ดิฉันเขียนบันทึกเรื่องนี้ด้วยความคิดถึงพี่เม่ย จริงๆ สัปดาห์ก่อนคุยขอช่วยกันทางโทรศัพท์ กับพี่เม่ย และคุณโอ๋ และท่านอื่นๆ เรื่องการเขอช่วยเป็น คุณ "FA" ในการจัด รวมตัวของกลุ่ม "คนสารบรรณ"มอ.ทีดิฉันไปเชียร์จนขึ้น มีการนัดรวมตัวกัน โดยมี passion จะร่วมพัฒนางานสารบรรณของมหาวิทยาลัยไปด้วยกัน ดิฉันก็ดูแลแนะแนวและช่วยกันออกแบบการพบกันครั้งนี้ ของเขากับ คุณอำนวยกลุ่ม คือพี่ผ่องใส ประเสริฐกุลวงศ์ หัวหน้างานสารบรรณ สนอ.มอ. โดยสื่อสารไปว่า "พี่ชักชวนคนที่พอจะชักชวนได้มา ช่วยกันออกแบบคุยกันว่าตรงใจพี่มั๊ย อยากได้อะไรเพิ่มเติม และหนูอยากได้อะไรเพิ่มบ้างจาก การรวมตัวสารบรรณ" โดยในใจคิดไว้เสร็จสรรพจะเชิญ CKO ของ มอ.มาเสริมการขายไอเดียที่สำเร็จแล้ว พร้อมเล่าเรื่องการสนับสนุนชุมชน ใน มอ. ระหว่างทางที่ประสานกับกลุ่มนี้ พบว่าบุคลากรของเรา "มีใจ" ให้องค์กร ขอเป็นโอกาสหน้าจะเล่าว่ามีใจอย่างไร วันนี้ขอแถลงความคิดถึงไปยังพี่เม่ย และคุณโอ๋ ก่อน เช่นกันด้วยเพราะความ "มีใจให้องค์กร" ของพี่เม่ย และคุณโอ๋ และท่านอื่นๆ เหมือนกัน ที่รับงานนี้ดิฉันจำได้ว่า การทาบทาม พี่เม่ย กับคุณโอ๋ ไม่ยาก ไม่ได้ยินเสียงหายใจที่อึดอัดแม้แต่น้อย ก่อนวางสายพี่เม่ยบอกกับดิฉันว่า "เราจะคุยกันก่อนใช่มั๊ยถึงแนวการเป็น FA ของเราเพราะเราจะมี ตั้ง 10 กลุ่ม" ตอบไปว่า "ค่ะ" แล้วตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้ ก็ไม่ได้คุยกับพี่เม่ย อีกเลย เพราะวิถีประจำวันไม่อยู่ที่โต๊ะทำงานสัปดาห์ที่ผ่านมามีชีวิตอยู่ในห้องประชุมซะเป็นส่วนใหญ่ประกอบกับเป็นคน ที่ใช้โทรศัทพ์มือถือแบบมือวาง (ชอบลืมโทรศัพท์) ป่านชะนี้ พี่เม่ยและคนอื่นๆ คงกังวล กับการเป็น FA ที่มิใช่เนื่องานของตนแน่ ๆ (อย่างไรก็ตามดิฉันแอบสบายใจอยู่คนเดียวว่าเราจะเป็น FA ร่วม ในประเด็น "ทำอย่างไรให้ ชุมชนยั่งยืน" แบ่งกลุ่มละ 9 คน สมาชิกกลุ่ม เป็นคุณกิจงานสารบรรณ ที่มีดีกรี ของ passion ที่ ไม่เท่ากัน หน้าที่ FA ในครั้งนี้คือช่วยสนับสนุนสมาชิกกลุ่มให้แลกเปลี่ยนแบบพุ่งเป้า ทำอย่างไรให้ชุมชนยั่งยืน เราคงได้คุยกันตอนกินข้าวเที่ยงวันจันทร์ ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 3 คณะนิติศาสตร์ แล้วพบกันนะคะ พี่เม่ย คุณโอ๋ หาก 2-3 วันที่ผ่านมาเป็นเหตุให้ พี่เม่ย คุณโอ๋ กังวลใจ ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ค่ะ