...
สถาบันสุขภาพและความเป็นเลิศทางคลินิกแห่งชาติอังกฤษ ( NICE UK) รายงานว่า ความเชื่อที่ว่า การดื่มน้ำหวาน เพื่อบรรเทาอาการท้องเสียจากไวรัสลงลำไส้ หรือทำให้ลำไส้อักเสบ (viral gastroenteritis) ที่พบบ่อยในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีไม่ได้ช่วยให้โรคหายเร็วขึ้น
เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบในอังกฤษและเวลส์ป่วยด้วยโรคนี้ครึ่งหนึ่งทุกปี
...
การดื่มสารละลายน้ำเกลือแร่ (oral rehydration solution / ORS) ซึ่งมีส่วนผสมของน้ำตาลและเกลือขนาดพอเหมาะ... น้ำตาลทำให้การดูดซึมเกลือเข้าสู่ร่างกายเร็วขึ้น
คนเราจะสูญเสียด่างไปในช่วงที่ท้องเสีย... ทำให้ร่างกายมีความเป็นกรดเพิ่มขึ้น ผงเกลือแร่ (ORS) มีสารละลายที่มีฤทธิ์เป็นด่าง (base) และมีเกลือโพแทสเซียมที่ช่วยให้หายอ่อนเพลียได้เร็วขึ้น
...
เรื่องที่คุณแม่คุณพ่อ หรือผู้ปกครองควรรู้เกี่ยวกับโรคลำไส้อักเสบจากเชื้อไวรัสได้แก่
-
(1). การดื่มสารละลายเกลือแร่ (ORS) ส่งผลดีกับคนไข้ท้องเสียส่วนใหญ่... ถ้าไม่มี
-
(2). โรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัส ทำให้ไม่มียาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าเชื้อที่ใช้แล้วได้ผล
-
(3). โรคนี้หายช้า ใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์... อาการจึงจะหายดี จึงควรใช้ยา "ทำใจ" ช่วยด้วยเสมอ
...
-
(4). โรคนี้พบมากในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ทว่า... ผู้ใหญ่ก็เป็นโรคนี้ได้เช่นกัน อาการสำคัญคือ มักจะมีไข้หวัดร่วมกับท้องเสีย บางคนมีอาการคลื่นไส้-อาเจียนร่วมด้วย
-
(5). หลังป่วยด้วยโรคนี้... ร่างกายจะขาดน้ำย่อย (enzyme) สำหรับย่อยน้ำตาลในนมต่อไปประมาณ 2 สัปดาห์... ช่วงนี้ควรเจือจางนมลงประมาณครึ่งหนึ่ง (ถ้าเป็นนมผง) ดื่มสลับน้ำละลายผง ORS (ผงเกลือแร่) และอาจใช้น้ำข้าวสลับได้
-
(6). ถ้าอาการท้องเสียมาก... การใช้นมถั่วเหลืองแทนนมผงชั่วคราวมีส่วนช่วยให้อาการทุเลาลงได้
-
(7). ควรสังเกตดูว่า เด็กปัสสาวะได้ทุกๆ 2 ชั่วโมงหรือไม่ ถ้าเด็กปัสสาวะน้อยลง หรือมีอาการขาดน้ำ เช่น ผิวแห้งเหี่ยว ดึงแล้วคืนรูปช้าลง ตาลึก ฯลฯ ควรปรึกษาหมอใกล้บ้าน
-
(8). สิ่งสำคัญที่สุดเวลาท้องเสียไม่ว่าจะเป็นสาเหตุใด คือ การให้น้ำและเกลือแร่ชดเชยให้มากพอ ซึ่งสารละลายเกลือแร่ (ORS) ช่วยแก้ไขได้ดีที่สุด เนื่องจากมีส่วนผสมของเกลือหลายชนิด และน้ำตาล ซึ่งจะช่วยให้การดูดซึมเกลือแร่เข้าสู่ร่างกายเร็วขึ้นมาก
...
ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
...
ที่มา
-
-
นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ โรงพยาบาลห้างฉัตร ลำปาง สงวนลิขสิทธิ์. ยินดีให้นำไปเผยแพร่โดยอ้างอิงที่มาได้. ห้ามนำไปใช้เพื่อการค้า > > 24 เมษายน 2552.
-
ข้อมูลทั้งหมดเป็นไปเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ ไม่ใช่วินิจฉัยหรือรักษาโรค ท่านที่มีโรคประจำตัวหรือความเสี่ยงต่อโรคสูงจำเป็นต้องปรึกษาหมอที่ดูแลท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้.