ไปเเล้วไปเลย


คิดก่อนทำดีที่สุด...

กิระ  ดังได้สดับมา ....

                         พระครูเจ้าอาวาสวัดเเห่งหนึ่งเป็นพระที่ผู้คนเคารพนับถือรูปหนึ่งของจังหวัด  ท่านมีปฏิปทาในเรื่องการปกครองที่เเปลกกว่าที่ือื่นอย่างหนึ่งคือ เมื่อพระภิกษุหรือสามเณรรูปใดทำผิดระเบียบของวัดถึงไล่ออก  เมื่อสอบสวนจนได้ความว่าผิดจริงเเละยอมร้ับผิดเเล้วท่านก็จะให้ออกจากวัดไป  ต่อมาเมื่อเวลวผ่านไปจะะเป็นกี่วันกี่เดือนก็ตาม  หากพระถิกษุหรือสามเณรรูปนั้นกลับมาขออาศัยอยู่ในวัดอีก  ท่านก็จะะรับให้อยู่ต่อไปโดยไม่มีข้อเเม้  ส่วนพระภิกษุหรือสามเณรรูปใดมาขอย้ายไปอยู่ที่อื่น  ท่านก็จะอนุญาตให้ไปตามใจไม่ทักท้วง  แต่หากต่อมาท่านรูปนั้นกลับมาขออยู่ในวัดอีก  ท่านก็จะปฏเสธไม่รับกลับมาอยู่ ท่านปฏิบัติอย่างนี้หลายครั้งจนเป็นที่รู้กัน

                     "ทำไมเป็นอย่างนั้นหลวงพ่อ" โยมอุบาสิกาคนหนึ่งกล้าถามหลวงพ่อเพื่อทราบเหตุผล
                     หลวงพ่อตอบว่า"พระเณรที่ทำผิดเเละถูกลงโทษจนให้ออกจากวัดไป  เมื ่อเขาขอกลับมาอยู่ใหม่  เเสดงว่าเขายังมีจิตใจผูกพันอยู่กับวัด  ยังรักวัดของเราอยู่  ที่เขาไปก็จำใจไปเพราะเขาทำผิดระเบียบผิดกฏิกา  แต่ไม่มีโ่ทษร้ายเเรงถึงให้สึัก  เขายังเป็นพระเณรอยู่ เมื่อเขามาขออยู่ใหม่ก็เเสดงว่าเขาสำนึกรู้สึกตัวเเละกลับเนื้อกลับตัวได้จึงควรให้อยู่  ไม่ควรห้ามเขา  เมื่อเขาทำผิดอีกก็ว่ากันใหม่ ส่วนผู้ที่ขอยัายตัวเองออกไป  เเสดงว่าเขาเต็มใจไป  เขาไม่ีมีเยื้อใยไม่รักวัดของเราเเล้ว  เเม้จะอ้างว่าไปศคกษาหาความก้าวหน้าต่ิอไปก็เป็นเรื่องส่วนตัวเขา เมื่อเขาย้อนกลับมา  เเสดงว่าเขาไปไม่รอดหรือไปเเล้วไม่สมหวังจึงกลับมา"
                     "ไม่เป็นการขาดเมตตาธรรมไปหรือหลวงพ่อ"  โยมย้อนถาม
                     "ก็ดูจะเป็นอย่งนั้นเหมือนกัน  แต่ที่ถูกเขาควรจะมีความมุมานะต่อสู้ดิ้นรนต่อไป  ทำความฝันให้สำเร็จให้ดได้  เมื่อสำเร็จเเล้วจะกลับมาเยี่ยมเยียนวัดเก่าหรือมาค้างเเรมชั่วคราวก็ได้ แต่ไม่ควรกลับมาอยู่  ทำเเบบนั้นเเสดงว่าใจคอโลเล ไม่สู้จริง  เมื่อกลับมาเเล้วหากคิดจะไปอีกก็คงจะไปเหมือนเดิม เหมือนเห็นวัดเราเป็ฯโรงเเรม  นึกจะเข้าก็เข้า นึกจะออกก็ออก ดูไม่งาม  หรือโยมว่าอย่างไร"

                            ไม่ได้ยินเสียงตอบจากโยม  เเละไม่มีข่าวว่ามีใครมาถามหลวงพ่ออีก.



ข้อคิดที่ได้จากเรื่อง"ไปเเล้วไปเลย"

              ธรรมดาถิ่นที่เกิดเเละถิ่นที่อยู่ก็สามารถอำนวยความสุขความเจริญให้แก่ผู้อยู่ได้ตามสมควรแกอัตภาพ  ไม่อย่างนั้นถิ่นต่างๆ  ก็คงจะไม่มีคนอยู่ติดต่อกันมาเป็ฯสิบเป็นร้อยปี  แต่หากต้องการความเจริญก้าวหน้ากว่าเดิม  ต้องการไปเเสวงโชคเเบบไปตายเอาดาบหน้า  ก็ย่อมเป็นสิทธิที่จะำทำได้  เเละผู้คนทั่วไปเขาก็ทำกัน  แต่ก็มีข้อที่น่าตระหนักอยู่ คือก่อนทคึีจะตัดสินใจละทิ้งถิ่นของตัวเองไปอยู่ถิ่นอื่น  ควรคิดให้รอบคอบ  คิดให้ถ้วนถี่ คิดทั้งแง่บวกและแง่ลบ มิใช่คิดถึงแต่ความสำเร็จท่าเดียว หากผิดคาดขึ้นมาจะทำอย่างไร  คิดเผื่อไว้ด้วย  เเละเมื่อไปเเล้วต้องเอาดีให้ดได้  ต้องมุมานะทำฝันให้เป็นจริง  หนักเอาเบาสู้  ไม่ท้อแท้ยอมเเพ้ยอมถอยง่ายๆ  อย่าย้อนหลังเมื่อยังไม่สมหวังในระดบได้ระดับหนึ่ง  จะกลับไปก็ต้องให้ดีกว่าเดิม ไม่อย่างนั้นเขาจะดูเเคลน ไม่เชื่อถือศรัทธา..

 

หมายเลขบันทึก: 260274เขียนเมื่อ 10 พฤษภาคม 2009 15:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 06:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท