การทำสัญญาซื้อขายระหว่างประเทศแต่เดิมนั้น ไม่มีกฎเกณฑ์ที่ใช้บังคับต่อสัญญาโดยเฉพาะ ดังนั้น คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจะพยายามเจรจาต่อรองที่จะให้กฎหมายภายในประเทศของตนมีผลบังคับใช้ในสัญญา ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าคู่สัญญาฝ่ายใดจะมีอำนาจต่อรองมากกว่ากัน และเป็นไปได้ว่ากฎหมายว่าด้วยการซื้อขายของประเทศหนึ่งมักจะแตกต่างจากอีกประเทศหนึ่ง จึงทำให้เกิดความไม่มั่นใจในสิทธิและหน้าที่ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายที่อยู่ต่างรัฐกันซึ่งเป็นปัญหาประการหนึ่งและในกรณีที่ว่าคู่สัญญาไม่ได้ตกลงโดยชัดแจ้งในสัญญาว่าจะเลือกกฎหมายใดมาบังคับใช้ ก็เป็นปัญหาอีกประการหนึ่งในการเลือกใช้กฎหมายที่บังคับต่อสัญญา ซึ่งอาจแก้ไขได้โดยการใช้กฎหมายขัดกันของศาลในประเทศที่คู่สัญญานำเสนอข้อพิพาท อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่อาจเกิดตามมาก็คือกฎหมายขัดกันของแต่ละประเทศยังมีความแตกต่างกันไปตามระบบกฎหมาย และยังมีความไม่ทันสมัย ไม่สอดคล้องกับวิธีปฏิบัติทางการค้าระหว่างประเทศด้วย
ดังนั้น เพื่อการแก้ไขปัญหาดังกล่าว รวมถึงเพื่อการสร้างกฎเกณฑ์ที่มีผลบังคับใช้ต่อสัญญาซื้อขายระหว่างประเทศให้มีความเป็นเอกภาพโดยไม่ตกอยู่ภายใต้กฎหมายภายในของประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีสถาบันที่จัดทำกฎหมายเอกชนให้เป็นเอกภาพ (UNIDROIT) ซึ่งตั้งอยู่ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี จัดทำอนุสัญญาว่าด้วยการซื้อขายระหว่างประเทศ 2 ฉบับ เมื่อ ค.ศ. 1964 (พ.ศ. 2507) โดยมีประเทศต่าง ๆ เข้าร่วมลงนามเป็นภาคี ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ อนุสัญญาทั้งสองฉบับมีชื่อดังนี้
1. อนุสัญญาว่าด้วยกฎหมายรูปแบบของการซื้อขาย
ระหว่างประเทศ (The Convention relating to a Uniform Law on the International Sale of Goods)
2. อนุสัญญาว่าด้วยกฎหมายรูปแบบของการ
ก่อให้เกิด สัญญาสำหรับการซื้อขายระหว่าง
ประเทศ (The Convention relating to a
Uniform Law on the Formation of Contracts
for the International Sale of Goods)
แต่ประเทศที่เป็นภาคีมีจำนวนน้อยและไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร ดังนั้นคณะกรรมการกฎหมายการค้าระหว่างประเทศของสหประชาชาติ (United Nations Commission on International Trade Law) มีชื่อย่อว่า UNCITRAL ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งขององค์การสหประชาชาติจึงได้ร่างกฎหมายแม่แบบในการค้าระหว่างประเทศโดยเฉพาะสำหรับการซื้อขาย เรียกว่า United Nations Convention on Contracts for the International Sale of Goods 1980 (CISG) ซึ่งเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1988 และนับได้ว่าอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยสัญญาซื้อขายระหว่างประเทศหรือ CISG ได้รับความสำเร็จอย่างคาดไม่ถึง หลังจากใช้เวลามากว่า 30 ปี ในการเตรียมการร่างสัญญา และนับตั้งแต่การประชุมสหประชาชาติ (UN) ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียในปี ค.ศ.1980 ซึ่งมีประเทศสมาชิก 62 ประเทศเข้าร่วมในการประชุม จนกระทั่ง ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) มีประเทศที่ประกาศใช้ CISG เป็นกฎหมายรวม 67 ประเทศ ทั้งนี้เกือบทั้งหมดของประเทศที่เข้าร่วมเป็นภาคีล้วนเป็นชาติมหาอำนาจทางการค้า ยกเว้น สหราชอาณาจักรหรืออังกฤษ และญี่ปุ่น
อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยสัญญาซื้อขายระหว่างประเทศ หรือCISG แทบจะเรียกได้ว่าเป็นการประชุมทางกฎหมายเกี่ยวกับการพาณิชย์ระหว่างประเทศที่ทรงอิทธิพลมากที่สุด อีกทั้งนักกฎหมายและศาลในหลายประเทศก็มีความคุ้นเคยกับ CISG เสมือนหนึ่งเป็นกฎหมายภายในประเทศของตนเอง อนุสัญญาดังกล่าวจึงถือได้ว่าเป็นกฎหมายกลางในการซื้อขายระหว่างประเทศเลยทีเดียว ส่วนหนึ่งของความสำเร็จนั้นอาจเป็นเพราะการกำหนดขอบเขตการใช้บังคับ CISG ดังที่บัญญัติไว้ในส่วนที่ 1 (มาตรา 1 – 13) ไม่ได้มีความซับซ้อนมากเกินไปและกลายเป็นต้นแบบให้กับอนุสัญญา หรือร่างสนธิสัญญาอื่น ๆ อีกหลายฉบับได้เจริญรอยตาม
วัตถุประสงค์ของ CISG คือว่า “CISG ไม่ได้เป็นกฎเกณฑ์ที่รวบรวมแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศ จึงไม่ได้มีบทบัญญัติเกี่ยวกับรายละเอียดต่าง ๆ ที่ครอบคลุมในเรื่องสัญญาซื้อขายระหว่างประเทศทุกเรื่อง แต่มีจุดมุ่งหมายในการบัญญัติสิทธิหน้าที่และการเยียวยาขั้นพื้นฐานของผู้ซื้อและผู้ขายในสัญญาซื้อขายระหว่างประเทศ อันเป็นหลักเกณฑ์ที่เกิดจากการผสมผสานและประนีประนอมของระบบกฎหมายต่าง ๆ ทำให้อนุสัญญานี้ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ” 1 ดังนั้น จะพบว่าการนำ CISG มาใช้บังคับเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายภายใน ก็จะได้รับประโยชน์ในเรื่องของการก่อให้เกิดสัญญาซื้อขายระหว่างประเทศและการตีความสัญญาเพื่อกำหนดสิทธิและหน้าที่ของผู้ซื้อและผู้ขาย ตลอดจนการเยียวยาระหว่างคู่สัญญา นอกจากนี้ ลักษณะสำคัญประการหนึ่งของ CISG ยังเปิดช่องให้คู่สัญญามีเสรีภาพในการทำสัญญาโดยจะยกเว้นไม่นำบทบัญญัติ CISG มาใช้บางส่วนหรือไม่ใช้ทั้งหมดเลยก็ได้ ในขณะที่หลายประเทศมีการนำ CISG ไปใช้อย่างกว้างขวาง สำหรับประเทศไทย ยังไม่มีกฎหมายว่าด้วยการซื้อขายสินค้าระหว่างประเทศเป็นการเฉพาะ ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ ผู้พิพากษาและเลขานุการศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง กล่าวถึงมุมมองของประเทศกำลังพัฒนาต่อการนำ CISG ไปใช้ได้อย่างน่าสนใจว่า
“อนุสัญญาซื้อขายสินค้าฯ (ระหว่างประเทศ) ตอบสนองปัญหาของประเทศกำลังพัฒนา ในแง่ที่เป็นกฎหมายที่ทันสมัยที่บัญญัติเป็นพิเศษสำหรับสัญญาซื้อขายระหว่างประเทศ มีความยืดหยุ่น และคำนึงถึงประโยชน์ของผู้ซื้อและผู้ขายระหว่างประเทศในลักษณะที่สมดุล บทบัญญัติของอนุสัญญานี้วางหลักการที่ชัดเจนและครอบคลุมปัญหาในทางปฏิบัติเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศที่กฎหมายภายในของประเทศที่กำลังพัฒนา
1สุทธิพล ทวีชัยการ, “บทวิเคราะห์เรื่องความสัมพันธ์ระหว่าง INCOTERMS และกฎหมายซื้อขายระหว่างประเทศ,” ในคู่มือการศึกษาวิชากฎหมายการค้าระหว่างประเทศ, จัดพิมพ์โดย สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา (กรุงเทพมหานคร: จิรรัชการพิมพ์, 2545) น.136.
หลายประเทศไม่ได้บัญญัติไว้...ซึ่งความมีอยู่ ตลอดจนการใช้และตีความของบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องของอนุสัญญาดังกล่าวน่าจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศกำลังพัฒนา” 2
คำกล่าวข้างต้นนี้ตีพิมพ์ในวารสารทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ เมื่อปี ค.ศ.1999 (พ.ศ. 2542) ผ่านมาจนถึง ปี พ.ศ. 2549 ซึ่งพบว่าเป็นช่วงที่ศึกษาค้นคว้าวิจัย CISG เชิงเปรียบเทียบกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ของไทยเพื่อนำไปใช้ร่างกฎหมายเกี่ยวกับสัญญาซื้อขายระหว่างประเทศ จากการประชุมทางวิชาการครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2549 เพื่อร่างพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายสินค้าทางพาณิชย์ โดยขออ้างอิงคำกล่าวของศาสตราจารย์พิเศษ จรัญ ภักดีธนากุล ในการประชุมครั้งนี้ที่ว่า
“ตอนนี้ร่าง พ.ร.บ.สัญญาซื้อขายสินค้าระหว่างประเทศได้มีการปรับเปลี่ยนเป็นร่าง พ.ร.บ.สัญญาซื้อขายสินค้าทางพาณิชย์ เพื่อมิให้ระบบกฎหมายซื้อขายของไทยมีหลายระบบมากจนเกินไป อันอาจทำให้นักกฎหมายต้องสับสนต่อการใช้บังคับ ดังนั้นในแนวใหม่นี้จึงได้จัดทำกฎหมายในรูปแบบการซื้อขายสินค้าทางพาณิชย์ โดยวางหลักเกณฑ์ทั้งการซื้อขายสินค้าในประเทศและระหว่างประเทศให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือ
๑. ถ้าเป็นการซื้อขายทางแพ่ง กฎหมายที่ใช้บังคับก็เป็นไปตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
๒. ถ้าเป็นการซื้อขายทางพาณิชย์ไม่ว่าจะเป็นในประเทศหรือระหว่าง
ประเทศก็จะใช้ พ.ร.บ.ฉบับนี้
ในกฎหมายฉบับนี้ของเราควรพิจารณาทั้งส่วนที่เหมือนและต่างกับที่มีอยู่ใน CISG และในกฎหมายแพ่งของไทย ในส่วนที่ต่างกันต้องนำมาพิจารณาแล้ววางหลักเพื่อปรับกฎหมายให้เหมาะสมกับการปรับใช้ในทางพาณิชย์ ... CISG เป็นอนุสัญญาที่ได้ผสมผสานทั้งระบบ Common Law และ Civil Law แต่จะสอดคล้องไปทาง Civil Law มากกว่า ทำให้ประเทศไทยไม่น่าจะมีปัญหาอะไรในการร่างกฎหมายไปตาม CISG”3
2 Suthiporn Thaveechaiyagarn, “The Third World Perspective on the U.N. Convention on Contracts for the International sale of Goods,” วารสารทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ, น.246-247.
3 <http://www.legalreform.go.th CISG
ถึงแม้ว่าการร่างกฎหมายดังกล่าวยังไม่ปรากฏให้เห็นชัดเจนเป็นรูปธรรมนับตั้งแต่การประชุมทางวิชาการที่ผ่านมาแล้วนั้น แต่การศึกษาขอบเขตการใช้บังคับของ CISG เพื่อการเตรียมความพร้อมไว้ก่อนนับว่าเป็นเรื่องที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง หากประเทศไทยประสบผลสำเร็จในการตราพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายสินค้าทางพาณิชย์โดยมีการนำCISG มาปรับใช้ ทั้งนี้จำเป็นต้องคำนึงถึงด้วยว่าประวัติการตรากฎหมาย CISG แสดงให้เห็นว่าขอบเขตการนำไปใช้ไม่ได้อยู่นิ่ง แต่เปิดให้มีการพัฒนา แก้ไข และปรับเปลี่ยน4 ซึ่งจากการค้นคว้าบทความต่างประเทศ ทำให้เข้าใจว่าบางประเด็นยังไม่ได้ข้อยุติว่าอยู่ภายใต้หรือนอกเหนือขอบเขตการใช้บังคับของ CISG ด้วยเหตุนี้ การนำเสนอรายงานขอบเขตการใช้บังคับครั้งนี้ จึงเป็นส่วนหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความเห็นของนักกฎหมาย นักวิชาการในปัจจุบัน จากบทความต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงบทวิจารณ์คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับบทบัญญัติมาตราที่เกี่ยวกับขอบเขตการใช้บังคับ ซึ่งในอนาคตย่อมมีการพัฒนาแง่มุมใหม่ ๆ และปรับเปลี่ยนแก้ไขอย่างไม่หยุดนิ่งเพื่อนำ CISG ไปใช้ให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติการค้าระหว่างประเทศตามระบบกฎหมายที่แตกต่างกันและตามยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง
4Annemarie Großhans, “Reflections on the Scope of the Applicability of the 1980 U.N. Convention on Contracts for the International Sale of Good,” Vindobona Journal of International Commercial Law & Arbitration (2005 ):3.
--------------------------------
มีต่อ
สวัสดีค่ะ
เก่งรอบด้านจริงๆ
ไม่ว่ากฎหมาย ธรรมะ... การเขียน...
จะให้น้องคนที่มีปัญหา กลัดกลุ้มใจมาทักทายขอคำแนะนำนะคะ
พี่แดงภูมิใจที่ได้รู้จักอาจารย์ศิลา
ดอกไม้บานวันมงคล...พี่แดงฝากมาแทนคำขอบคุณนะคะ
อยากเห็นภาพที่น้องแอนได้ของฝากที่เป็น kitty จังเลย...
สีของความดี
สีของคนที่มีเนื้อคู่แท้ soulmate
สีขาวบริสุทธิ์ เป็นสีของคนที่มีจิตใจงดงาม
สวัสดีค่ะคุณศิลา
มาอ่านสิงที่ไม่มีความรู้เลยค่ะ
คงต้องเก็บไว้ในคลังความรู้ก่อน ... เผื่อต้องใช้ในอนาคตค่ะ
ขอบคุณค่ะ
(^___^)
สวัสดีค่ะ
น้องกะทิ
ความสุขของกะทิ
ขอให้หลานเลี้ยงง่าย แข็งแรง
และมีจิตใจดี...
ขอบคุณมากมายค่ะ
น้องแอนคงดีใจมาก...
มาเรียนรู้สิ่งที่ไม่เคยรู้..เก่งจริงๆ..ข้าน้อยขอคารวะด้วยใจจ้า
จูงหลาน มาเที่ยว ครับ
น่ารัก มั้ย ครับ
สวัสดี ครับ คุณ sila
สวัสดีครับอาจารย์ พา เพ็ญ มาขอบคุณอาจารย์ที่ช่วยให้กำลังใจ..พร้อมกับให้มะม่วงเขียวเสวย ขอบคุณครับ
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณนะคะ กำลังใจ สิ่งดีๆที่มอบให้...
อาจารย์เป็นคนหนึ่งที่...ร่วมสานฝัน...ให้เด็กๆ... ขอให้มีความสุขมากๆ...
เมื่อวานเวรบ่าย...เห็นน้องอาหุย...น้องจ๋า...น้องโอ๊ค..(พูดยังไม่ชัดดีเลย) ซ้อมร้องเพลง...รอการจัดงาน...
ก็เลยอุ้มมานั่งตักเปิด...com. ให้ดูที่น้องพอลล่า post เรื่องตุ๊กตาให้น้อง..
.เด็กๆทำตาโต...หนูจะเอาตัวนี้... หัวเราะเอิ๊กอ๊าก...ให้หนูดูอีก....
นี่หละโลกของเด็กไม่ได้อยากได้อะไรมากไปกว่านี้....
ขอบคุณจริงๆค่ะ
สวัสดีค่ะ
เพิ่งได้รับพัสดุตอนเย็น
ตื่นเต้นนะคะยังไม่เปิดดูค่ะ
ขอบคุณมากนะคะ...
จะส่งรูปให้ดูวันหลังนะคะ
แวะมาศึกษาเรียนรู้ค่ะ
สวัสดีค่ะ
มัวแต่เตรียมงานเลยไม่ได้มาทักทาย...
ขอบคุณนะคะที่มาร่วมเป็นหนึ่งในโครงการดีๆ
ความสุขที่มาทางพัสดุ...
มีค่าต่อจิตใจน้องแอน และตุ๊กตา...ก็ให้น้องทิพย์...สวยและน่ารัก น้องบอกว่าจะเก็บเป็นที่ระลึก...
เสียดายจังเลย...กล่องนั้นมีที่อยู่...หลังจากแกะน้องๆเขาเอากล่องทิ้ง... อยากจะฝากอะไรเล็กมา...ทำไงดีคะ
สวัสดีค่ะคุณคนไม่มีราก อยากแอบไปดูคลังข้อมูลความรู้ของคุณคนไม่มีรากจังค่ะ คงมีเนื้อหาความรู้ดี ๆ น่าสนใจมากมาย จึงสามารถถ่ายทอดเรื่องราวได้หลากหลายและเห็นภาพตามได้ทุกครั้งที่นำเสนอค่ะ
อากาศเปลี่ยนจากร้อนมาเย็นฉ่ำ ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ ศิลาแพ้อากาศไปแล้วค่ะ ฝากไว้ก่อน กะว่าคราวหน้าจะขอชนะบ้าง
- สวัสดีค่ะท่านศรีกมล รวบรวมไว้เป็นส่วนหนึ่งของงานที่ทำอยู่ค่ะ
- รู้สึกว่าตอนนี้ อยากปล่อยความรู้ที่แม้มีไม่มากนักออกมาให้หมด แล้วจะศึกษาเรื่องที่เราไม่เข้าใจเรื่องหนึ่งค่ะ คงต้องจริงจังบ้างแล้ว
หนูได้แก้ไขข้อมูลที่บล็อกของหนูค่ะ http://gotoknow.org/blog/berger0123/260738
รูปท่านพ่อเฟื่อง อยู่วัดธรรมสถิตย์ จ.ระยอง ศาลนาจา ที่ลักษณะเมืองวัดเมืองจีน อยู่อ่างศิลา จ.ชลบุรี ใกล้บางแสน ค่ะ ถ้าว่างลองไปเที่ยวดูนะค่ะ ต้องขออภัยค่ะที่ให้ข้อมูลผิด เพราะไปสองจังหวัดที่อยู่ติดกันค่ะ
ขอความรู้หน่อยค่ะ จะทำข้อสอบ
ข้อกำหนดของ unidroit มีอะไรบ้างคะ
เป็นอันเดียวกับ cisg ที่อ.เขียนหรือเปล่า
ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ สัญญาสร้างขายระบบ turn key การบริการหลังการขาย
การผูกพันตามสัญญา และการซื้อขาย สินค้าระหว่างประเทศค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ตอบคำถามคุณสุภาภรณ์ UNIDROIT กับ CISG เป็นกฎหมายคนละตัวค่ะ เข้าไปดูข้อกำหนดของ UNIDROIT ได้ใน www ต่อไปนี้ค่ะ
http://www.unidroit.org/english/principles/contracts/main.htm
คู่สัญญาสามารถตกลงที่จะนำข้อใดของอนุสัญญาดังกล่าวมากำหนดในสัญญาก็ได้ค่ะ แต่ก็ต้องขึ้นกับกฎหมายที่ใช้บังคับ (applicable law)
ขอบคุณมากครับ สำหรับข้อมูลที่มีประโยชน์เช่นนี้
อยากได้ vienna convention ที่เป็นพาสพไทยค่ะ