ผมประทับใจในวิสัยทัศน์ของคณะผู้บริหารที่ต้องการเห็น "ความชัดเจน" ของงานกิจกรรมบำบัดสำหรับผู้ติดสารเสพติด และได้เรียนรู้โมเดลที่คิดค้นขึ้นในระดับสากลและประเทศเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพอย่างเร่งรัด (FAST MODEL) - 4 เดือน - โดยมีกิจกรรมทางเลือกแนว "บังคับบำบัด" (Alternative Activities) และแผนการสอนให้รู้จักตนเองในการใช้ชีวิต (Self-Helps) ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่มีระเบียบแนว "ชุมชนบำบัด" (Therapeutic Community, TC) และมีการส่งพยาบาลและนักจิตวิทยาคลินิกศึกษาดูงาน Daytop Village, USA
แต่เมื่อถามอย่างนักวิชาการถึง "ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของโมเดลและรูปแบบโปรแกรมต่างๆ เช่น ครอบครัวบำบัด นันทนาการบำบัด การสำรวจตนเองและบันทึกกิจกรรมคล้ายสมุดพก เกษตรกรรมแบบพอเพียง หน่วยชุมชนบำบัด คหกรรมบำบัด ฯลฯ แบบสหวิชาชีพ โดยมีการติดตามระยะการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ติดสารเสพติดตั้งแต่ถอนพิษยาและเข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพ (Stage of Chage) ก็พบว่าบุคลากรทีมีความมุ่งมั่นแต่มีจำนวนไม่เพียงพอในการให้บริการต่อผู้ติดสารเสพติดที่พักในศูนย์ฯ จำนวน 300 คน และอีกหลายรายที่ออกไปอยู่ในชุมชนนอกศูนย์ฯ ไม่ได้ เคยคิดประเมินคุณภาพชีวิตและอื่นๆ แต่ขาดแนวทางการวิจัยอย่างชัดเจน บุคลากรทุกท่านแสดงความเชื่อและความคิดเห็นตามประสบการณ์ว่าวิธีการบำบัดข้างต้นช่วยให้ผู้ติดสารเสพติดเลิกยาได้ แต่ผมไม่ขอถามต่อว่าเลิกได้ชั่วคราวหรือถาวรหลังจากออกจากศูนย์ฯ เท่าที่สำรวจข้อมูลคร่าวๆ ครอบครัวและชุมชมในชีวิตจริงของผู้ติดสารเสพติดมีส่วนร่วมในการฟื้นฟูสมรรถภาพน้อยมากและปล่อยให้ศูนย์ฯ รับภาระพัฒนาพฤตินิสัยและความสามารถในการดำเนินชีวิตภายให้กรอบแห่งสิ่งแวดล้อมที่ควบคุมได้ของศูนย์ฯ
โจทย์ที่ท้าทายความสามารถของ ดร. ทางกิจกรรมบำบัด อย่างผมคือ อาจารย์คิดว่า กิจกรรมบำบัดจะช่วยผู้ติดสารเสพติดอย่างไร
คำตอบของผมคือ ผมได้ทบทวนข้อมูลวิชาการและเรียนรู้จากความเชี่ยวชาญในกิจกรรมบำบัดทางจิตสังคม ผมขอนำเสนอ Model of Human Occupation (MOHO) ซึ่งกล่าวถึง Volition (เจตจำนงค์ - ความสนใจ ความเชื่อ ความชอบ และความมั่นใจ) ในการสำรวจ แสดงศักยภาพ และประสบความสำเร็จในการมีทักษะความสามารถทำกิจกรรมการดูแลตนเอง การทำงาน และการใช้เวลาว่าง อย่างมีความสุข
ทุกคนในที่ประชุมก็นำเสนอว่า กิจกรรมต่างๆ เป็นทางเลือกแบบบังคับให้ผู้ติดสารเสพติดทุกคนมีความสุขในการทำกิจวัตรประจำวัน แล้วกิจกรรมบำบัดคือกิจกรรมทางเลือกหรือไม่
ผมอธิบายต่อว่า กิจกรรมบำบัด มีความเป็นวิชาชีพสากลของ WFOT และ WHO ในระดับศาสตร์และศิลป์ของการพัฒนาทักษะความสามารถในการทำกิจกรรมการดำเนินชีวิต โดยมีกระบวนการประเมินและบำบัดภายใต้กรอบแนวคิดที่ชัดเจน (Conceptual Framework) ทักษะการให้เหตุผลทางคลินิก (Clinical Reasoning Skills) และใบประกอบวิชาชีพตามกฎหมายสากลและประเทศ
ซึ่งมีหลายกรอบอ้างอิง (Frame of Reference) ได้แก่ หลักการหรือแนวคิดที่มีเหตุและผลเชิงทฤษฏีในมุมมองกว้างๆ เหมือนกัน
และมีหลายรูปแบบ (Model) ได้แก่ กระบวนการตามหลักการหรือแนวคิดที่มีเหตุและผลเชิงทฤษฏีในมุมมองทั้งกว้างและลึก ซึ่งอาจผ่านการปฏิบัติในงานวิจัยนำร่องมาแล้ว เช่น Self-Management Model of Care, Person-Environment-Occupation (PEO) Model, MOHO
หรือมีการบูรณาการกับแนวคิดเชิงปฏิบัติจากประสบการณ์ของสหวิชาชีพอื่นๆ (Concepts of Professional Approach) เช่น การใช้กิจกรรมศิลปะ ดนตรี เกษตร การปรับพฤติกรรม Self-Helps TC Rehabilitation Teachniques
ผมวิเคราะห์จากการสังเกตและลงมือปฏิบัติร่วมกับนักกิจกรรมบำบัดรุ่นน้องของศูนย์ฯ จึงขอสรุปภาพรวมเพื่อพัฒนาระบบกิจกรรมบำบัด ดังนี้
ปล...ผมมีความสุขกับการทำงานที่ใช้ความสามารถเพื่อส่วนรวมเต็มที่ ไม่ได้คาดหวังอะไรเป็นพิเศษ แต่ทำให้เต็มที่ในสภาวะปัจจุบันที่เป็นไปได้ แล้วทบทวนความคาดหวังเมื่อมองรูปธรรมของความสามารถของตนเองต่อความรู้ความเข้าใจที่นักกิจกรรมบำบัดและทีมงานของศูนย์ฯสะท้อนกลับมา ที่สำคัญผมต้องทบทวน "ใจ" ของตนเอง เลยนำภาพที่กลับไปชมวัดอุโมงค์มาฝากพี่น้องชาว G2K ทุกท่านครับ
ขอบคุณมากครับคุณแสงแห่งความดี
เรียนอาจารย์ที่เคารพ
ดิฉันเข้ามาอ่าน web นี้เป็นครั้งแรก เนื่องจากตอนนี้กกำลังหาข้อมูลเพื่อทำวิทยานิพนธ์ ตอนนี้ดิฉันเป็นอาจารย์พยาบาล ที่อุบลราชธานี กำลังศึกษาปริญญาโท เวชปฏิบัติชุมชน กำลังมองว่าจะทำเรื่อง การพัฒนาศักยภาพครอบครัวเพื่อบำบัดผู้ติดสุรา : ศึกษากรณีข้าราชการทหารชั้นประทวนค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี ขอความเห็นอาจารย์ด้วยค่ะ
ขอบคุณครับคุณอภิษฎา
ชื่อโครงงานน่าสนใจ ยินดีให้คำปรึกษา อาจส่ง proposal หรือคำถามที่ชัดเจนมาที่ [email protected]
เรียนอ.ป๊อบ
ดิฉันเป็นพยาบาลจากศูนย์บำบัดรักษายาเสพติดปัตตานี ได้อ่านบทความของอาจารย์รู้สึกประทับใจค่ะ และขณะนี้ทางผู้บริหารกำลังปรับกิจกรรมบำบัดโดยเน้นไปที่การทำกิจกรรมมากขึ้น และฝึกให้เรียนรู้ชีวิตและทักษะผ่านงานบำบัด ลดการพูดคุยที่เป็นวิชาการเนื่องจากพบสถิติการศึกษาน้อย ขณะนี้ได้มีการปรับเปลี่ยนไปบ้างแล้วนะคะ หลายๆอย่างที่ปรับมีแนวคิดคล้ายกับอาจารย์ ซึ่งคิดว่าควรจะได้มีการประเมินก่อนและหลังการปรับ ตามที่อาจารย์ได้เสนอว่า อาจใช้ R2R ในการศึกษาประสิทธิภาพก่อนและหลังใช้ระบบกิจกรรมบำบัดในผู้ติดสารเสพติด การ Monitoring Performance โดยการสัมภาษณ์ ใช้แบบสอบถาม และสังเกตขณะทำกิจกรรมที่มีรูปแบบชัดเจนในแต่ละสัปดาห์
จึงขอรบกวนอาจารย์ให้ข้อเสนอแนะ หรือตัวอย่างการทำ R2R ตัวอย่างแบบประเมินที่จะใช้ขณะทำกิจกรรม จะเป็นพระคุณอย่างยิ่งค่ะ เพื่อจะได้มีงานวิจัยที่ชัดเจนมากขึ้น.....ขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้
รบกวนคุณสรินฎาส่งรายละเอียดโครงการมาให้ผมดู หรืออาจพูดคุยกันทางอีเมล์ [email protected]
เพื่อผมจะได้ส่งข้อมูลบางส่วนไปให้ศึกษา หรือโทรมือถือ 08-522-40707
ยินดีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครับ
ดีดีคระดร.ป๊อบพี่ช่ามาเยี่ยมแลวนะคระ....สุดยอดจิงจิงแลวจามาติดตามผนงานอีกนะคระ....
ขอบคุณมากครับพี่ช่า เพื่อนร่วมทีมคุณหนู ชิมิ ชิมิ