พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น
พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น ( Million Toy Museum )
พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น อีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ที่ไม่ควรมองข้าม พิพิธภัณฑ์นี้พึ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา แต่เรียกว่ากลายเป็นสถานที่ชื่นชอบสำหรับเด็กๆและครอบครัว หลายครอบครัวต่างพากันมารำลึกถึงความหลัง เล่าถึงความทรงจำสมัยเด็กที่รุ่นพ่อแม่เคยเล่นของเล่นเหล่านี้ เป็นบรรยากาศที่น่าประทับใจ ดิฉันเองก็เป็นอีกคนหนึ่งที่หลงไหลของเล่นโบราณ โดยเฉพาะของเล่นสังกะสี แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดซื้อหามาเก็บสะสม เพราะราคาของเล่นแต่ละชิ้นเรียกได้ว่าแพงกว่าซื้อหาของเล่นชิ้นใหม่ๆในยุคปัจจุบันอยู่มาก ได้แต่หาซื้อพวกสมุดภาพหรือหนังสือที่รวบรวมเรื่องราวของเล่นเก่าๆและจะหยุดดูทุกครั้งเมื่อได้เห็นของเล่นเหล่านี้ หลายคนที่มาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็เช่นกัน เชื่อว่าทุกคนต่างก็มีของเล่นชิ้นโปรดเป็นของตัวเอง แต่เดินทางมาเพราะอยากมาดูของเล่นหลายล้านชิ้นที่อยู่ที่นี่เพราะโดยปกติแล้วเราคงไม่ค่อยได้มีโอกาสเห็นของเล่นของคนอื่นที่เขาซื้อมาเก็บไว้ได้ง่ายๆ
มิลเลี่ยนทอยด์เรียกว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ของเล่นแห่งแรกของประเทศไทยก็ว่าได้ ผู้ก่อตั้งคือ รศ. เกริก ยุ้นพันธ์ นักสะสมและรวบรวมของเล่นดีๆ ระดับโลกไว้มากมายทั้งของเล่นที่มีอายุนับร้อยๆ ปี ไปจนถึงของเล่นยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นของเล่นของไทย ของเล่นจากต่างประเทศ รวมถึงของเล่นชิ้นเอกซึ่งนับเป็นตัวแทนยุคทองของของเล่นคือของเล่นสังกะสีนั่นเอง ที่นี่ก็มีอยู่จำนวนมาก ให้เลือกชมกันได้อย่างจุใจ มาที่นี่คุณสามารถศึกษาเรื่องราวของของเล่นไทยย้อนยุค ตั้งแต่ยุคเก่าในสมัยสุโขทัย อยุธยา จนกระทั่งถึงสมัยรัตนโกสินทร์ พิพิธภัณฑ์นี้อยู่ไม่ไกลกรุงเทพฯ มีชื่อเต็มๆว่า พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่นเกริกยุ้นพันธ์ ตั้งอยู่ที่ 45 หมู่ 2 ถ.อู่ทอง ต. ท่าวาสุกรี อ. เมืองพระนครศรีอยุธยา จ. พระนครศรีอยุธยา
ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนด้านนอกอาคารพิพิธภัณฑ์ ซึ่งจัดเป็นสวนพักผ่อน ร่มรื่น เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่นานาพันธุ์ ด้านหน้าอาคารมีร้านก๋วยเตี๋ยวข้าวแกงครัวประตูชัยและมีกาแฟโบราณให้ได้ลองลิ้มชิมรสกัน ส่วนที่สองคืออาคารพิพิธภัณฑ์ซึ่งเป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหลังใหญ่ 2 ชั้น สูงโปร่งทาสีขาวทั้งหลัง มีประตูหน้าต่างแบบบ้านสมัยเก่าทาสีฟ้าดูสดใส ภายในแบ่งเป็นสองชั้น เมื่อก้าวเข้าไปสู่ตัวพิพิธภัณฑ์ด้านใน ก็จะพบกับสิ่งของจัดแสดงไว้มากมาย อาจารย์เกริกได้ใช้เวลาร่วม 20 กว่าปีในการสะสม โดยชั้นล่างของอาคาร จัดแสดงของเล่นไทยยุคเก่าในสมัยสุโขทัย อยุธยา และสมัยรัตนโกสินทร์ มีทั้งตุ๊กตาดินเผา กระปุกออมสินดินเผา ฯลฯ และนอกจากนี้บริเวณนี้ยังจัดนิทรรศการเกี่ยวกับวิถีชีวิตของคนไทยโดยแสดงผ่านสิ่งของเครื่องใช้ ของเก่าของคนไทย มีพวกข้าวของเครื่องใช้คนไทยยุคโบราณ ตั้งแต่ 100 ปีย้อนลงมาถึง 30 ปีที่แล้ว และมีการจัดแสดงใส่ตู้โชว์อย่างเป็นระเบียบสวยงาม ของโบราณที่ชวนชมมีมากมาย อาทิ เช่น ภาพถ่ายโบราณฟิลม์กระจกสมัยรัชกาลที่ 4 เครื่องเงิน ภาพพิมพ์โบราณ เครื่องรางของขลัง เครื่องแก้วอายุหลายร้อยปี ปิ่นโตเก่าลายสวยงาม งานทองเหลือง วิทยุโบราณ สิ่งพิมพ์ยุคแรกของคนไทย หนังสือเก่า โปสการ์ด จดหมายในยุคแรกที่เริ่มมีการไปรษณีย์ เหรียญเงินตรา แสตมป์ พระพุทธรูป ภาพวาด เครื่องเรือนโบราณ เครื่องแก้วโบราณ เครื่องเคลือบ เครื่องกระเบื้อง เครื่องปั้นดินเผา งานเครื่องแก้ว ฯลฯ และที่ชั้นล่างนี้ยังมีการจัดแสดงภาพวาดลวดลายสวยงามน่ารัก ที่เป็นฝีมือของอ.เกริก แล้วก็ยังมีส่วนของร้านขายของที่ระลึกด้วย มีทั้งสมุดโน้ต แก้วน้ำ เสื้อ กระเป๋า และของเล่นสังกะสีที่ทำเลียนแบบของเล่นสมัยเก่าก็มีให้ซื้อเป็นของที่ระลึก ติดไม้ติดมือกลับบ้าน ชั้นที่ 2 ซึ่งเป็นส่วนชั้นบนของอาคาร ชั้นนี้รวบรวมของเล่นเก่าจากทั่วโลก ทั้งตุ๊กตาเซลลูลอยด์อายุหลายร้อยปี ตุ๊กตาดินเผา กระปุกออมสินดินเผา ของเล่นพลาสติก ของเล่นไม้ ของเล่นสังกะสีรูปแบบต่างๆตั้งแต่สมัยที่ยังไม่มีกลไก เรื่อยมาจนถึงที่มีลาน ใส่แบตเตอร์รี่ ชั้นนี้ภายในห้องตกแต่งด้วยภาพฝาผนัง Mural Painting สำหรับเด็ก ซึ่งวาดโดย อาจารย์เกริก ยุ้นพันธ์ และพลาดไม่ได้กับของเล่นที่เป็นสากลเป็นที่ชื่นชอบของเด็กทุกยุคสมัย ของเล่นหายาก 100 ชิ้นที่ควรดู ซึ่งคนทั้งโลกอยากเห็น นักสะสมของเล่นอยากเป็นเจ้าของ
ที่มาของพิพิธภัณฑ์นี้ เกิดจากความคิดของ รศ. เกริก ยุ้นพันธ์ ซึ่งท่านเป็นอาจารย์ประจำสาขาวิชาวรรณกรรมสำหรับเด็ก มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ นอกเหนือจากบทบาท คุณครูแล้วยังเป็นนักวาดภาพประกอบและคนทำหนังสือสำหรับเด็ก เจ้าของผลงานหนังสือภาพจำนวนมาก เช่น บอลลูน กระดุ๊กกระดิ๊กกระด๊อกกระแด๊ก กระต่ายน้อยหนีแม่ และชาวนาไทย ซึ่งผลงานชิ้นนี้เองทำให้อาจารย์เกริกได้รับรางวัลนอมา (NOMA) จากประเทศญี่ปุ่น ประจำปี พ.ศ. 2525 และรางวัลนี้ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความคิดอยากสร้างพิพิธภัณฑ์ของเล่นขึ้นในเมืองไทย
รางวัลนอมาทำให้อาจารย์เกริกมีโอกาสเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นและมีโอกาสได้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ของเล่นคีตาฮารา (Kitahara Tin Toy Museum) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ของเล่นของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจัดแสดงของเล่นไว้เป็นจำนวนมาก จากนั้นเมื่อกลับมาถึงเมืองไทย อาจารย์จึงเริ่มต้นเก็บรวบรวมของเล่นที่มีอยู่และเริ่มสะสมของเล่นเก่าๆมาตลอด 20 กว่าปีที่ผ่านมา จนกระทั่งเมื่อ 10 ปีที่แล้ว อาจารย์มาเจอที่ดินผืนนี้ (พื้นที่เขตหัวแหลมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา) จึงได้ตัดสินใจซื้อไว้และค่อยๆ สร้างพิพิธภัณฑ์ขึ้นมาจนเกิดเป็น‘พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่นเกริกยุ้นพันธ์’ ซึ่งเป็นความฝันที่กลายเป็นความจริงของอาจารย์เกริกที่เฝ้ารอมาตลอดระยะเวลา 26 ปี
ในวันงานเปิดตัวพิพิธภัณฑ์ล้านของเล่นเกริกยุ้นพันธ์ อาจารย์เกริกได้กล่าวว่า เวลาเกือบ 30 ปีที่ผ่านมาได้ไปเห็นพิพิธภัณฑ์ของเล่นในประเทศญี่ปุ่น ใฝ่ฝันว่าอยากจะเปิดบ้างให้คนไทยได้ดู ได้ประทับใจเหมือนที่ผมรู้สึก ผมเริ่มสะสมของเล่นเรื่อยมาจนที่พิพิธภัณฑ์มีของเล่นและของสะสมโบราณชิ้นหายากของโลก มีอายุเป็นร้อยๆปี หลายพันหลายล้านชิ้น และยังมีข้าวของเครื่องใช้ที่แสดงถึงวิถีชีวิตของคนไทย ทั้งของผู้มีฐานะและชาวบ้าน น่าดู น่าชม น่าศึกษามากมาย ...และถ้าพ่อแม่มาดู แล้วรู้สึกว่าอยากพาลูกๆมาดู ถ้าปู่ย่าตายายมาดู แล้วรู้สึกว่า อยากให้ลูกพาหลานมาดู ถ้าคนหนุ่มสาวมาดู แล้วรู้สึกว่า วันหนึ่งเมื่อมีครอบครัวจะพาครอบครัวของเขามาดู นับว่าเป็นความสุขสำหรับครอบครัวอย่างหนึ่งทีเดียว...
นับเป็นความตั้งใจดีของผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ ที่อยากจะให้ทุกคน ทุกครอบครัวได้มีความสุขไปกับของเล่น ของเล่นเหล่านี้ยังถ่ายทอดเรื่องราววิถีชีวิตแบบไทยๆอีกด้วย โดยเจ้าของเขาไม่ได้ต้องการแสวงหากำไรจากการสะสมแต่อย่างใด เก็บค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ซึ่งเรียกว่าราคาถูกกว่าพิพิธภัณฑ์ที่อื่น คือค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท นับว่าคุ้มค่ามาก
ถ้าท่านสนใจ "พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่นเกริกยุ้นพันธ์” เปิดทำการทุกวันอังคาร - วันอาทิตย์ เวลา 9.00 - 16.00 น. หยุดทุกวันจันทร์ ที่นี่ยังมีกิจกรรมสำหรับเด็ก ชั่วโมงเล่านิทาน ทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ 10.00 - 11.30 น. ศิลปะสำหรับเด็ก ทุกเสาร์ที่ 2 และ 4 ของเดือน เวลา 10.00 – 11.30 น.ศิลปะเด็ก กิจกรรมสร้างสรรค์ วาดรูป ภาพพิมพ์ ปั้นดิน ศิลปะประดิษฐ์ และยังมีค่ายนิทาน ปลูกความรู้ ความคิด และจินตนาการ รวมทั้งนิทรรศการหมุนเวียน ศิลปะ ของสะสม เปิดตัวหนังสือ พบปะผู้มีชื่อเสียง ฯลฯ
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-35328-949 ถึง 50, 08-1890-5782, 08-6334-4581 หรือเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.milliontoymuseum.com
วิธีเดินทาง เมื่อมาถึงอยุธยาแล้วให้ถามทางมาแยกโรงเรียนประตูชัย แล้วจะเจอพิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น
ภาพตัวอย่างภายใน สนใจเข้าไปชมภาพได้ที่เว็บไซต์มิลเลี่ยนทอยด์น่ะค่ะ
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น