เน้นหลักพัฒนาโดยใช้ หลักแห่งความเสมอภาค ได้แก่
หลักความเท่าเทียม (Equality)
การให้ความสำคัญกับความรู้ที่อยู่ในตัวตน (tacit knowledge) และ การให้คุณค่าของคนที่มีความเท่าเทียมกัน เปิดพื้นที่ให้ปราชญ์ชาวบ้าน เข้ามามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการพัฒนาชุมชน สร้างสุขภาพด้วยการเสริมพลังรากหญ้า ให้เป็นพลังแผ่นดิน
หลักการถักทอสายสัมพันธ์ (Inclusive)
มีกระบวนการถักร้อยให้พหุภาคีเข้ามาร่วมกันเสริมสร้างสังคมที่คาดหวัง เกิดโครงสร้างของแนวราบเข้าเชื่อมโยงกับแนวดิ่งในระบบราชการ ระบบการศึกษา ระบบพระสงฆ์ ทำให้กลายเป็นโครงสร้างที่อ่อนโยน แต่เข้มแข็ง คล้ายแหอวนที่สามารถยกของหนักๆ ได้มากมาย โครงสร้างพหุภาคีที่มีสมาชิกแต่ละคนสามารถพึ่งตนเอง และพึ่งพากันเองได้จะเป็นประชาสังคมที่เข้มแข็งที่สามารถเรียนรู้สู่สังคมอุดมปัญญา
หลักการทำงานร่วมกันแบบหุ้นส่วน (Multuality)
การขับเคลื่อนกิจกรรมตามนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพแบบมีส่วนร่วมอาศัยการเข้ามาร่วมมือกัน แบบหุ้นส่วน เกื้อหนุนการผลักดันกิจกรรมให้ประสบความสำเร็จ (ชุมชน,อบต.,โรงพยาบาล,สถานศึกษา) ให้สามารถจัดการและเรียนรู้ร่วมกันในเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์
หลักความเป็นผู้นำ (Stewardship)
ปัจจัยแห่งความสำเร็จ ปัจจัยหนึ่งของการพัฒนานโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพแบบมีส่วนร่วม คือ “การมีภาวะผู้นำ” (Political leadership, Leadership of Department of health and other government department)ของนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเขื่อนอุบลรัตน์ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลอุบลรัตน์ ที่มีส่วนสำคัญในการเป็น “คุณเอื้อ” ในกระบวนการการพัฒนานโยบายสาธารณะในพื้นที่รวมถึงการมีวิสัยทัศน์ในการพัฒนาสุขภาพแบบยั่งยืน รวมไปถึงผู้นำอย่างไม่เป็นทางการในพื้นที่ ได้แก่ ปราชญ์พื้นบ้านชาวอีสานที่เป็นที่ปรึกษาและชุมชนให้ความเคารพศรัทธา
จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร
๒๔ เมย.๕๒
สวัสดีค่ะ
ตามมาเป็นกำลังใจให้พี่ชายค่ะ ....
(เพลงเพราะจังเลยค่ะพี่เอก)...^_^
หลักความเท่าเทียม (Equality)
การให้ความสำคัญกับความรู้ที่อยู่ในตัวตน (tacit knowledge) และ การให้คุณค่าของคนที่มีความเท่าเทียมกัน เปิดพื้นที่ให้ปราชญ์ชาวบ้าน เข้ามามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการพัฒนาชุมชน สร้างสุขภาพด้วยการเสริมพลังรากหญ้า ให้เป็นพลังแผ่นดิน
หลักการทำงานร่วมกันแบบหุ้นส่วน (Multuality)
การขับเคลื่อนกิจกรรมตามนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพแบบมีส่วนร่วมอาศัยการเข้ามาร่วมมือกัน แบบหุ้นส่วน เกื้อหนุนการผลักดันกิจกรรมให้ประสบความสำเร็จ (ชุมชน,อบต.,โรงพยาบาล,สถานศึกษา) ให้สามารถจัดการและเรียนรู้ร่วมกันในเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ ฯลฯ
ไม่รู้กี่ครั้งครามาแล้วที่คนกลุ่มหนึ่งที่คิดว่าตนเองฉลาดกว่าจะถูกครอบงำด้วยชุดของคำพูดจากผู้อภิสิทธิชนเป็นเครื่องมือการถ่ายทอดการใช้อำนาจ
โครงงานที่สวยหรูถูกกำหนดวางไว้ล่วงหน้าอย่างดีดดิ้นไม่ได้เพื่อรอการเติมต่อจากแผนการที่กำหนดไว้ก่อนหน้า โดยมานำองค์กรต่างๆในชุมชนมาเป็นเครื่องมือค้ำผลประโยชน์ของตน
วาทะกรรมเรื่องหลักความเท่าเทียม (Equality) หลักการทำงานร่วมกันแบบหุ้นส่วน (Multuality ) ฯลฯ หรืออื่นๆ ถูกนำมาอ้างครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์ที่แอบแฝงซ่อนเร้นให้กับอภิสิทธิชนจากกลุ่มคนที่คิดว่าตนเองฉลาดกว่า
ด้วยเหตุนี้ ทุกครั้งชุมชน,อบต.,โรงพยาบาล,สถานศึกษา หรือองค์กรต่างๆถูกแต่งตั้งหรือได้รับการเลือกตั้งให้ไปทำงานเป็นตัวแทนจึงไม่ได้ไปทำงานอะไรที่เป็นรูปธรรมหลักแก่ประชาชนนอกจากการได้หน้าหรือมีตำแหน่งมีอวดกันเล่นเป็นเกียรติประวัติ เพราสาระสำคัญเขาซ่อนเร้นกำหนดมาเรียบร้อยแล้ว องค์กรตัวแทนจึงเป็นเพียงเบี้ยหรือตัวละครที่เขาอาศัยชื่อใช้เพื่อความชอบธรรมเท่านั้น
ความคิดที่แตกต่างก่อให้เกิดความคิดใหม่ๆที่ไม่อยู่ในกรอบอีกต่อไป
การกล้าแสดงความเห็นเป็นวิวัฒนาการของผู้ที่ต้องการการปลดแอกของผู้เบียดบังผลประโยชน์จากประชาชน
หลักการเป็นตัวหนังสือจะเขียนสวยหรูอย่างไรก็ย่อมได้
สภาพความเป็นจริงต้องสืนค้นว่าตกเป็นเครื่องมือกลุ่มผลประโยชน์หรือไม่
การนำความไปขยายอาจเป็นการยกยอส่งเสริมคนที่เอาเปรียบสังคมไปโดยไม่รู้ตัว