26.สุวรรณภูมิ...ฮ่องกง ยิ่งใหญ่และหลากสีสัน


ความโล่งจากการหลุดพ้นจากกรอบหัวโขนที่ต้องเต้นตามจังหวะของหน้าที่ความรับผิดชอบ

         ก่อนเวลาบ่ายสองโมงเล็กน้อย พวกเรามาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ น้องสาวกับน้องเขยผมเขาพอมีสตางค์ไปขึ้นตัวชั้นธุรกิจ (Business Class) สายการบินคาเธ่แปซิฟิคตามที่จองไว้แล้ว ส่วนผมภรรยาและลูกสาวไม่ค่อยมีสตางค์ซื้อตั๋วชั้นประหยัด (Economy Class) แต่วางท่าไปขึ้นตั๋วช่อง Business Class ช่องถัดกัน (ความจริงแล้วคนไม่เยอะ เขาเลยสงเคราะห์เนื่องจากไปด้วยกัน)

         เรามาปรากฏตัวในดินแดนของคิง พาวเวอร์ เวลาประมาณ ๑๔.๒๐ น. หลังจากผ่านกระบวนการขึ้นตั๋ว ส่งกระเป๋าขึ้นเครื่องและตรวจพาสปอร์ตแล้ว วันนั้นคนเดินทางไม่ค่อยมาก ทางเดินค่อนข้างโล่ง เรามีกำหนดขึ้นเครื่องก่อนบ่ายสี่โมงยี่สิบนาที น้องสาวและน้องเขยจึงพาเราไปเลาจน์ของอีวาแอร์ เขาว่าหากไปที่เลาจน์ของคาเธ่แปซิฟิคจะเข้าได้เพียงสองคนตามที่ซื้อตั๋ว แต่เขามีบัตรทองของอีวาแอร์ เลยสามารถเข้าในเลาจน์ได้ทั้งห้าคน

          ภายในอีวาแอร์เลาจน์ มีฝรั่งนั่งเล่นคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ้คอยู่สามคน (คนละเครื่อง) นั่งกินอาหารห้าหกคน เราได้ที่นั่งริมสุดพอวางสัมภาระติดตัวแล้ว น้องสาวผมก็พูดขึ้นว่า

         "ใครอยากกินอะไร บริการตัวเองเลยนะ" เธอพูดช้าไปนิด เพราะตอนนั้นลูกสาวผมไปถึงเครื่องดื่มกระป๋องแล้ว ผมเดินตามไปที่ริมผนังด้านในมีของกินและเครื่องดื่มเยอะพอควร ที่สะดุดตาเห็นจะเป็นของเมา มีทั้งวิสกี้สุดยอดบรั่นดีชั้นดี ไวน์ก็น่าจะดีเยี่ยม (ผมไม่คุ้นกับไวน์เลยไม่กล้าวิจารณ์) ที่ว่ามาไม่มีของไทยเลย ผมเดินผ่านเครื่องเมาทั้งหลายโดยไม่แยแส (ดื่มมามากแล้วตอนนี้ขอพักฟื้นก่อน) ผมรินน้ำส้มคั้นใส่แก้วและคีบผลไม้หลายอย่างใส่จาน แค่นั้นก็พอแล้ว ส่วนคนอื่นๆ ได้อะไรหลายอย่าง บะหมี่ สปาเก็ตตี้ ถั่วถุง ขนมหวาน กินกันจนอิ่มหนำสำราญก็เดินออกมา

          ตอนนั้นเวลาประมาณบ่ายสามโมงครึ่ง เรามีเวลาอีกเกือบชั่วโมง จึงเดินเล่นไปเจอนักศึกษาห้าคนกำลังวาดรูปเหมือนนักเดินทางด้วยดินสอ พอดีมีคนหนึ่งเพิ่งจะวาดเสร็จ ภรรยาผมจึงนั่งให้เขาวาด หลังจากนั้นอีกคนก็ว่างน้องสาวผมรีบนั่งให้เขาวาดและถัดไปก็น้องเขย ผมยืนดูด้วยความชื่นชมในฝีมือของเขาเหล่านั้น  เสียดายตอนนี้จำไม่ได้ว่าเป็นนักศึกษาสถาบันไหน

          วาดเสร็จพอดีก็ได้ยินเสียงประกาศให้ผู้ที่จะเดินทางไปฮ่องกงไปขึ้นเครื่องได้ พวกเรารีบเดินไปประตู E2 เพื่อขึ้นเครื่องบินสู่ฮ่องกง

          คาเธ่แปซิฟิคลำใหญ่โอ่อ่าพาเราออกจากสนามบินสุวรรณภูมิเวลาบ่ายสี่โมงครึ่งถึงสนามบินฮ่องกงเวลาท้องถิ่น ๑๙.๓๐ น. แต่เวลาเดินทางเพียง ๒ ชั่วโมง เนื่องจากเวลาฮ่องกงช้ากว่าไทยหนึ่งชั่วโมง เครื่องจะไปลอสแอนเจลิสออกเวลา ๒๓.๑๕ น. เราจึงต้องหาวิธีใช้เวลาที่มีให้อยู่ให้เกิดประโยชน์ตามความพอใจของแต่ละคน

         ผมได้ดอลล่าร์ฮ่องกงจากน้องสาวที่เขาแลกมาให้อัตรา ๔ บาทต่อ ๑ ดอลล่าร์ฮ่องกง ขั้นแรกไปซื้อน้ำ ๒ ขวด ให้ภรรยาขวดหนึ่ง แล้วผมก็เดินสำรวจคนเดียวพร้อมกับน้ำขวดที่เหลือ

         รู้สึกถึงความยิ่งใหญ่อลังการของสนามบิน แต่นั่นยังน้อยไปกว่าความโล่งจากการหลุดพ้นจากกรอบหัวโขนที่ต้องเต้นตามจังหวะของหน้าที่ความรับผิดชอบ

คำสำคัญ (Tags): #ฮ่องกง
หมายเลขบันทึก: 257430เขียนเมื่อ 26 เมษายน 2009 01:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:39 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

 ครูต้อยคงไม่มีวาสนาบินกับใคร ก็ขอติดตามเทียวไปลไมมีกันทางบล็อกนี่แหละค่ะ ขอบคุณค่ะ

ขอให้เป็นทริปที่สนุกสดชื่นนะคะ และเดินทางโดยปลอดภัยค่ะ

สวัสดีค่ะ อาจารย์ เปลวเทียน

มาดูอาจารย์ เต๊ะท่า (วางท่าไปขึ้นตั๋วช่อง Business Class ช่องถัดกัน) ไม่เห็น.. ยังไม่เห็น.. อิ อิ ฮิฮิ แล้วอาจารย์ก็ดื่มน้ำนางเอกยอดนิยมด้วย (แซว.. หน่อย เพราะไม่ค่อยได้เห็นผู้ชายดื่มน้ำส้ม อิ อิ ฮิฮิ) ดีนะคะ ได้ภาพวาดกับภรรยา เป็นภาพแห่งความทรงจำดีๆ ด้วย โชคดีจังเลยค่ะ.. วันนี้ ดึกแล้วนะคะ อาจารย์คะ นอนได้แล้วค่ะ ออมแรงไว้เที่ยว..

ขอให้อาจารย์ และ ครอบครัว เที่ยวให้สนุก สุขกาย สบายใจ ผ่องแผ้ว ผ่องใส นะคะ ขอบคุณที่เขียนบันทึกให้อ่าน (เร็วกว่าที่คาดคิด อิ อิ ฮิฮิ)

สวัสดีครับ ครูต้อย

ยินดีครับที่มีครูต้อยร่วมเดินทางในบล็อก ผมเองก็ไม่คาดคิดว่าจะได้เที่ยว ชีวิตไม่แน่นอนครับ ตราบใคที่ยังมีลมหายใจโอกาสดีๆ ยังมีให้เราเสมอครับ

ขอให้ครูต้อยได้รับโอกาสดีๆ บ่อยๆ และมีความสุขมากๆ

ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ

สวัสดีพระจันทร์ยิ้ม

จริงสิ......ไม่มีใครนึกถึงเรื่องถ่ายรูปตอนขึ้นตั๋วเลยไม่เห็นตอนเต๊ะท่า เอาเป็นว่าขากลับจะไปวางท่าที่สนามบินลอสแอนเจลิส (ฝรั่งจะยอมรึเปล่า.....ฮิฮิ ยิ่งพูดภาษาปะกิตเก่งอยู่ด้วย ฮ่าฮ่า...)

น้ำส้มเป็นของโปรดนานแล้วครับ เวลาขับรถไกลๆ ก่อนนอน ตื่นนอนถ้าได้สักแก้วแล้วจะสดชื่นมาก (ต้องน้ำส้มคั้นนะครั...ฮิฮิ) ส่วนน้ำเมาเคยเล่นหนักตอนอายุสามสิบถึงสี่สิบห้าปีครับ ชนิดไม่เป็นวันใหม่กลับบ้านไม่ถูก ตอนนี้ดื่มไม่ค่อยได้ นิดหน่อยก็มีอาการแล้ว เลยต้องควบคุมตัวเอง

อ้อ...ผมใช้คอมพิวเตอร์ที่เอาไปด้วย ไม่ได้ตั้งเวลาใหม่ เวลาที่ปรากฏในบล็อกเป็นเวลาเมืองไทยครับ อย่างตอนนี้ เวลา ๐๗.๒๐ น. แต่เมืองไทยเป็นสามทุ่มยี่สิบนะครับ

ขอบคุณที่อวยพรและให้กำลังใจครับ ขอให้พระจันทร์ยิ้มมีความสุขมากๆ เช่นกัน

ขอร่วมเดินทางในบล็อกด้วยนะคะ  อยากดูบรรยากาศค่ะ 

ดูครอบครัวอาจารย์เปลวเทียนมีความสุขจังเลยนะคะ

อยากเห็นภาพในชั้น Business Class ไม่เคยเห็นค่ะ  อาจารย์ถ่ายรูปให้ดูหน่อยนะคะ

อาจารย์เขียนได้ชัดเจนดีค่ะ  เหมือนได้ไปเที่ยวด้วยเลยค่ะ

เที่ยวให้สนุกนะคะอาจารย์  (ทำงานก็เต็มที่เมื่อเที่ยวก็สนุกให้เต็มที่ค่ะ)

ช่วงนี้ขึ้นเวรเยอะค่ะ  แต่แวะมาอ่านทุกครั้งที่ตื่นนอนค่ะ

สวัสดีครับ คุณดุจดาว

ผมเพิ่งกลับจากลาสเวกัส รีบมาเปิดบล็อกเลย ดีใจที่มีคุณดจดาวร่วมไปในบล็อกครับ

ขากลับจะถ่ายรูปชั้น Business ลงให้ดูครับ ตอนนี้เล่าให้ฟังนิดหน่อยว่า มีลักษณะเหมือนรังต่อรังแตนนะครับ เป็นที่นอนเหยียดยาว ผมว่ามันก็เหมาะดีสำหรับคนชอบนอน

การเขียนตั้งใจจะเก็บส่วนที่เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย แต่คงต้องใช้เวลาหน่อยนะครับ เพราะมีแต่เที่ยวเวลาเขียนไม่ค่อยมี ฮิฮิ

ขอให้มีความสุขกับการขึ้นเวรนะครับ และอย่าลืมเขียนในบล็อกคุณดุจดาวด้วยนะครับ

ผมจะติดตามอ่าน

และแล้วผมก็ตามมาส่งขึ้นเครื่องย้อนหลังจนได้

บ๊ายบายครับ อิอิ

ขอบคุณครับ

ตอนนี้กลับมาแล้ว ยินดีที่พบกันอีก ฮิฮิ

 

 

อ่านเรื่องถอยหลัง เพิ่งจะเริ่มออกจากสนามบิน  น่าอิจฉานะ ตอนเขียนภาพคู่นะ

ตอบเมนท์มาตลอด รู้ได้อย่างไรว่า มีคนมาเยี่ยมบ้าน  ตอนนี้คนเข้ามาเยี่ยม ก็หลงหน้าหลงหลัง ไม่เรียงคิว อ่าน ตามลำดับเลย

เอาผีมาจากไหนละครับ... น่ากลัวจัง

ผมเพียงไปยืนข้างหลังเขาครับ นักศึกษาไม่ได้วาดผมหรอก เป็นภาพเดี่ยวเฉพาะเขาเอง

คุณสุ อ่านถอยหลังสนุกไหมครับ

หนังผีเรื่อง "จอมเมฆิน" มีคนหนึ่งอ่านคัมภีร์ถอยหลัง ทำให้ปลุกจอมผีดิบคืนชีพ อาละวาดหนักเลย

จนต้องปราบด้วยการอ่านตั้งแต่ต้น

แต่.. บล็อกนี้ ไม่มีผีดิบแน่นอนครับ ฮ่า ฮ่า

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท