สอนแบบไม่สอน


จะเห็นได้ว่าผมไม่ได้สอนเลย เพียงแต่ชี้แนวทางให้ อำนวยความสะดวกให้ เท่านั้น แต่ผู้เรียนสามารถเกิดการเรียนรู้ได้

คำคมของผู้รู้หลายท่านได้กล่าวไว้ว่า “สุดยอดกระบวนท่า คือไร้กระบวนท่า”  “การทำสงครามที่ดีที่สุด คือชนะได้โดยไม่ต้องรบ” ผมก็เลยอยากลองนำปรัชญาเหล่านี้มาใช้กับการเรียนการสอนบ้าง โดยผมคิดว่า “สุดยอดการสอน คือไม่ต้องสอน” แต่อย่าเพิ่งตกใจว่าผมอู้นะครับ สิ่งที่ผมได้ทำผมคิดว่าน่าจะทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดีขึ้น ไม่ต้องท่องจำตามกรอบครู โดยผมแบ่งกิจกรรมการอบรมออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้ คือ ส่วนแรกการรับรู้ ส่วนที่สองการทดลอง ส่วนที่สามสรุปรวบยอด ดังตัวอย่างการอบรมรอบรมพนักงานขับรถไฟฟ้า ในวิชาระบบรถไฟฟ้า (Rolling Stock System) ที่ผมได้ใช้วิธีการสอนดังกล่าวดังนี้

 

ส่วนแรก : การรับรู้ : ช่วงแรกเป็นการให้เนื้อหา โดยผมจะแจก Course Outline ให้ผู้เข้าเอบรมก่อน เพื่อให้ผู้เข้าอบรมมองเห็นปลายทางของการอบรมว่าอบรมเสร็จแล้วเขาต้องได้อะไรบ้าง โดย Course Outline ก็จะประกอบไปด้วย วัตถุประสงค์ (เชิงพฤติกรรม) เนื้อหา การวัดประเมินผล ระยะเวลาการอบรม โดยผมจะอธิบาย Course Outline ให้ผู้เข้าอบรมได้เข้าใจตรงกัน จากนั้น ก็เริ่มให้เนื้อหาโดยการตั้งคำถามตามวัตถุประสงค์เนื้อหาที่ได้ระบุไว้ แล้วให้ผู้เข้าอบรมหารือกัน (discussion) มุกที่ผมใช้บ่อยก็คือ ผมจะถามคำถามโยนไปทั้งห้อง แล้วรอคำตอบ ถ้ายังไม่มีใครตอบ ผมก็จะเริ่มระบุชื่อ ถ้าคนที่ระบุชื่อยังตอบไม่ได้หรือไม่ต้องการตอบ ผมก็จะถามต่อว่า อยากให้ใครตอบ จากนั้นเมื่อมีคนตอบแล้ว ผมก็จะถามความเห็นคนอื่นๆว่าเห็นด้วยหรือไม่ เพราะเหตุใด ตรงตามทฤษฎีหรือไม่ ผมอาจจะให้แนวคำตอบไปบ้าง แต่ไม่ให้ตรงๆ และมีหยอดท้ายไว้ว่า เชื่อผมหรือไม่ และผมจะใช้มุกกาลามสูตรข้อสุดท้ายให้ผู้เรียนได้คิดคือ "อย่าเชื่อสิ่งที่ครูสอน" อ้าว! ถ้าไม่เชื่อสิ่งที่ครูสอนแล้วจะเชื่อใคร ผมก็บอกต่อว่า ขอให้ผู้เรียนเชื่อในสิ่งที่พิสูจน์ได้ และรู้แจ้งเห็นจริง นำไปสร้างองค์ความรู้ด้วยตัวเอง ดังนั้น ช่วงนี้ก็จะมีแต่คำถาม และสิ่งที่รอการพิสูจน์ ซึ่งผมจะให้ตัวแทนของห้องจดสิ่งที่ต้องทดลองพิสูจน์ในห้องเรียน และตรวจสอบกับวัตถุประสงค์ใน Course Outline ว่าบรรลุตามวัตถุประสงค์แล้วหรือยัง ถ้ายังต้องไปพิสูจน์ต่อ การอบรมในส่วนแรกนี้ผมจะใช้เวลาประมาณครึ่งวัน ในช่วงเช้า จากนั้นช่วงบ่ายจึงไปที่หน้างานจริงเพื่อทำการทดลองพิสูจน์ทฤษฎี

 

ส่วนที่สอง : การทดสอง : หลังจากที่ช่วงเช้ามีสมมุติฐานและข้อถกเถียงกัน แล้ว โดยผู้เรียนจะ List รายการทดลองไว้เป็นเรื่องๆ จากนั้น ช่วงบ่าย ก็จะเป็นการทดลองที่หน้างานจริงกับอุปกรณ์จริง เพื่อพิสูจน์สมมุติฐานนั้นๆ ตามรายการที่ได้ระบุไว้ โดยใช้เวลาประมาณ 3-4  ชั่วโมง  หน้าที่ของครูฝึกคืออำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยของการใช้อุปกรณ์ และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อจบการทดลองแล้ว ก็จะกลับไปที่ห้องเรียนต่อเพื่อสรุปอีกครั้ง

 

ส่วนที่สาม : การสรุปรวบยอด : ส่วนสุดท้ายนี้เป็นส่วนที่ค่อนข้างสำคัญเพราะเป็นส่วนที่ผู้เรียนต้องสรุปเนื้อหาสร้างเป็นองค์ความรู้ของตนเอง โดยหลังจากที่ทดลองตามสมมุติฐานที่ได้วางไว้จบแล้ว ผู้เรียนก็จะกลับมาที่ห้องเรียนเพื่อสรุปร่วมกันอีกครั้ง โดยเปรียบเทียบกับวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมที่ได้วางไว้ ว่าบรรลุหรือไม่ ถ้าคิดว่าบรรลุแล้ว ผมก็ให้งาน (การบ้าน) ต่อไปอีกโดยให้ทุกคนออกข้อสอบในเรื่องที่ได้เรียนรู้มาตามวัตถุประสงค์นั้นๆ

 

จะเห็นได้ว่าผมไม่ได้สอนเลย เพียงแต่ชี้แนวทางให้ อำนวยความสะดวกให้ เท่านั้น แต่ผู้เรียนสามารถเกิดการเรียนรู้ได้ และข้อสอบผมก็ไม่ต้องออกเอง ผู้เรียนออกให้ แต่ข้อสอบที่ผู้เรียนออกมาให้ผมจะยังไม่นำไปใช้ทันที ผมจะต้องมาจัดลำดับความยากง่ายก่อน (ตามทฤษฎี Bloom's Taxonomy "จำ ใจ ใช้ วิ สัง ประ" : บันทึกต่อๆ ไปจะเล่าให้ฟังต่อครับ) ผมจึงเรียกการสอนวีธีนี้ว่า สอนโดยไม่สอน

หมายเลขบันทึก: 256983เขียนเมื่อ 23 เมษายน 2009 23:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 พฤษภาคม 2020 09:01 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

สมเป็นลูกศิษย์อ.วรภัทร์ค่ะ

ดร.วรภัทร์ แน่นอนเลย สอนแบบไม่สอน

ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณ คุณberger0123 และคุณ ครูอ้อย แซ่เฮ ที่มาเยี่ยมเยือนให้กำลังใจครับ อ.วรภัทร์ ผมยกให้ท่านเป็น Idol ของผมเลยครับ แต่ผมยังไม่มีโอกาสพบหน้า หรือคุยกันเลยครับ ก็เลยไม่รู้ว่าท่านจะยอมรับผมเป็นศิษย์มั้ยครับ

สวัสดีค่ะ ไทเลย-บ้านแฮ่

อาจารย์ ท่าน เป็นคนน่ารัก อัธยาศัยดีค่ะ ครูอ้อยเคยพบท่าน 1 ครั้ง  ยังทักทาย ครู ป.4 อย่างครูอ้อยเลยค่ะ

สวัสดีค่ะ ไทเลย-บ้านแฮ่

อาจารย์ ท่าน เป็นคนน่ารัก อัธยาศัยดีค่ะ ครูอ้อยเคยพบท่าน 1 ครั้ง  ยังทักทาย ครู ป.4 อย่างครูอ้อยเลยค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท