ระบบส่งเสริมการเกษตรเป็นระบบที่จะต้องนำมาใช้เพื่อการพัฒนางานส่งเสริมการเกษตร โดยมีศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบล(ศบกต.) ในจังหวัดชัยนาท ได้มอบให้สำนักงานเกษตรอำภอสรรคบุรีนำร่องในการนำระบบส่งเสริมการเกษตรมาใช้ และได้เริ่มดำเนินงานผลที่ออกมาน่าสนจ ผลที่ออกมาดีนั้นเป็นผลสะท้อนจากทีมงานที่เข้ม แข็ง โดยมรนายวิชัย มาฆพัฒนศิลป์ เกษตรอำเภอสรรคบุรี
เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2552 ได้รับคำชวนจาก พี่อัญชัญ นุ่นละออง(พี่แดง) นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ ไปร่วมการเสวนาถึงระบบส่งเสริมการเกษตร โดยมรคณะกรรมการจากทุก ศบกต. และนักวิชาการผู้รับผิดชอบตำบล เข้าร่วม ในงานนี้ต้องยอมรับในทีมงานของสำนักงานเกษตรอำเภอสรรคบุรี เนื่องจากรัฐบาลประกาศให้เป็นวันหยุดเจ้าหน้าที่ทุกคนและเกษตรอำเภอได้มาร่วม จึงขอขอบพระคุณมาก
การเก็บข้อมูลครั้งนี้ พี่แดง ได้กำหนดประเด็นต่าง ๆ เพื่อง่ายแก่การเสวนา ผลที่ได้จากผู้เกี่ยวข้องต่อการดำเนินงานตามระบบส่งเสริมการเกษตร อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท สรุปประเด็นจากการเสวนาดังนี้
1. ความรู้ความเข้าใจต่อระบบส่งเสริมการเกษตร
เป็นระบบของการรวบรวมข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน เพื่อนำมาใช้ในการจัดทำแผน 1 ปี แผน 3 ปี และ แผน 5 ปี เพื่อการพัฒนาการเกษตร ในการนี้ประเด็นที่ดูแล้วคณะกรรมการพอใจมากสุดคือการลดต้นทุนการเกษตรและเพิ่มผลผลิตข้าวของเกษตรกร
2. ความคิดเห็นด้านกระบวนการทำงานในพื้นที่ของเจ้าหน้าที่
2.1 จุดดี จากการดำเนินงานอย่างเป็นระบบสร้างความสะดวกแก่การติดต่อ การเรียนรู้การเกษตรใน ศบ.กต. สร้างอาชีพ สร้างรายได้ การเรียนรู้และติดตามการดำเนินงานโครงการต่างๆ แบบมีส่วนร่วมของประชาชน การให้ความสำคัญแก่บทบาทของวิทยากรเกษตรกร การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร เช่น การเตือนการระบาดศัตรูพืช การส่งเสริมพัฒนาอาชีพ แหล่งผลิตเมล็ดพันธุ์ดี การจัดเก็บข้อมูล การวางแผน การสร้างเครือข่ายเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมของชุมชน
2.2 ปรับปรุง ข้อมูลที่ครอบคลุม เช่น ข้อมูลดิน งบประมาณไม่มีสนับสนุน เจ้าหน้าที่มีน้อยควรมอบหมายหน้าที่การออกใบรับรองเกษตรกร ภัยธรรมชาติให้กับ อปท.
3. ความคิดเห็นด้านการทำงานในระดับตำบล
3.1 จุดดี
- ต้นทุนการผลิตที่ลดลงอย่างชัดเจน ผลผลิตข้าวเพิ่มขึ้น รายได้ดีขึ้น
- ชุมชนมีโอกาสร่วมในการนำเสนอความคิดเห็นและร่วมดำเนินงาน สร้างความรักความสามัคคีในชุมชน
- เปิดโอกาสรับการสนับสนุนจากหน่วยงานและโครงการต่าง ๆ มากขึ้น รวมทั้งการใช้ปัจจัยต่าง ๆ ในท้องถิ่นเป็นประโยชน์ทั้งการผลิตและการแปรรูป
3.2 จุดปรับปรุง
- ขาดตลาดรองรับผลผลิต
- ในบางโครงการขาดการแก้ปัญหาให้เสร็จสิ้น
- ควรมีการเรียนรู้ด้วยการรวมกลุ่ม การศึกษาดูงาน อย่างต่อเนื่องเป็นระยะของการผลิต
- ควรจะมีงบประมาณสนับสนุนการดำเนินงานของ ศบ.กต. อย่างเป็นอิสระโดยการบริหารของ ศบกต.
- การดำเนินงานการจัดการความรู้ และการถ่ายทอดความรู้ควรนำเจ้าหน้าที่จาก อปท. เข้าร่วม
4. ความพึงพอใจภาพรวมต่อการดำเนินงานตามระบบส่งเสริมการเกษตร
1. เปิดโอกาสการมีส่วนร่วมของชุมชนในการดำเนินงาน
2. การทำงานที่มีแผนอย่างเป็นระบบ
3. มีสถานที่ในการทำงานและ จัดเวทีแห่งการเรียนรู้ในชุมชน
4. การสร้างงานและสร้างรายได้ในชุมชน
5. มีองค์ความรู้เพื่อการพัฒนาการเกษตร
6. เกษตรกรได้รับบริการอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว
7. ความถูกต้องของข้อมูลและการช่วยเหลือสนับสนุนเกษตรกรอย่างถูกต้อง โปร่งใส และเป็นธรรม
8. เกิดองค์ความรู้และ การนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ประโยชน์ในชุมชน
5. ข้อเสนอแนะในการดำเนินงานต่อไป
1. สร้างการเรียนรู้สู่เยาวชนในโรงเรียนตั้งแต่ระดับประถม ถึง มัธยมศึกษา
2. สร้างค่านิยมในการรักอาชีพการเกษตรและ การเรียนรู้จากผู้ปกครองสู่ลูก
(ประเด็นนี้ คณะกรรมการ ศบกต. เล่าให้ฟังว่าเพื่อนเกษตรกรบางรายไม่เคยพาลูก เข้าสู่แปลงนาเลย ให้เรียน และไปรวมกลุ่มเพื่อนๆ เท่านั้น ส่งผลให้เมื่อเรียนจบแล้วจะมุ่งสู่งานภาคอุตสาหกรรมหรือเข้าสู่กรุงเทพฯ ถ้าเกิดสภาวะตกงานเขาคงจะกลายเป็นผู้ว่างงานทันทีทั้งที่มีพื้นที่นาทำกิน อนาคตคงจะไม่มีเกษตรกรหรือผู้รับทอดมรดกชาวนาไทย)
3. ให้ผู้นำท้องถิ่นตระหนักในการพัฒนาอาชีพการเกษตร
4. การพัฒนาเครือข่ายการตลาด
5. การพัฒนาการเกษตรแบบครบวงจร
6. ให้สร้างองค์ความรู้สู่เกษตรกรสามารถช่วยเหลือตนเอง
บรรยากาศการเสวนา
ในเริ่มแรกผู้เข้าร่วมจะแสดงอาการเบื่อกับการประชุมสัมมนา ต้องการให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว แนวทางแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เล่าถึงการดำเนินงานส่งเสริมการเกษตรในยุคเก่าที่ผ่านมา พร้อมตั้งคำถามส่งให้ผู้ร่วมเสวนา และรับฟังเขาเล่าอย่างสนใจ อีกทั้งชวนพูดหยอกล้อไปเรื่อยสลับกับการฟังและใส่ใจกับข้อมูลที่ผู้ร่วมนำเสนอ บางครั้งการนำเสนอความคิดเห็นขาดช่วงจึงต้องยกตัวอย่าง อาจขาดช่วงจึงต้องบรรยายสร้างภาพให้ได้รับทราบกันเมื่อนั้นข้อคิดเห็นจะมีมาตลอด โดยเฉพาะประเด็นของงบประมาณที่ต้องให้ ศบกต. ขอรับการสนับสนุนจาก อปท. เพราะคณะกรรมการ ศบกต. ไม่มีงบประมาณสนับสนุน จึงมาด้วยจิตใจที่เสียสละให้กับงานส่งเสริมการเกษตร อย่างน่าชื่นชม จึงขอน้อมเคารพความเสียสละกับคณะกรรมการ ศบกต.ทุกท่านด้วยครับ
เวลาพักกลางวันของเจ้าหน้าที่ในสำนักงานเกษตรเค้าพักกันกี่ชั่วโมงคะ
พอดีเมื่อวานแม่ไปติดต่อขอเปลี่ยนเรื่องจำนวนที่นา(ขอเพิ่ม-ขอลดที่นา)ที่เกษตรอ.สรรพยาคะ ไปติดต่อตอนช่วงเช้า พอดีนำเอกสารไปไม่ครบก็กลับมาที่บ้าน กว่าจะไปก็เกือบเที่ยง พอดีเจ้าหน้าที่เค้าไปทานข้าวกัน เค้าบอกว่าจะเข้ามาประมาณ บ่าย 2 คะ แม่เราก็นั่งรอ ตั้งแต่เที่ยง จนประมาณบ่าย 3 ครึ่ง เราก็โทไปหา เค้าบอกว่ายังไม่เข้ามากันเลย เราก็ถามว่าเจ้าหน้าที่เค้าบอกหรอว่าไปกินข้าว เค้ามีงานออกนอกพื้นที่รึปล่าว แม่ก็ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ ที่นั่นบอกจริง ๆ ว่าออกไปกินข้าว
แล้วทำไมถึงนานนักล่ะคะ พอดี เกือบ 5 โมงพอดีกว่าแม่เราจะกับบ้าน