ชอบที่ (2) แพทเทิน เดียวกันเลย คือเดาเรื่องได้ ว่าต้องมีเหตุการณ์อะไรซักอย่าง พระเอกเข้าไปเกี่ยวข้อง เรื่องนี้มีนางเอก ซึ่งจะพูดอะไรซักอย่างให้คนได้คิด ต่อมาเป็นพระเอกพูดบ้าง สรุปแล้วคือ เป็นสิ่งที่อยู่ในใจของเรานั่นเองขณะที่ดูหนัง จริงแล้วมีหนังชุดญี่ปุ่นที่ดูสนุกมากอยู่หลายเรื่องเริ่มตั้งแต่ ยอดมนุษย์ เอาแค่ ยอดมนุษย์ Ultra man คนแรก และ Ultra Seven นะ หลังจากนั้นเฉยๆ อาจเป็นเพราะเป็นเรื่องที่ดูตอนเด็กเลยตื่นตาตื่นใจ เคยวาดเป็นการ์ตูนไว้เป็นเล่มเลยนะ เริ่มต้นมีสัตว์ประหลาด Ultra man ออกไปต่อสู้ แต่ต้องหยุดเนื่องจากพลังหมด หรือสัตว์ประหลาดมุดดินหาย แล้วมาโผล่อีก หลังจากนั้น Ultra man ก็ออกมาคราวนี้ชนะแบบเฉียดฉิว รูปแบบจะเป็นแบบนี้ทุกตอนมันสนุกเพราะไม่ต้องเดาอะไร พวกมนุษย์ก็มีความพยายาม สู้ไม่ได้ซะที แต่ก็สู้ทุกครั้ง พอโตขึ้นก็ดูหนังการ์ตูน หน้ากากเสือ Great Mazinka  Dr. Slump  Dragon Ball แล้วผันตัวมาอ่านการ์ตูน ใครมาดูบ้านผมจะตกใจ มีหนังสือเยอะกว่าร้านหนังสืออีก เริ่มดูหนังชุดอีกครั้งตอนโต เช่น กระบี่ไร้เทียมทาน จอมโจรจอมใจ เดชคัมภีร์เทวดา แน่นอน กำลังภายในอ่านหมดทุกเรื่อง ตอนเรียนมหาวิทยาลัย ปี 4-6 และตอนเป็นแพทย์ประจำบ้าน หนังชุดเริ่มบูมอีกครั้งตอน Nodame Cantabile เนื่องจากอ่านคอลัมภ์ ต่อพงษ์ ใน web manager เลยไปเช่ามาดู ดูแล้ว high ขึ้นมาก เรื่องนี้ดีจริงๆ ปกติชอบเพลงคลาสิก เลยดูได้ หลังจากนั้นก็หันไปหา series ฝรั่ง ที่ชอบมากคือ CSI ทั้ง Las vegas, Miami และ New York ดูหมดเกลี้ยง (X files, Criminal mind, Super natural ดูหมดครับ)  มีร้านประจำที่ซื้ออยู่ ต่อมาไปเห็นใน net โอ้โฮ ถูกกว่ากันห้าเท่า อย่าว่าอย่างโน้นอย่างนี้เลยนะครับ เพื่อนผมที่เป็นไอ้กัน มาเมืองไทย ไม่เคยเข้าไปซื้อของลิขสิทธิ์เลย เราจนกว่าเขามากเลยไม่ดัดจริตซื้อของลิขสิทธิ์ แต่ก็รู้สึกชีวิตโหวงๆ นะ ไม่รู้ว่าที่ไหนมีความแตกต่างอย่างไรบ้าง มันเหมือนกันหมด

                บทความนี้เขียนตามอารมณ์นะครับ ไว้ครั้งหน้าจะเล่าเรื่องการฝึกอบรมแพทย์อาชีวเวชศาสตร์ให้ฟัง มีคนคาดหวังไว้มากมาย แต่แค่สองเดือนที่อบรมคงทำอะไรไม่ได้มาก ที่สอนก็อัดให้มากมาย จนแทบจะอาเจียน หวังว่าคงมี continuous education จะจัด resource ไว้ให้ แค่นี้คงพอนะครับ ขอบคุณ ขอบคุณ จะลาไปดู series ต่อดีกว่า Bye

หมายเลขบันทึก: 263366เขียนเมื่อ 25 พฤษภาคม 2009 22:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มิถุนายน 2012 17:13 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

เป็นนักศึกษาป.โทพยาบาลอาชีวอนามัยที่มช.ค่ะ

ติดตามงานเขียนของอาจารย์มาโดยตลอด บอกได้เลยว่าตรงประเด็น เหมาะกับยุคสมัยมาก อาจารย์ตรงๆ ไม่อ้อมค้อมดี ดูเป็นผู้ชายที่จริงใจในการทำงานที่สุด ที่เคยพบมา

ตอนนี้กำลังพัฒนาวิทยานิพนธ์เรื่องบทบาทพยาบาลอาชีวอนามัยกับการดำเนินงานอาชีวอนามัย ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อมในโรงพยาบาล การได้มีโอกาสศึกษางานที่อาจารย์ได้เขียนไว้ ทำให้เราสามารถอ่านเข้าใจหลักการทำงานในโรงพยาบาลมากขึ้น

แต่เสียดายที่ไม่ทันจองอบรมพยาบาลอาชีวอนามัย 10 วันปี 52 เต็มก่อนค่ะ

จึงได้ส่งคู่หมั้นที่คบกันมา 3 ปีไปเรียนแพทย์อาชีวเวชศาสตร์หลักสูตร 2 เดือนกับอาจารย์ (Dr.Shisanu Saardsud) ตอนนี้เห็นว่าจะสอบวันพฤหัสที่จะถึงนี้ฝากอาจารย์อบรมด้วยนะคะ ชอบดูหนังเหมือนอาจารย์น่ะค่ะคอเดียวกัน ที่สำคัญอย่างเป็นศีษย์เอก

ด้วยความเคารพอย่างสูง

อัมพวรรณ สินธุญา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท