เล่าเรื่องงานเบาหวานที่ Ho Chi Minh City (๒)


ปัญหาด้านการดูแลผู้ป่วยเบาหวานของที่นี่ คงต้องฝากความหวังไว้กับคนรุ่นใหม่

Ho Chi Minh City ตอนที่

วันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๕๒

เช้านี้เราแวะไปที่ Children’s Hospital No.1 อีกครั้ง เพื่อพบกับผู้บริหารของโรงพยาบาล เราเข้าโรงพยาบาลอีกด้านหนึ่งที่ไม่ต้องผ่านส่วนที่ให้บริการตรวจรักษา อาคารด้านนี้ดูดีและใหม่กว่าด้านที่เราผ่านเมื่อวานนี้ ขณะที่นั่งรอเวลามีเจ้าหน้าที่เดินเข้ามาถามดิฉันเป็นภาษาเวียดนาม คงถามว่ามาทำไมหรือมาพบใคร เราตอบเป็นภาษาอังกฤษว่าไม่ใช่คนเวียดนาม และบอกว่ามารอพบคุณหมอ Loan

ผู้ที่มาประชุมกับเรามี Dr. Hung, Vice Director ของโรงพยาบาล Dr. Tuan, Director External and International Relations และ Dr. Loan คุณ David นำเสนอข้อมูลจาก RAPIA เพียงสั้นๆ หลังจากนั้นเป็นการพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน เราได้รับรู้ว่าโรงพยาบาลมีแผนจะทำอะไรบ้าง Vice Director โชว์เอกสารที่เป็นสื่อให้ความรู้กับผู้ป่วยและญาติในเรื่องต่างๆ ด้วย

 

บรรยากาศในห้องประชุม

ประมาณ ๑๑ น. เราไปที่ Children’s Hospital No.2 เมื่อเข้าสู่บริเวณโรงพยาบาล พบว่าอาคารและบริเวณรอบๆ สวยงาม ดูน่าอยู่ คุณ David บอกว่ารัฐบาลฝรั่งเศสมอบอาคารให้ เราได้พบกันแพทย์หลายคนคือ Dr. Thuy, Head of Department, Nephrology, Endocrinology and Hematology, หมอหนุ่ม Dr.Dong ที่รับผิดชอบผู้ป่วยโรคระบบต่อมไร้ท่อ และหมอหนุ่ม-สาวอีก ๖ คน รวมทั้งหัวหน้าพยาบาล

 

บริเวณภายนอกของ Children’s Hospital No.2

การประชุมที่ Children’s Hospital No.2 เป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลความคิดเห็น ดิฉันและคุณ Marg McGill ให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการพัฒนาพยาบาลให้ทำหน้าที่ educator ได้ จากประสบการณ์ของตนเอง

หลังรับประทานอาหารกลางวัน เป็นเวลาว่าง ดิฉันแยกกับคุณ David เพื่อกลับโรงแรม แม้คุณ David จะชี้บอกทางให้ แต่ก็ดูยากอีก โชคดีที่พกนามบัตรของโรงแรมไว้จึงดูตามชื่อถนนและนับเลขที่เอา สามารถเดินกลับถึงโรงแรมได้ถูกต้อง

บ่ายนี้ดิฉันและสามีไปเดินสำรวจพื้นที่ใกล้ๆ โรงแรม และตลาดใหญ่แห่งหนึ่งที่มีของขายสารพัด ตั้งแต่เสื้อผ้า ของที่ระลึก ของกิน ได้แต่ดู ไม่ได้ซื้อสักอย่าง เพราะมีประสบการณ์ของสามีซึ่งโดนแม่ค้าโขกราคาน้ำดื่มที่ซื้อจากตลาดนี้ (ราคาขวดละ VND ๑๐,๐๐๐) แพงกว่าที่ซื้อจากซุบเปอร์มาเก็ต (ราคา VND ๖,๕๐๐) กลับจากเดินตลาดผ่านร้านอาหารริมทาง หน้าตาคล้ายขนมจีนน้ำเงี้ยวของเรา

 

ภายในตลาด <p style="text-align: left;">อากาศร้อนมากเลยเดินไม่ทน เราแวะดื่มเครื่องดื่มที่ห้องอาหารของโรงแรม พนักงานสาวที่ให้บริการชวนคุย พอรู้ว่าดิฉันได้ไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลต่างๆ เธอจึงเล่าว่าเวลาเจ็บป่วยมีความลำบาก ไปโรงพยาบาลก็คนเยอะต้องคอยกว่า ๒-๓ ชม.จึงจะได้พบหมอเพียงไม่กี่นาที การจะไปพบหมอที่มีชื่อเสียงที่เปิดคลินิกก็มีค่าใช้จ่ายสูง เธอบอกว่าชอบอาหารไทย ทำต้มยำแบบของไทยกินที่บ้านด้วยพร้อมเอาต้นตะไคร้ให้เราดู</p>

อาหารเย็นมื้อวันนี้ คุณ David เป็นเจ้ามือพร้อมเชิญคุณหมอ Dong และพยาบาล Van มาพูดคุยและรับประทานอาหารร่วมกัน ปัญหาด้านการดูแลผู้ป่วยเบาหวานของที่นี่ คงต้องฝากความหวังไว้กับคนรุ่นใหม่

อาหารเย็นมื้อนี้เป็นอาหารเวียดนามล้วนๆ เช่น กุ้งพันอ้อย ปอเปี้ยะ มีคล้ายๆ แหนมเนือง แต่แป้งที่ใช้ห่อเขาใช้แผ่นแป้งแห้งๆ แข็งๆ ไม่มีการจุ่มน้ำให้นิ่ม ขนมเบื้องที่มีใส้เป็นถั่วงอก หอมหัวใหญ่ หมูสามชั้น รสจืดๆ ต่างจากของบ้านเรา ฯลฯ ล่วงเข้าถึงวันนี้คุณ Marg คงเหนื่อยสะสมบวกกับอากาศที่ร้อน จึงรับประทานอาหารได้น้อยมาก สำหรับดิฉันยังสบายดีอยู่

วันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๕๒
เราเก็บข้าวของตั้งแต่เมื่อคืน ไม่ยุ่งยากเพราะไม่ได้ซื้ออะไรเลย มีเพียงของขอบคุณจากคุณ David ๒ ชิ้น คุณ David จัดรถมารับเราไปส่งที่สนามบิน เป็นรถที่มีสภาพดีกว่ารถแทกซี่มาก โชเฟอร์สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ เราออกจากโรงแรมตอน ๐๙ น. วันนี้ช่วงเช้าคุณหมอ Luong ชวนคุณ David และคุณ Marg ไปเยี่ยมโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย (คุณ David เล่าให้ฟังภายหลังว่าเป็นโรงพยาบาลที่ดี)

 

เมือง Ho Chi Minh ถ่ายภาพจากโรงแรมที่พัก

สนามบินนานาชาติที่ Ho Chi Minh City อยู่ไม่ไกลจากเมือง ยังใหม่ ดูทันสมัยดี ที่ตลกก็คือเมื่อเราจะผ่านฝ่ายตรวจคนเข้าเมือง เราไม่มีเอกสารติดที่ passport ตอนที่เข้ามา เป็นเพราะความเข้าใจผิดของเราเองที่คิดว่าไม่ต้องขอวีซ่าก็ไม่ต้องมีอะไร แถมตอนเครื่องบินถึงฮานอยก็ไม่มีการแจกเอกสารเข้าเมืองให้เขียน ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองที่ฮานอยก็ให้เราผ่านเข้าเมืองง่ายๆ

เราต้องไปขอเอกสารที่เคาน์เตอร์ check-in ของการบินไทยมาเขียนใหม่ พนักงานบอกว่าเราต้องทำเอกสารหายแน่ๆ ถ้าไม่มีเอกสารนี้เราจะไม่สามารถเข้าเมืองได้หรอก (ความจริงคือเราไม่มีเอกสารแต่เข้าเมืองได้)

สนามบินไม่ใหญ่มาก ดิฉันซื้อของฝากอาจารย์อัญชลี ชยานุวัชร ๑ ชิ้น เป็นการขอบคุณที่ช่วยเหลือในการเตรียมตัว ซื้อกาแฟสด ๑ ถุง สำหรับตัวเอง เครื่องบินออกจากสนามบินเมื่อเวลา ๑๑.๓๕ น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิประมาณ ๑๓ น. มาเจออากาศบ้านเราที่ร้อนไม่น้อยกว่าที่ Ho Chi Minh City

วัลลา ตันตโยทัย

หมายเลขบันทึก: 259823เขียนเมื่อ 7 พฤษภาคม 2009 18:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:42 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

สวัสดีค่ะ

แวะมาทักทายนะคะ

สมัครสมาชิกไว้นานมากค่ะ ตั้งแต่ปี 50 ช่วงที่อาจารย์มาเป็นวิทยากรรับเชิญที่รพ.รามา

ทำไว้แต่ไม่มีเวลาทำอะไร ช่วงนี้พอจะมีเวลาบ้างเลยเข้ามาเล่นดูค่ะ ในนี้มีเรื่องน่าอ่าน

เยอะมากเลยนะคะ พยายามที่จะเข้าไปอ่านอยู่ค่ะ แลกเปลี่ยนเรียนรู้สนุกดีนะคะ

ขอบคุณค่ะ ที่ช่วยแนะนำสิ่งดีๆ

ขอให้อาจารย์สุขภาพแข็งแรงนะคะ

ปาริชาติค่ะ

สมัครสมาชิกแล้วค่ะ แต่ไม่เคยได้เข้ามาดู (ยุ่งกับลูก)ตอนนี้ลูกอายุ 11 เดือน พอมีเวลาว่างบ้าง มีแม่เป็นเบาหวานค่ะ ก็เลยอยากหาเทคนิคใหม่ในการดุแลผู้ป่วยเบาหวานค่ะขอบคุณค่ะ

ที่เวียดนามนี่ ผักผลไม้ คล้ายบ้านเรานะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท