มัทนา
มัทนา (พฤกษาพงษ์) เกษตระทัต

ประสบการณ์การให้นมแม่ช่วงสัปดาห์แรก


ตอนนี้เจตมัยอายุครบ 1 อาทิตย์แล้วค่ะ

ขอมาบันทึกว่าการให้นมแม่ใน 7 วันที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง

  • ให้นมครั้งแรกตอนพักหลังคลอดแป๊บเดียว คือเค้าเข็นแม่ออกจากห้องผ่าตัดมาห้องพักดูอาการ แล้วพยาบาลก็อุ้มลูกตามมาให้ ตอนนี้น้ำนมยังไม่มี แต่เค้าก็ให้ลูกดูดอยู่ดีเพราะเป็นการกระตุ้น (ตอนนั้นประมาณ 4 โมงเย็นวันพุธ)
  • พอกลับไปห้องพักที่ ward หลังคลอด เย็นวันนั้นพยาบาลที่ nunrsery ก็พาเจมาให้ดูดนมแม่อีก แม่เจ็บแผลด้วย มึนๆด้วยเค้าเลยสอนให้นมท่านอนตะแคง คืนนั้นพยาบาลพาเจมาหาแม่อีก 3-4 ครั้ง
  • คุณหมอเด็กสอนไว้ว่าช่วงแรกนี้ให้ให้นมบ่อยๆแต่ไม่ต้องนาน ให้ให้ทั้งสองข้างข้างละ 5 นาที ถ้าให้นานมันแห้งไปจะเจ็บหัวนม ถ้าหัวนมแตกแล้วจะลำบาก
  • ตี 2 วันพฤหัส แม่ถามพยาบาลที่พาเจมาว่าแล้วนี่มันมีอะไรออกมาให้เจทานมั้ย เค้าบอกว่าไม่มีก็ไม่เป็นไร เจอยู่ได้ 2-3 วัน แต่เค้าก็ขอลองบีบน้ำนมดู ปรากฎว่ามี colostrum ออกมาเป็นหยดๆ แม่ดีใจมาก ถึงมันจะไม่มากแต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย รวมแล้วแม่ให้นมลูกวันละ 11 ครั้ง
  • วันพฤหัสหรือวันที่สองตอนเย็นนั้นแม่เริ่มหัดลุก หัดเดินแล้ว (คุณยายไม่มีทางให้แม่สำออย hahaha สั่ง off น้ำเกลือเลยบ่ายวันนั้น ยายเอาแผ่น tegaderm มาปิดแผลกันน้ำเองเลย บอกว่าให้อาบเองได้จะได้สบายๆ แม่ก็หวั่นๆแต่ปรากฎว่าแม่ก็อาบน้ำเองได้จริงๆ ไอ้ที่ทรมานที่สุดคือปัสสาวะครั้งแรกหลังเอาท่อสวนออกนี่สิ แม่นั่งซะนานเลย) เย็นวันนั้นแม่เลยลองลุกไปนั่งที่เก้าอี้คนเยี่ยมแล้วให้นมท่าลูกรักบี้ (หรือที่อเมริกันเรียกว่าท่าลูกฟุตบอล) เพราะท่านี้นั่งให้แล้วตัวลูกจะไม่โดนแผลผ่าตัดของแม่
  • อ่อ แม่ซื้อหมอนรองให้นมมาจากแวนคูเวอร์ ก็เลยใช้หมอนรองสบายดีมาก แต่วันนี้ดูฉี่ลูกเหลืองเข้ม แม่กับยายหนุ่ยที่เป็นพยาบาลเด็กก็เริ่มเป็นห่วง แต่แม่เชื่อว่าเดี๋ยวนมต้องมา
  • พยาบาลยังพาลูกมาหาแม่ทุก 2-3 ชม. วันศุกร์หรือวันที่สามนมก็มาเยอะขึ้นจริงๆ จากหยดเล็กๆเป็นหยดใหญ่หน่อยจนถึงซึมๆ วันนี้ตอนเช้าแม่กับพ่อไปเรียนวิธีอาบน้ำที่ nursery แล้วก็ให้นมที่นั่นเลย นั่งเก้าอี้โยกแล้วก็ใช้หมอนรองของเค้า วันนี้ลองให้ท่า cradle ช่วงนี้แม่มีพยาบาลคอยช่วยตลอดคือเค้าจะช่วยจับให้เจ latch on ให้ถูก คือให้อมถึงลานหัวนม แม่จะได้ไม่เจ็บหรือหัวนมแตก วันนี้พยาบาลบอกว่าได้ยินเสียงเจกลืน มี letdown reflex แม่หล่ะดีใจ๊ดีใจ สีฉี่ของเจก็จางลงกว่าเมื่อวานด้วย
  • คืนวันศุกร์เจมานอนกับแม่และพ่อทั้งคืนเพราะวันเสาร์แม่จะออกจากรพ.แล้ว พยาบาลบอกว่าให้มาลองว่าอยู่ด้วยทั้งคืนแล้วตื่นตอนไหน ร้องตอนไหน เป็นการซ้อมก่อนกลับบ้าน
  • เหอะๆ เจทำเอาพ่อกับแม่มือใหม่หวั่นๆ แต่ปรากฎว่าเจเป็นเด็กดีมาก หิวถึงร้อง อิ่มก็หลับนาน 3 ชม. แต่ว่าแม่ลำบากตรงที่เจ็บแผลนี่แหละ แล้วเวลาเจดูดนมแม่ มดลูกแม่ก็บีบตัวจาก oxytocin ที่หลั่ง ทำให้แม่ปวดท้องเหมือนปวดประจำเดือนด้วย ดีที่พ่อเป็นคนคอยลุกมาอุ้มส่งเจให้แม่ แล้วก็พาเจเข้านอนหลังอิ่มแล้ว
  • ตั้งแต่กลับบ้านมาเจก็เหมือนจะเป็นเด็กดี ร้องมีเหตุผล คือไม่หิว ก็แฉะ หรือไม่ก็อึดอัดมีลม (ก่อนตดหรือเรอ) พอกินอิ่มก็หลับได้ 2 - 3 ชม.ครึ่ง
  • กลับบ้านมาแม่ได้ทานแต่อาหารบำรุง ทั้งแกงเลียงหัวปลี น้ำขิง ไก่ต้มขิงกับข้าวแดงคนจีน ปลาข้าวสาร ฯลฯ วันนี้ก็จะมีแกงเลียงอีก
  • น้ำนมก็เริ่มมาวันที่ 5 ได้ แม่เริ่มคัดหน้าอก เต้าแข็งต้องประคบอุ่น (ถ้าหัวนมแข็งไป ลูกก็จะดูดลำบาก) แต่น้ำนมก็ยังไม่พุ่งนะ แม่ก็ดูว่าเจฉี่อึมากแค่ไหน ดูแล้วน่าจะโอเค
  • อ่อ วันที่กลับบ้านมาวันแรก พยาบาลที่ nursery โทรมา follow-up ด้วยว่าเป็นยังไง แม่ถามเค้าว่าอึบ่อยมากเช้านี้ก็ 4 ครั้งแล้ว (ปกติจะต้องวันละ 5 ครั้ง) พยาบาลบอกว่าไม่เป็นไรค่ะ แต่ให้ทานน้ำนมให้หมดเต้า เพราะว่านมส่วนแรกเป็นน้ำมาก นมส่วนหลังมีไขมัน มีส่วนประกอบไม่เหมือนกัน ถ้าทานแต่นมส่วนแรกจะถ่ายบ่อย อย่าเพิ่งเปลี่ยนเต้าจนกว่าเต้าเดิมจะหมด คือให้แน่ใจว่าเจได้น้ำนมส่วนหลังด้วย
  • ตั้งแต่นั้นมาก็ดีขึ้นเรื่อยๆ วันที่ 7 ครบ 1 สัปดาห์นั้น นมแม่มีเยอะขึ้นมาก ลูกทานจนปากเปียกเลย แต่แม่ก็ยังไม่มีน้ำนมซึมเลอะเสื้อ ไม่ต้องใส่แผ่นซับน้ำนมจนเพิ่งจะต้องใส่ครั้งแรกเมื่อคืนนี้เอง (เข้าวันที่ 8)
  • สรุปว่าช่วงแรกนี้เป็น feeding by demand คือ ลูกหิวแม่ก็ป้อนทุก 2-3 ชม แต่ไม่ใช่ว่าร้องแล้วต้องกินนมทุกครั้งให้สังเกตดีๆว่าน้องจะอึหรือผ้าอ้อมแฉะรึเปล่า บางทีลูกทำปากจ๊วบจ๊าบก็ไม่ได้แปลว่าต้องกินตลอดถ้าเพิ่มทานไป ไม่งั้นก็อ๊อกได้ อุ้มๆเล่นกับเค้าเค้าก็หยุดแล้วก็หลับได้ในที่สุด
  • แม่มีสมุดจดตลอดเจตื่นหลับตอนไหน กินนมกี่โมงถึงกี่โมง อึฉี่ เปลี่ยนผ้าอ้อมตอนไหน จะได้รู้ pattern แล้วก็รู้ว่าทานนมไปครั้งสุดท้ายกี่ชม.แล้ว กินนานมั้ย (มันจำไม่ได้จริงๆค่ะไม่รู้ทำไม!)
  • การให้นมแม่ไม่ยากถ้าตั้งใจ และอย่าไปเครียดกับมัน ทำใจให้สบาย ดื่มน้ำเยอะๆ เยอะกว่าธรรมดา 3-4 แก้ว ถ้าลูก latch on ผิดคืออมแต่หัวนมให้รีบเอานิ้วแทรกแล้วให้ลูกงับใหม่ให้ถึงลานหัวนม อย่าปล่อยไปเป็นอันขาด ไม่งั้นจะเจ็บมากและหัวนมแตกได้
  • คุณแม่ที่คลอดเองน่าจะให้นมได้สบายๆกว่า เพราะผ่าคลอดจะเจ็บแผลและใช้เวลาพักฟื้นนานกว่ามาก ต้องมีคนให้กำลังใจและให้คุณพ่อคอยช่วยอุ้มลูกพามาหาเพราะจะลุกจากเตียงได้ช้า แต่ไม่กี่วันก็จะรู้สึกดีขึ้น ชินขึ้น เมื่อไหร่ลุกจากเตียงได้ง่ายขึ้นอะไรๆก็สบาย : )
  • ให้นมแม่ ไม่ต้องยุ่งยากเรื่องต้มขวดนม ชงนมเก็บตู้เย็น อุ่นนม ให้ที่ไหนก็ได้ สบายมาก 
  • ไว้อีกซัก 2-3 อาทิตย์แม่จะเริ่มปั้มนมเก็บแล้วให้คนอื่นช่วยแม่บ้าง : ) ตอนนี้ซื้อ syringe มาแล้วจะลองดูว่า work มั้ย น้าไก่บอกว่าลองให้ด้วยช้อนก็ได้ ถ้าไม่ไหวจริงๆถึงจะให้ดูดนมแม่จากขวด ต้องลองกันดูซักตั้ง!
คำสำคัญ (Tags): #นมแม่#เลี้ยงลูก
หมายเลขบันทึก: 256871เขียนเมื่อ 23 เมษายน 2009 08:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 01:55 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (19)

นมแม่ดีที่สุดจริงๆค่ะ  หลานกินนมแม่อย่างเดียว 9 เดือนเต็ม
จริงๆสำหรับแม่ที่ทำงานไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ต้องมีความมุ่งมั่น และคนรอบข้างให้กำลังใจค่ะ
ทำงานไปสักพัก ก็ต้องลุกไปบีบน้ำนมใส่ขวด  บางที ก็ไมค่อยสะดวกเหมือนกัน แต่ทำได้ก็จะดีมากเลยนะคะ

ตอนแรกก็กังวลอยู่ค่ะคุณศศิ เพราะว่าที่ทำงานไม่มีห้องที่จะให้ไปปั้มนมได้ แล้วห้องพักของมัทแชร์กับพี่ผู้ชายอีกคน คนข้างนอกมองเข้ามาก็เห็นเพราะเป็นกระจกใส

แต่แล้วก็เหมือนเจจะทำบุญมาดี อยู่ๆเมื่อวานรุ่นน้องที่เพิ่งเรียนจบกลับมาจากญี่ปุ่นโทรมาชวนว่าจะย้ายออฟฟิศไปอยู่ห้องเดียวกันมั้ย  เค้านั่งคนเดียวเพราะคนอื่นๆกำลังจะไปเรียนต่อ ห้องนั้นข้างนอกมองเข้าไปไม่เห็นด้วย มัทก็เลยตอบ ok ไปเลย : )

  • คนแรกก็งี้ละค่ะ ให้นม ก็ต้องหาสถานที่หน่อย
  • แต่เอาไว้คนที่สอง สาม เหอะ
  • เปิด จ๊วบ ก็ได้เลย ที่ไหนก็ได้ ไม่มีใครเขาว่าเราหรอก มีแต่เผ่นกันไม่ทัน อิอิ
  • ตกลง ผ่าคลอด หรือคะ

แนะนำผ้าโปง คือเห็นลอร่าเขาทำประจำ เตรียมผ้าค่อนข้างบางเหมือนผ้าอ้อมแต่ผืนใหญ่ แล้วใส่เสื้อที่หลวมเลิกขึ้นง่าย ยกทรงเป็นแบบปลดเฉพาะด้านหน้าเปิดออกได้ เท่านี้อยู่ไหนก็หม่ำได้โม้ด หิวเมื่อไหร่ก็คลุมผ้าที่ไหล่ด้านนึงเฉียงลงมาถึงเอวด้านหน้า ลูกเห็นผ้าก็ดีใจใหญ่ มุดเข้าโปงจ๊วบๆ ไม่โป๊ เด็กก็ไม่อึดอัดด้วยเพราะผ้ามันโปร่งไม่ร้อน

สวัสดีค่ะ  คุณแม่คนใหม่

น้องเจตมัยช่วงนี้เขาคงหลับนานอยู่นะคะ 

คุณแม่ต้องทานน้ำอุ่นนะค่ะ ( น้ำนมเยอะ มดลูกเข้าอู่เร็ว )

 เพราะร่างกายเราเปลี่ยนแปลงค่ะ

ทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำเยอะค่ะ

หากคุณแม่จะปิดนมต้องใช้ขวดนมช่วยตอนให้นมนะค่ะ

เพราะไม่นานน้องจะรู้และไม่รับขวดนมค่ะ ( ให้สลับกันค่ะ )

เอ พี่ตกข่าวเรื่องผ่าตัด

เป็นช่วงยุ่ง ๆ น่ะค่ะ

 

แต่เรื่องนมแม่ ค่ะ ลูกและนมจากเต้าของเราเขาจะปรับตัวกันเอง

อีกสักพักน้องมัทจะได้รู้ว่า โทรจิต(ของเราและลูก) เป็นอย่างไร

เมื่อเราคิดถึงลูก หรือพวงว่าเขาจะหิวหรือยัง

เต้านมเราจะตึง คัด และจี๊ด ขึ้นมาอัตโนมัติค่ะ...

 

ขอให้แข็งแรงทั้งแม่และลูกนะคะ

  • เปิด จ๊วบ ก็ได้เลย ที่ไหนก็ได้ ไม่มีใครเขาว่าเราหรอก มีแต่เผ่นกันไม่ทัน อิอิ
  • **เพิ่งเห็นจากพี่เพื่อนร่วมทาง

     

    จริงค่ะ ห้าง ๆ หนึ่งต้องมีที่ให้นมลูกโดยเฉพาะก็เพราะพี่ไป

     "เปิด จ๊วบ "แถมเขียนคอมเม้นท์ให้เขาด้วยค่ะ

    ได้จดหมายกลับมาขอบคุณด้วย..อิ อิ

    ขอบคุณค่ะพี่หมอนนท์ อ. จัน พี่เล็ก พี่ซูซาน และ ครูเอ

    • เรื่องให้นมในที่สาธารณะนั้นมัทไม่กังวลเท่าที่จะปั้มนมเวลาไปทำงานหน่ะค่ะ ถ้าที่ออฟฟิศที่แคนาดาเค้าจะมีห้องให้ไปนั่งปั้มกันเลย แต่ที่นี่ไม่มี ถามพี่สะใภ้เค้าทำงานเอกชนพี่เค้าบอกว่าเค้าใช้ห้องประชุมตอนเที่ยงเป็นเวลาไม่มีคน แต่ที่คณะมักจะประชุมตอนเที่ยงทุกที คงต้องปั้มในห้องพัก เวลาปั้มไฟฟ้ามันจะมีอุปการณ์ใช้ผ้าโปงนั่งปั้ม กลัวจะมองไม่เห็นเองอ่ะค่ะ : P แต่ยังดีที่มีห้อง common ที่มีตู้เย็น คงต้องซื้อ tupperware ไปเก็บแยกแบบปิดฝาเท่านั้นเอง
    • เรื่องผ้าโปงนั้นจะซื้อแล้วค่ะ แต่แพงเวอร์มาก เลยจะใช้เป็น shawl ธรรมดานี่แหละผืนใหญ่ๆหน่อย
    • ตอนนี้ตามห้างมีห้องให้นมแล้ว ต้องขอบคุณพี่หมอเล็กนี่เอง : )
    • กลับไปทำงานแล้วมัทจะให้น้องเจอยู่ nursery ของคณะพยาบาล เค้ามีมุมให้นมด้วยค่ะ มัทแวะไปได้ระหว่างวันถ้าไม่มีงานรัดตัว สบายใจไปเยอะเลยค่ะ
    • เรื่องผ่าตัดนั้น มัทก็ผิดหวังเล็กๆ แต่ว่ามันจะ overdue แล้วปากมดลูกมัทอยู่ posterior มาก นิ่มมาเป็นอาทิตย์ๆแล้วแต่ไม่ยอมเปิด หัวลูกก็ลงด้านหน้ากด bladder หมอตรวจภายในลองเขี่ยดูหัวเจก็เด้งกลับขึ้นไปได้อีก มดลูกก็มีแค่ mild contraction ไม่ยอมปวดไม่เจ็บอะไรกับเค้าซักที มัทเป็นคนประจำเดือนมาตรงมาก แม่กับหมอปรึกษากันแล้วว่าอย่ารอต่อไปเลย ที่ผ่านมานี่รอมาตลอดอยากคลอดเอง วันที่ไปหาหมอก็เลย admit แล้วผ่าบ่ายนั้นเลยค่ะ ไม่ได้เตรียมตัวก่อนเหมือนกัน ฤกษ์ก็เอาสะดวกหมอกับยาย คือให้ยายๆขับรถออกมารพ.ได้สบายๆไม่ต้อง รีบ งานนี้มียายหมอดมยา ยายหมอเด็ก แล้วก็ยายหมอสูตินี่อายุน้อยที่สุดแล้วค่ะ ส่วนแม่มัทจะช่วย หมอรีบบอก ไม่เอาๆ ไม่ต้องช่วย เดี๋ยวเกร็ง : ) แม่เลยเป็นคนคุมดูอยู่ห่างๆ บรรยากาศในห้องผ่าตัดนี่ทำให้เจษฎ์หายกลัวไปเยอะเลยค่ะ เจษฎ์ถามว่านี่หมอเค้าคุยกันแบบนี้ทุกเคสรึเปล่า นี่รื่นเริงกันมาก มีรูปมาให้ดูให้พอเห็นภาพค่ะ : )

    http://photos-e.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc1/hs037.snc1/3306_78137850582_728270582_2072556_4710898_n.jpg

    http://photos-d.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc1/hs037.snc1/3306_78137765582_728270582_2072555_6502880_n.jpg

     

    มาบันทึกเรื่องโทรจิตนิดนึงค่ะ หรืออาจจะไม่ใช่โทรจิตแต่เป็นความบังเอิญ คือ

    4 คืนติดต่อกันแล้วที่มัทตื่นมาเข้าห้องน้ำใกล้ช่วงเที่ยงคืนหรือตีหนึ่งตรงกับเวลาที่เจจะต้องทานนมมาก คือพอเข้าห้องน้ำเสร็จ มัทก็ดูเจก็เห็นว่ากำลังตื่น บิดขี้เกียจแล้วก็ทำปากจ๊วบจาบๆจะทานนม มัทก็อุ้มให้นมเลย น้องไม่ต้องร้องก่อน อิ่มแล้วก็หลับได้อีก 2-3 ชม.  แต่มัทก็ไม่รู้ว่าจะเป็นแบบนี้ได้อีกนานเท่าไหร่ เพราะแม่บอกว่าช่วงนี้เป็นช่วง diuratic มัทจะฉี่เยอะและบ่อย เป็นการกำจัดน้ำออกจากตัว เลยยังลุกฉี่กลางคืนเหมือนตอนท้องเลยค่ะ

    ส่วนอีกเรื่องคือช่วงตี 3 มัทหลับสนิทแต่ 3 คืนแล้วที่อยู่ดีๆมัทก็ตื่น ไม่ได้ปวดฉี่ด้วย แต่ตื่นเพราะได้ยินเสียงเจทำปากจ๊วบจาบ เสียงมันเบามาก แต่ก็สามารถปลุกมัทให้ตื่นขึ้นมาได้ โดยที่เจไม่ต้องร้องไห้เลย

    เป็นแบบนี้มา 3-4 คืนแล้วค่ะ พ่อก็ไม่ต้องตื่นช่วยทุกครั้ง ได้นอนยาวหน่อย พ่อจะช่วยช่วงก่อนเข้านอนกัน แล้วก็ตื่นมาช่วยอีกรอบคือตอนตี 5 พอไปทำงานก็ไม่เหนื่อยมาก : )

    • ไม่ได้นะค๊า ต้องหัดให้คุณพ่อตื่นมั่งนะค๊า
    • เดี๋ยวเคยตัว อิอิ

    ฟังแล้วมีความสุขจัง น้องเจกินนมแม่เยอะๆ โตไวๆ นะค้าบ อ้อ ผ้าโปงที่ว่านี่ก็ใช้ผ้าอ้อมนี่ล่ะ เพื่อนก็ไปซื้อผ้าจากพาหุรัดมาตัดเย็บเอง จะเอาใหญ่ยาวแค่ไหนก็ได้ ถูกๆ ด้วย ผ้าพวกนี้ขายกันเป็นหลา มีเพียบ คุณพ่อมีไว้ให้ใช้นะตอนนี้ อิ อิ ใช้ไปซื้อเลยจ้า เพื่อความสุขของแม่และเจ้าตัวเล็ก : )

    สวัสดีค่ะ  คุณ  มัทนา

    แวะมาอ่านบันทึก  น่าสนใจมากค่ะ

    มีข้อสังเกตุอยู่อย่างหนึ่ง  คือ ควรให้ลูก ได้ดื่มน้ำสะอาด หลังจากดื่มนมแล้ว ด้วยนะคะ  จะทำให้ลูกมีความเคยชินที่จะดื่มน้ำ และ ล้างคราบนมในปากของลูกด้วย  น้ำสะอาด จะทำให้ตาขาวของเด็กทารกไม่เหลืองค่ะ  ขวดนม และจุกนม ต้องลวกน้ำร้อนทุกครั้งนะคะ  และน้ำดื่มที่ใส่ขวด ต้องต้มสุก ทิ้งไว้ให้อุ่นพอประมาณ ให้เทสอุณหภูมิก่อนให้ลูกดื่มน้ำทุกครั้งค่ะ เพื่อความไม่ประมาท และปลอดภัย

    ขอให้คุณแม่+ลูก มีความสุข สุขภาพแข็งแรงค่ะ

    พี่มัทคะ

    มาต้อนรับน้องเจคะ ไม่ค่อยมีเวลา ตกข่าวไปหลายวันเลย

    อ่านบันทึกนี้อยากไปถามแม่บ้างว่า ตอนที่เกิดมาใหม่ๆ ตัวเองเป็นยังไงบ้าง ^_^

    ขอให้น้องเจของน้าๆ แข็งแรงๆ นะคะ

     

    ขอบคุณคุณ Moon smiles on Venus&Jupiterมากค่ะ

    เรื่องนี้สำคัญมาก คนแต่ละรุ่นจะเลี้ยงลูกมาไม่เหมือนกัน สมัยก่อนก็เลี้ยงมาได้จนโตแบบนึง สมัยนี้ก็มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มายืนยัน มัทโชคดีที่ที่บ้านเปิดกว้างมาก ไม่บังคับให้ทำอะไรเลย แม่จะรู้บ้างว่าสมัยนี้ไม่ให้นอนคว่ำ หรือ ถ้าอันไหนไม่รู้แม่ก็จะถามมัทบ้างถามเพื่อนบ้างเช่น เมื่อไหร่จะเริ่มทานข้าวหรือกล้วยบดได้ (สมัยก่อนแม่ให้น้องตั้งแต่ 3 เดือนเพราะน้องร้องมากเลยให้ทานอะไรที่หนักท้อง)

    ส่วนเรื่องทานน้ำนี่ ตอนนี้จะไม่แนะนำให้ทานน้ำเพิ่มค่ะ เพราะว่าในน้ำนมแม่มีส่วนประกอบของน้ำมากอยู่แล้วโดยเฉพาะน้ำนมส่วนแรก (fore milk) หมอจะสั่งไม่ให้ทานน้ำเพิ่มเลยค่ะ เท่าที่อ่านๆมาเค้าจะกลัวภาวะที่น้ำมากไปไปทำให้โซเดียมในร่างกายไม่สมดุลจนเป็นโทษ (water intoxication)

    ส่วนเรื่องการทำความสะอาดนั้น นมแม่มีสารที่ต่อต้านการติดเชื้อทั้งแบคทีเรียและเชื้อราในช่องปาก สบายมากเลยค่ะ ถ้าจะทำความสะอาดจริงๆมัทจะใช้ผ้าก๊อซพันนิ้วชุบน้ำหมาดๆแล้วเช็ดเอาดีกว่าค่ะ การดื่มน้ำตามนั้นคงเป็นกรณีทารกที่ทานนมผง formula (เพราะนมผงไม่มีคุณสมบัติต้านการติดเชื้อแบบนมแม่) แล้วก็เป็นเด็กที่โตกว่า 4 เดือนรึเปล่าคะ

    น้ำขวดนั้นจะให้ทานเมื่อน้องทานอาหารแข็งแล้ว เมืองไทยบอกว่า 4 เดือนให้เริ่มได้ แต่ที่แคนาดาสอนว่า 6 เดือนแรกนมแม่ล้วนๆพอ ส่วนการเดินทางสายกลางคือ ให้ดูที่น้ำหนักน้องเอาดีกว่า ว่าตกลงจะเริ่มเมื่อไหร่ดี

    ส่วนขวดนมนั้น ให้เริ่ม 1 เดือนไปแล้ว ให้น้องทานนมแม่ได้ดีๆก่อน จะได้ไม่สับสน เพราะจุดขวดนมนั้นต่างจากหัวนมแม่ ถ้าให้จุกนมเร็วไป น้องอาจจะไม่กลับมาดูดนมแม่อีกค่ะ ส่วนเรื่องการทำความสะอาดนั้นมัทเห็นด้วย 100% ค่ะ นี่ได้เครื่องนึ่งมาเป็นของขวัญพอดีเลยค่ะ

    พี่ซูซานค่ะ ได้ไอเดียไปซื้อผ้ามาตัดบ้างละ : ) ไอ้ผ้าโปงสำเร็จรูปที่ขายในห้างที่นี่เห็นมีแต่สีดำพอดี ลายหรือสีสวยๆต้องสั่ง online แพงก็แพง แม่กับน้องใหม่ไปดูให้ที่ญี่ปุ่นก็แพง ไม่รู้มันจะโก่งราคาของแม่และเด็กไปถึงไหนเนอะ

    พี่หมอนนท์คะ เมื่อคืนเลยได้ฤกษ์ที่เจษฎ์ต้องลุกเลยเพราะมัทให้นมน้องก่อนที่จะไปฉี่ โห กว่าน้องจะทานเสร็จปวดซะ เลยปลุกให้เจษฎ์รับช่วงต่อเปลี่ยนผ้าอ้อม แล้วมัทก็ไปห้องน้ำ : )

    เจตมัยขอบคุณน้ามะปรางมากครับ : )

    ขอบคุณค่ะ คุณ มัทนา

    เรื่องน้ำ นั้นแค่ให้ทารก ได้จิบๆ คำ 2 คำ เพื่อล้างปาก และ หลอดอาหาร เล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น  เพราะ ทารก ก็จะได้คุ้นเคยค่ะ   ทารกจะมีพัฒนาการปรับตัวได้เร็วถ้าได้คุ้นเคยบ้าง รวมทั้งจุกนมนะคะ  แทบไม่มีปัญหาเลยค่ะ..

    สำหรับผ้าอ้อม ให้เด็กมีพัฒนาการขับถ่ายตามธรรมชาติบ้าง จะดีกว่าอยู่ในผ้าอ้อมสำเร็จรูปตลอดเวลาค่ะ  สมัยก่อน เมื่อครั้งยังทำงานนอกบ้านอยู่  เพื่อนที่ทำงานด้วยกัน มีครอบครัว แล้วไม่มีญาติผู้ใหญ่ช่วยเลี้ยงลูกให้  ซึ่งตัวเองก็เหนื่อยมาก ตอนนอนก็เลยให้ลูกใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปไว้ตลอดเวลา  และ คนที่จ้างเขาเลี้ยงก็ไม่มีคุณภาพ เด็กขับถ่ายอยู่ในผ้าอ้อมสำเร็จรูปตลอดเวลา  เพื่อนมารู้ตัวว่า มีความผิดพลาด ก็ตอนที่ลูกอายุได้ขวบกว่า  เพราะเด็กจะไม่ขับถ่ายถ้าไม่อยู่ในผ้าอ้อมสำเร็จรูปค่ะ  จึงคิดว่า ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ไว้ใช้เมื่อจำเป็นเป็นครั้งคราวจะดีกว่าค่ะ   

    ตอนนี้  Moon smiles on Venus&Jupiter กำลังสนใจเรื่องการสลับศีรษะเด็ก   เพื่อปั้นศีรษะทารกค่ะ  จะคอยอ่านบันทึกนะคะ  ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท