คนชอบเอาใจผู้อื่นมากกว่าการสร้างคุณค่าในตัวเอง ... (ค้นหาตัวเอง)


"...มนุษย์หลายคน

พยายามเอาใจผู้อื่น เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง

ต้องอยู่ในสภาวะรับเอาความคิด ความรู้สึก ความเชื่อผู้อื่น

มาเป็นความคิด ความรู้สึก ความเชื่อของตนเอง

สิ่งที่รับมานั้น

ไม่อาจผสานให้เข้ากับความรู้สึก นึกคิด ดั่งเดิมของตนได้เลย

เขาไม่รู้หรอกว่า การกระทำเช่นนั้นเป็นการทำร้ายตนเอง

โดยปราศจากการย่อย

สิ่งที่กลืนเข้าไปเหล่านั้น ล้วนแต่เป็นพิษ

ปิดกั้นความเจริญงอกงาม

ของความรู้สึกนึกคิด

ที่เป็นตัวตนของเขาเองทั้งสิ้น

 

เป็นอีกครั้งที่ฉันอ่าน... 

หนังสือ "ค้นหาตัวเอง" ของ "อาจารย์นวลศิริ เปาโรหิตย์"

ฉันเห็นคนหลายคนพยายามทำเช่นนั้น

เวลาถามความคิดเห็นก็มักจะตอบว่า "แล้วแต่ที่ประชุม"

หรือไม่ก็ "พี่ยังไงก็ได้"

เหมือนพูดกว้าง แต่ไม่ได้แสดงสิ่งที่อยู่ภายในที่แท้จริง

ดูปกปิด ซ่อนเล้น หรือเป็นความไม่รู้ ก็ดูไม่ชัดเจน

วันแรกก็ตอบแบบนี้ อีกสิบปีต่อมาก็ยังคงตอบแบบนี้อีก

เรียกว่า เดินย่ำอยู่กับที่ หรือไม่สมองก็หยุดการพัฒนาเซลล์

เพียงแต่รอวันว่า เมื่อไหร่จะไร้ลมหายใจ ไปจากโลกนี้สักที

หลายคนถามว่า มนุษย์เกิดมาทำไม

คำตอบที่ได้ยินจากพุทธปรัชญา คือ เราเกิดมาเพื่อทำความดี

เพื่อทำกรรมดี ทำสิ่งดี ๆ เพื่อให้โลกนี้เราน่าอยู่กว่าเดิม

เมื่อตายไป ก็เป็นเสบียงบุญไปใช้ต่อ ๆ ไป หรือใครไม่เชื่อเรื่องนี้

มันก็คือ "ความสุข"

มันก็คือ "การเลือกทำชีวิตให้มีคุณค่า"

เลือกที่เป็น "ผู้ให้" มากกว่า "ผู้รับ" จะดีกว่าไหม

มองเห็นคนเอาใจคนอื่น ก็ไม่ต่างอะไรที่...

อยากเป็น "นางฟ้า" หรือ "เทวดา" ในสายตาคนอื่น

แต่ในหัวใจหรือตัวตนที่แท้จริง อาจจะสู้คนที่มีไม่ครบ 32 ด้วยซ้ำไป

 อย่างเช่น "เอกชัย วรรณแก้ว" ผู้วาดฝันด้วยปลายเท้า

หรือ "Susan Boyle" ผู้ร้องเพลงจากความฝัน

 

 

 

เชียงใหม่

๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๒

 

หมายเลขบันทึก: 262380เขียนเมื่อ 21 พฤษภาคม 2009 00:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 16:20 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

สวัสดีครับอาจารย์ หลายครั้งในที่ประชุม สมองรับอาหารพิษเข้าไป เพียงเพื่อประคองการประชุมให้ผ่านไปได้ ไม่เคยคิดเลยว่า สมองบริโภคอาหารขยะไปทำลาย"ความเจริญงอกงามของความรู้สึกนึกคิดอันดีงาม" ต้องคิดใหม่แล้วครับอาจารย์

ขอบคุณที่มากระตุ้นความเคยชิน ชี้ให้เห็นโทษมากกว่าประโยชน์ครับท่าน

หลายครั้งที่ประชุมเหมือนประชุมไม่จบ

ยังมีนอกรอบบ่อยๆ

และเหตุการณืแบบนี้ไม่เคย จบหรือหายไปจากวงสังคมไม่ว่าชาติใดก็ตาม

เรื่องใด รกสมอง ก็ "ปล่อยวาง" นะครับ

ขอบคุณครับ คุณ ครูเอ :)

ในสังคมไทย คนส่วนใหญ่ชอบบริโภค สิ่งที่อาจารย์เรียกว่า อาหารพิษ เพียงเพื่อให้ตนเองเป็นนางฟ้า หรือ เป็น เทวดาอย่างที่อาจารย์ว่า แต่ทรายเลือกที่จะป็นมนูษย์ธรรมดาดีกว่าค่ะ อาจารย์ให้กำลังใจนะคะ กรรมดีที่สร้างจะนำอาจารย์ให้พบสิ่งที่ดีๆบ้างแม้น้อยไปนิดแต่ก็ยังดีที่มีให้เราได้พบค่ะ

ธรรมะจัดสรร นำเราไปพบกับคนดี ๆ อย่างคุณครู ทรายชล มนุษย์ธรรมดา ใช่หรือเปล่าครับ :)

อยากขอบคุณมาก ๆ ครับ ที่ห่วงใย แม้ไม่รู้จักหน้าตาอันไม่หล่อของผม :)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท