รักเธอประเทศไทย 1


สิ่งที่เราบอกว่ามีแล้ว.....แท้ที่จริงยังมีไม่พอ คือความรัก ต่อคนที่ยื่นตรงกันข้ามกับเรา

             ผมจะถูกด่าหรือเปล่า...ถ้าบอกว่า ประเทศไทยเราเดี๋ยวนี้มีอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ ดูดีมีสีสันทั้งเสื้อเหลืองและก็ เสื้อแดง ...อ้อ..เสื้อน้ำเงินด้วยจ๊ะ(อย่าพึ่งน้อยใจ)  ความจริงยังมีอีกหลายหลากสีที่ยังไม่กล่าวได้เพราะความที่ยัง ว๊อบๆ แวมๆ ผลุบๆ โผล่ๆ เล่นซ่อนแอบกันหัวใจจะวายเอาให้ได้ ผมยอมรับได้เลยว่าผมใส่ทุกสีเลยเพราะเชื่อมั่นว่ามันทำให้ประเทศไทยแต่ละวันดูสดใส ไม่น่าเบื่อ

             หากสีเสื้อที่เราสวมใส่นั้นแสดงออกถึงความคิดที่แตกต่าง ย่อมเป็นผลดี(มากเลยจริงๆ) ต่อประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างไทย หากเราจะระดมความคิดและ รวบรวมเก็บไว้เป็นข้อมูลเพื่อสร้างชาติให้มั่นคง อยู่ดีกินดี สงบสุข ฯลฯ แต่ปัญหาของประเทศไทยคือ ที่ที่สำหรับเก็บข้อมูล ความคิดเห็นที่แตกต่าง ที่ดีๆ มันไม่มี จะมีก็แต่ข้อมูลของตน...พรรคของตน กลุ่มของตน คนของตน แม้แต่สื่อเองก็มีสีของตน เก็บข้อมูลและนำเสนอแต่ข้อมูล ของตน กลุ่มของตน  แล้วใครหนอ..จะเป็นคนกลางที่จะทำหน้าที่แบบยุติธรรมจริง

             รัฐบาล...รัฐบาล...ต่อมความคิดกระซิบผม บอกว่าขอมอบหน้าที่นี้ให้แก่รัฐบาลและ ผู้ทรงคุณวุฒิครับท่าน เมื่อความคิดเกิดขึ้น ผมก็อยากจะถามว่ารัฐบาลทำได้ใช่ไหม....ได้ แต่อาจจะช้าหน่อย ก็ไม่เป็นไรผมเป็นกำลังใจให้ทุกพรรคที่ได้ขึ้นมาเป็นรัฐบาล แต่ผมขอเดาเล่นหน่อยๆ นะ ว่าสาเหตุที่รัฐบาลทำงานได้ช้า(ไม่ว่าพรรคไหน) กว่าจะได้ทำงานเพื่อประชาชนได้  เพราะมั่วแต่ไปดูแต่ละครเกี่ยวกับชิงรักหักสวาทอยู่แน่ๆ ถึงได้เป็นพฤติกรรมสะสมในชีวิตการเมือง ชิงไหวชิงพริบ ชิงพื้นที่ข่าว สื่อก็เลยเป็นเจ้าภาพในรายการโต้วาทีโดยปริยาย ฮ่า...ผมแค่เดานะครับท่าน

             การสื่อสารโดยคำพูดเป็นช่องทางที่ดีที่จะทำให้เรารู้จัก กันและกันมากขึ้น พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ให้มี 1 ปาก 2 หู ผมเข้าใจว่าพระองค์ให้เราพูดน้อยและมีโสตประสาทในการฟังให้มาก หรือว่าไวในการฟัง ช้าในการพูด เพื่อที่จะช้าในการโกรธ ผลประโยชน์ที่ตามมาคือ การอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขทุกฝ่าย(ถ้าเราจะเข้าใจ)  การเลือกที่จะออกมาแสดงความคิดเห็นของ ผู้นำของบ้านเมือง ผู้นำศาสนา ครูบาอาจารย์ ผ่านสื่อก่อนที่จะคุยเป็นการส่วนตัวโดยตำหนิฝ่ายตรงข้ามไม่ควรเป็นอย่างยิ่ง เสมือนเป็นการตัดสินเขาโดยจำเลยไม่มีโอกาสแก้ตัว การกระทำเช่นนี้ยังทำให้เกิดบันดาลโทสะ  โกรธ เครียดแค้น เสียเวลาประเทศไทยเจริญไปซะเปล่าๆ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหา

             ถึงตอนนี้ดูเหมือนประเทศไทยกำลังมีปัญหามารุมเร้ามากมาย ..แต่.. ผมก็ยังรักเธอ เพราะผมเชื่อมั่นว่าภายหลังปัญหามักมีสิ่งดีๆ ตามมาอยู่เสมอ  เราคนไทยจะกลับมาอินเลิฟกันดั่งเดิม เพราะความรักเท่านั้นที่จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น สิ่งที่เราบอกว่ามีแล้ว.....แท้ที่จริงยังมีไม่พอ คือความรัก ต่อคนที่ยื่นตรงกันข้ามกับเรา มิใช่เพียงแค่รักกันเพียงคนในครอบครัว คุณในกลุ่ม คนในพรรคเท่านั้น

            พระเยซูทรงสอนในเรื่องความรักแบบไม่ธรรมดา คือนอกเหนือจากความรักคนในครอบครัว คนสนิทแล้ว ยังสอนให้มีความรักต่อศัตรูด้วย คำสอนนี้มีมานาน ซึ่งคริสตชนถือปฏิบัติกันจนส่งผลให้สังคมในคริสตจักรอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข ลองนำคำสอนของพระองค์ไปใช้ดูนะ ดูเหมือนจะยากแต่ผมอยากบอกว่าไม่ยากหรอกครับหากเราจะนำไปปฏิบัติ   เพียงแค่เราลดทิฐิ ลดความเป็นตัวของตัวเองเท่านั้นเอง

หมายเลขบันทึก: 255891เขียนเมื่อ 17 เมษายน 2009 11:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 02:30 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท