ราชคฤห์ (Rajgir) อยู่ห่างพุทธคยาหรือเมืองกาย่า (Gaya) 70 กิโลเมตร คณะทัวร์ส่วนใหญ่จะตั้งหลักที่พุทธคยา และเดินทางไป-กลับราชคฤห์ในวันเดียวกัน เนื่องจากพุทธคยามีที่พักสะดวกสบายกว่า ไม่ว่าจะเป็นพักวัด หรือพักโรงแรม
วัดชาวพุทธในเขตพุทธคยาดูจะมีมิตรจิตมิตรใจกันดี บางทีวัดหนึ่งนิมนต์พระอีกวัดหนึ่งไปฉันเพล ผู้เขียนมีประสบการณ์พักวัดไทย วันหนึ่งแม่ชีท่านบอกว่า พรุ่งนี้ไม่ได้ทำอาหารเพล พระท่านรับนิมนต์ไปฉันเพลวัดธิเบต
ถ้าเราไปขอพักที่วัดไทย และที่พักเต็มหรือไม่สะดวกสบาย เช่น คนพักเต็ม มีการก่อสร้าง ฯลฯ พระท่านมักจะติดต่อวัดพุทธอื่นๆ ในพุทธคยาให้ นับว่าช่วยเหลือเกื้อกูลกันดี คล้ายกับเป็นวัดพี่วัดน้องทีเดียว
รัฐบาลอินเดียเก็บค่าเข้าชมสังเวชนียสถานเป็นรายครั้ง เช่น สถานที่แสดงปฐมเทศนาที่สารนาถเก็บค่าเข้าชมครั้งละ 5 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 200 บาท ฯลฯ
พุทธคยาไม่เก็บค่าเข้าชม ยกเว้นห้ามสวมรองเท้าเข้าไป ด้านหน้ามีห้องรับฝากรองเท้า ค่าฝากประมาณครั้งละ 1 รูปี(80 สตางค์) ยิ่งมีวัดนานาชาติอยู่รอบพุทธคยา ยิ่งทำให้มีชาวพุทธมาปฏิบัติธรรมบริเวณพุทธคยามากขึ้นทุกวัน
ช่วงเวลาที่มีคนมาพุทธคยามากที่สุดเป็นช่วงฤดูหนาวนับตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมจนถึงสิ้นเดือนเมษายน ช่วงนี้อากาศไม่ร้อนนัก ฝนไม่ค่อยตก แมลงวันและยุงมีน้อยหน่อย นับเป็นช่วงเวลาดีที่สุดสำหรับการปฏิบัติธรรมที่นี่
ชาวธิเบตพลัดถิ่นและฝรั่งที่สนใจพระพุทธศาสนาแนวธิเบตจะเดินทางมาปฏิบัติธรรมบริเวณพุทธคยา พุทธคยาจึงมีคนเข้าไปมากตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมจนถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์
ถ้าวันใดท่านดะไล ลามะหรือพระที่มีสมณศักดิ์สูงของธิเบตแสดงธรรมจะมีคนเข้าไปจนเต็มพื้นที่พุทธคยา วันนั้นจะมีตำรวจอินเดียมาตรวจตรา มีการวางเครื่องดักจับโลหะที่ประตูทางเข้า เพื่อป้องกันการลอบสังหาร
ประสบการณ์พิเศษสุดของพุทธคยาที่หาไม่ได้ที่อื่นมีมากมาย เช่น ขออนุญาตพักในเขตพุทธคยาข้ามคืน(21.00-04.00 น.)ได้ โดยติดต่อแสดงหนังสือเดินทาง (passport) เสียเงินบริจาคประมาณ 150 รูปี หรือประมาณ 120 บาท (1 รูปีประมาณ 0.80 บาท)
พระภิกษุทั้งไทยและเทศนิยมเข้าไปนั่งสมาธิ หรือบำเพ็ญสมณธรรมในเวลากลางคืน ผู้เขียนมีประสบการณ์เข้าไปในพุทธคยา 1 คืน
อินเดียยังมีโรคเท้าช้างอยู่ จึงต้องขอยืมกลดจากวัดป่าพุทธคยามา หาเชือกขึงให้ตึงหน่อย นำตะขอร่มของกลดไปกาง เท่านี้ก็กันยุงได้แล้ว
เมื่อผู้เขียนเข้าไปในเขตต้นศรีมหาโพธิ์แล้วถึงได้รู้ตัวว่า ยังมีความรู้ ความชำนาญน้อยเกินไป ไม่สามารถที่จะเจริญกุศลให้เกิดสืบต่อกันได้คราวละนานๆ จำเป็นต้องศึกษาพระไตรปิฎก อรรถกถา ฎีกา เช่น วิสุทธิมรรค พระอภิธรรม ฯลฯ ให้มากกว่านี้
มหาโพธิสมาคมมีพระคุณต่อชาวพุทธมาก เดิมเขตพุทธคยาถูกเศรษฐีตระกูลมหันต์ยึดครอง นำพระพุทธรูปออกไป นำเทวรูปฮินดูเข้ามา
ท่านธัมมปาละชาวศรีลังกาได้รณรงค์ต่อสู้นานนับสิบๆ ปี ชาวพุทธถึงได้มีโอกาสเข้าไปกราบไหว้ บูชา นมัสการสังเวชนียสถานแห่งนี้ได้ ท่านผู้นี้เป็นผู้ก่อตั้งมหาโพธิสมาคมที่มีส่วนสำคัญในการดูแลรักษาพุทธคยา
ผู้เขียนขอถือโอกาสนี้กราบขอบพระคุณ ระลึกถึงพระคุณของท่านพระธัมมปาละ และมหาโพธิสมาคมมา ณ ที่นี้
มหาโพธิสมาคมจัดให้มีการถวายข้าวพระพุทธวันละ 1 ครั้งเวลา 11.00 น. ท่านผู้ใดสนใจจะเป็นเจ้าภาพครั้งละ 400 รูปี(ประมาณ 320 บาท) ขอเรียนเชิญไปติดต่อล่วงหน้าที่มหาโพธิสมาคมได้
คนไทยชอบถวายประทีป หรือแสงสว่างมากเป็นพิเศษ ที่นี่เราถวายแสงสว่างในรูปค่าไฟฟ้าได้ มหาโพธิสมาคมจะออกใบเสร็จรับเงินให้เป็นรายชั่วโมง ชั่วโมงละ 150 รูปี หรือประมาณ 120 บาท
ชาวพุทธสายธิเบตก็ชอบถวายประทีป หรือแสงสว่างเหมือนกัน ท่านนิยมจุดเป็นตะเกียงน้ำมันถ้วยเล็กๆ เรียงกันเป็นร้อยเป็นพันดวง ดูแล้วคล้ายนำดวงดาวจำนวนมากมาถวายเป็นพุทธบูชา
ด้านหลังพุทธคยามีห้องกระจกจุดประทีปน้ำมันเรียงกันเป็นแถว เข้าใจว่า น่าจะเป็นผลงานของชาวธิเบตผู้มากไปด้วยศรัทธา
การจุดประทีป ธูป และเทียนพร้อมกันคราวละมากๆ มีส่วนทำให้เกิดมลภาวะในเขตพุทธคยาเหมือนกัน
พุทธคยาอยู่ในที่ต่ำ บริเวณโดยรอบยกสูงขึ้นทั้งสี่ด้าน เกิดเป็นแอ่งคล้ายกะทะ ควันจากการเผาไหม้จึงขังอยู่ภายในได้นานพอสมควร
ท่านพระภิกษุที่ดูแลพุทธคยารูปหนึ่งกล่าวเป็นข้อคิดไว้ ผู้เขียนขอนำมาเล่า ไม่ใช่เพื่อจะติเตียนใคร เพียงจะขอให้เป็นข้อคิด เพราะพุทธคยาเป็นสมบัติของพุทธศาสนิกชนทุกชาติ ทุกภาษา
ท่านบอกว่า คนที่เข้าไปทำบุญไม่ควรขอสิทธิพิเศษ เช่น ถวายของ หรือถวายปัจจัยมากๆ จนพระเกรงใจ แล้วขอเข้าไปในเขตโคนต้นโพธิ์ หรือบริเวณรอบพระแท่นวัชรอาสน์ ฯลฯ
ท่านจำเป็นต้องบริหารจัดการให้ชาวพุทธทุกชาติมีส่วนเข้าไปบูชาสังเวชนียสถานได้เสมอกัน ถ้ายอมใครหรือคณะใดเป็นพิเศษแล้ว จะมีพระหรือชาวพุทธชาติอื่นมาติเตียนท่านได้ ทำให้เสียความเสมอภาค หรือแตกสามัคคีกัน
การที่มหาโพธิสมาคมกั้นพื้นที่รอบโคนต้นโพธิ์ และพระแท่นวัชรอาสน์ไว้นั้น ทำไปด้วยความปรารถนาดีโดยแท้ เพื่อป้องกันอันตรายต่อต้นโพธิ์
คนที่เข้าไปรอบโคนต้นโพธิ์นั้น... บางท่านขุดดินไปบูชา การกระทำเช่นนี้อาจเป็นอันตรายต่อต้นโพธิ์ที่มีอายุมากได้ จึงต้องมีกฎ กติกา
ประมาณปี 2543 ต้นโพธิ์ผลัดใบแล้วไม่งอกใบใหม่ไปหลายเดือน ทำให้ชาวพุทธทั่วโลกตกอกตกใจกันมาก เราจึงควรช่วยกันอนุรักษ์ ดูแล รักษาต้นโพธิ์พุทธคยานี้ไว้ตราบเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ชนรุ่นหลังมีโอกาสมีโอกาสทำบุญที่สังเวชนียสถานได้เต็มที่
ทัวร์ไทยมักจะซื้อบริการทัวร์อินเดีย ให้เขาจัดหารถ ติดต่อโรงแรม และประสานงานการเดินทางให้ พนักงานทัวร์คนหนึ่งกล่าวไว้ดีเหมือนกัน
ท่านบอกว่า คนไทยน่าจะช่วยกันห้ามคนที่ชอบโปรยทานให้เด็กและขอทาน โดยเฉพาะขนมและลูกอม(ทัอฟฟี่) เวลารถบัส(รถทัวร์)ออกเป็นช่วงที่เด็กๆ อาจวิ่ง และแย่งของกันไปมา ถ้าจะให้... น่าจะให้เวลาอื่น ไม่ใช่ให้ตอนรถกำลังจะออก
ถ้าเกิดอุบัติเหตุจะเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะเขาคงจะเรียกร้องอะไรให้มากที่สุด และการติดต่ออะไรกับตำรวจอินเดียเป็นเรื่องน่าปวดหัวที่สุด
ถ้าถามผู้เขียนว่า ประทับใจชาวพุทธชาติใดที่พุทธคยามากเป็นพิเศษ ผู้เขียนขอตอบว่า ประทับใจชาวศรีลังกามาก
ชาวศรีลังกานิยมไปสังเวชนียสถานเป็นคันรถ แต่งกายเรียบร้อย เงียบเสียง ท่านอุบาสิกาที่ไปท่านสวดมนต์สาธยายพระสูตร เช่น กรณียเมตตสูตร ฯลฯ ด้วยสำเนียงบาลีที่ชัดถ้อยชัดคำ ไพเราะมาก
ผู้เขียนได้ยินคำบอกเล่าจากท่านผู้ที่มีประสบการณ์ไปศรีลังกามา ท่านบอกว่า ชาวศรีลังกาถือดอกไม้ ของหอม ข้าวปลาอาหารไปวัด
พอเดินผ่านบ้านไหนจะบอกบุญ ให้ส่วนบุญ ไม่ใช่เรี่ยไร คนที่เดินผ่านท่านจะกล่าวสาธุ(แปลว่าเห็นชอบ หรือดีแล้ว) ขากลับท่านจะบอกบุญ บ้านข้างทางจะกล่าวสาธุอีกครั้ง เพียงได้ฟังก็เลื่อมใสเสียแล้ว...
แหล่งข้อมูล:
ได้ยินว่า ห้องน้ำห้องท่า แถวๆ สังเวชนียสถานไม่ค่อยมีใช่ไหมครับ
คนที่เคยไปเล่าว่า ผู้หญิงควรเอาผ้าถุงไปด้วย เพื่อใช้ในยามจำเป็น
http://www.geocities.com/green.piece/
ปล.
คุณพ่อผมกำลังหาหนังสือชื่อ
"Milindapanha" edited by "Trenckner"
ไม่ทราบว่าคุณหมอเคยเห็นในห้องสมุดที่ไหนบ้างหรือไม่ครับ
หนังสือ มิลินทปัญหา
ดาวน์โหลดได้จากที่นี่ครับ
http://www.buddhanet.net/pdf_file/milinda.pdf
เป็นของ ภิกขุ Pesala ครับ ถ้าที่วัดมี Internet ก็สามารถดาวน์โหลดได้ทันทีครับ
ฉบับที่คุณพ่ออยากได้ เป็นของ "Trenckner" ครับ (หายากหน่อย)
แต่สามารถซื้อ จากที่นี่ได้ครับ
แต่ราคาแพงมากสำหรับ คนทั่วๆ ไปคือ เกือบ 70 USD ครับ
แนะนำหนังสือดี ราคาน่าซื้อมาอ่านครับ
http://mahamakuta.inet.co.th/english/Ten%20Jataka%20Stories.html
35 บาทเท่านั้นเองครับ ผมเองเพิ่งซื้อมา 2 เล่ม
ขอบพระคุณมากครับ
คุณหมอมีตวามรู้กว้างขวางจริงๆ ครับ
มีอยู่เล่มหนึ่งครับ ที่ห้องสมุด จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย แต่อนิจจา ผมไม่มีพรรคพวกที่จุฬาฯ ที่พอจะไหว้วานให้ช่วยถ่ายเอกสารให้เลยครับ
นี่ครับ
The Milindapanho : being dialogues between King Milinda and the Buddhist sage Nagasena / the Pali text; ed. by V. Trenckner.
เลขหนังสือ 294.3123 M522
ส่วนฉบับของ
ที่ชื่อ Milindapanha ซึ่งพิมพ์ใหม่ในปี 1986
จะมี ISBN คือ 0 86013 235 8
ไม่แน่ใจว่าทั้งสองฉบับเหมือนกันทุกประการหรือไม่ เพราะพิมพ์คนละปีกัน ฉบับที่พิมพ์ครั้งหลังรู้สึกว่าจะมีเพิ่มเนื้อหาบางอย่างเข้ามาด้วย เช่น Milindatika ซึ่งผมเองก็ไม่ทราบว่าคืออะไรเหมือนกันครับ
สังเกต panho กับ panha ไม่ทราบว่าเหมือนหรือต่างกันอย่างไรครับ
อย่างไรก็ตาม ถ้ามี Part ของ Trenckner อยู่ในเล่มด้วยก็น่าจะพอใช้ได้ครับ เพราะฉบับ Original จริงๆ นั่นพิมพ์ไว้นานมากแล้วครับ ราวๆ 1880 คงหายากเต็มที
ขอบพระคุณคุณหมอและผู้อ่านทุกท่านครับ
สาธุ สาธุ สาธุ
ขอบคุณคุณหมอเช่นกันครับ ที่นำเรื่องดีดี มาเล่าสู่กันฟังอยู่เรื่อยๆ
คุณพ่อเป็นครูสอนภาษาฝรั่งเศสมาเกือบตลอดชีวิตครับ เคยรู้ภาษาบาลีมาบ้าง แต่มาศึกษาจริงจัง ก็ช่วงหลังเกษียณนี่เองครับ นอกจากบาลีแล้ว ก่อนหน้านี้คุณพ่อก็ยังศึกษาภาษาเยอรมันด้วยตนเอง คุณพ่อบอกว่าภาษาเยอรมันมีลักษณะคล้ายกับภาษาบาลี
ครับ เป็นประเด็นที่น่าสนใจอันนึง
เคยดูรายการสารคดีในทีวี ตอน "Nazi Expedition" ที่นาซีส่งทีมนักวิจัยเข้าไปในทิเบต เพื่อสืบหาพวกอารยัน ทีมวิจัยเห็น เครื่องหมายสวัสดิกะ ตามสถานที่ต่างๆ เหมือนกับที่นาซีใช้ และนอกจากนั้นยังเห็นเครื่องหมาย หัวกระโหลกมีกระดูกไขว้ ตามสถานที่ต่างๆ ในทิเบต เหมือนกับตราบนหมวกของนาซี นาซีจึงคิดว่ามีความเกี่ยวข้องกันกับทิเบตด้วย การไปสำรวจครั้งนี้ ทีมวิจัยได้ถ่ายภาพยนต์มาด้วยราวๆ 50 ชั่วโมง
ไปถามคุณพ่อมาแล้วครับ (อยู่คนละบ้านกัน)
เรียนคุณหมอวัลลภ ที่เคารพ
ดิฉันมีความตั้งใจจะจัดทำสารคดี เที่ยวสังเวชนีย์สถาน ที่อินเดีย ชื่อเรื่อง "พาลูกไปไหว้พระ" ซึ่งดิฉันเคยไปมาแล้วถึงสองครั้ง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล 80 ปีมหามงคล และเพื่อส่งเสริมให้เยาวชนและพุทธศาสนิกชนทั้งหลายได้ให้ความสนใจในพุทธศาสนา และความเป็นมาของสังเวชนียสถานแต่ละแห่ง แต่มีความจำเป็นต้องขออนุญาติอ้างอิงบางบทบาตอนของคุณหมอเพื่อให้ได้ข้อมูลละเอียดยิ่งขึ้น รวมทั้งภาพบางภาพจากเวปนี้ จึงใคร่ขออนุญาตจากคุณหมอเพื่อความถูกต้อง
รายได้ส่วนหนึ่งดิฉันตั้งใจจะทูลเกล้าถวายให้มูลนิธิชัยพัฒนา และส่วนหนึ่งมอบให้ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์สวนแก้ว ราชบุรี
ดิฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคงจะได้รับความอนุเคราะห์จากคุณหมอ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณหมอมา ณ ที่นี้
ปล. ดิฉันไม่สามารถติดต่อกับคุณหมอเป็นการส่วนตัวได้จึงขอเรียนให้คุณหมอทราบและเมตตาอนุญาติผ่านทางเวปนี้ค่ะ ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ
อภิญญา
ขอขอบพระคุณอาจารย์อภิญญา...
ขอบพระคุณคุณหมอมากค่ะ
ขอขอบพระคุณ... คุณอภิญญา
เรียนคุณหมอวัลลภ
ป้าเมย์ต้องการเดินทางไปกราบนมัสการสังเวชนียสถานที่ดินเดีย
โดยการไปด้วยตัวเองค่ะ ขอคำแนะนำด้วยค่ะ
1. ขอข้อมูลการเดินทางโดยรถไฟ รถยนต์โดยสาร จากกาฎมัณฑุ ไปลุมพินีค่ะ
2. ข้อมูล การเดินทางโดย เครื่องบิน รถไฟ รถยนต์โดยสาร จากลุมพินีลงใต้ไปกราบนมัสการตามลำดับ
3. การเข้าพักค่ะ
เหตุที่เดินทางจากเนปาล เพราะต้องบินจากแคนาดาไป จึงคิดว่า เดินทางจากเนปาลเข้าอินเดียน่าจะดี
ขอบพระคุณค่ะ