เช้าวันเสาร์ที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ เราขับรถเพื่อกลับบ้านในเมืองเพื่อไปคุมสอบที่โรงเรียนศรีวิชัยวิทยา ขณะขับรถเรามองไปที่โค้งฟ้าทิศตะวันออก เห็นดวงตะวันส่องแสงสีทองเรืองรองส่องฟากฟ้ายามเช้า มองแล้วก็รู้สึกอบอุ่นและเป็นสุขใจ นานแล้วซินะที่เราไม่ได้เห็นพระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้ายามเช้าเพราะอยู่ในโรงเรียนก็มีแต่อาคารเรียนที่บังจนมองไม่เห็น
คนเรามักพูดถึงแสงทองส่องชีวิต และอยากให้ชีวิตมีแต่แสงทองสดใสส่องสว่างอยู่ตลอดเวลา ซึ่งในความเป็นจริงคงเป็นไปไม่ได้ หากเปรียบชีวิตกับแสงตะวันก็ย่อมมีขึ้นมีลง มีอบอุ่น มีร้อนแรง มีหม่นมัว ชีวิตก็เป็นเช่นนี้ จุดสุดท้ายของทุกคนก็ต้องตกดินเหมือนกันหมด
เราอดทบทวนชีวิตที่ผ่านมาไม่ได้ ชีวิตของเราในยามนี้ก็คงไม่ต่างจากแสงทองที่ส่องเข้ามาบนถนนชีวิตที่ก้าวเดิน หลังจากที่เราเหน็ดเหนื่อยตรากตรำผ่านเรื่องราวทั้งดีและร้ายมากว่าค่อนชีวิต ผ่านความหวัง ความทะเยอทะยาน และเดินตามหาความฝันจนถึงจุดจบที่ต้องการ ตอนนี้ก็เหลือแต่รอประกาศผลงานทางวิชาการเท่านั้น ถ้าผ่าน ชีวิตก็ไม่ได้ต้องการอะไรอีกแล้วเพราะมาถึงจุดอิ่มตัว ถ้าไม่ผ่านก็ดีเหมือนกันนะจะได้รู้รสชาติของความผิดหวังถือว่าเป็นการปฏิบัติธรรมไปในตัว
อนึ่งชีวิตที่ผ่านมาเราไม่เคยสัมผัสความผิดหวังในเรื่องของการเรียน และการทำงานแม้แต่น้อย จำได้ว่าเราเรียนได้ที่หนึ่งเสมอและไม่ยอมแพ้ใครในเรื่องการเรียน การทำงานก็สามารถสอบเข้ารับราชการเพียงครั้งเดียวก็สอบได้ และเมื่อใดที่ต้องการโอนย้ายก็สามารถสอบผ่านได้ตามใจปรารถนา แต่ที่ได้มิใช่เพราะความบังเอิญหากแต่เกิดจากความมุ่งมั่นตั้งใจ และเอาจริงเอาจังต่างหาก
เราเชื่อเรื่องกฎแห่งการกระทำและคำสอนของหลวงปู่โตที่เราพอสรุปความได้ว่า “ลูกเอ๋ย เจ้าไม่จำเป็นต้องขอพรจากเทพหรือจากฟ้า เมื่อเจ้าทำความดีจนถึงที่สุดผีสางนางไม้ก็ไม่มีใครฉุดเจ้าอยู่” ชีวิตที่ผ่านมา นอกจากพยายามทำหน้าที่และมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำสิ่งต่าง ๆ แล้ว สิ่งที่ส่งเสริมให้เราประสบความสำเร็จเสมอมา นั่นคือคุณธรรมประจำตน เกือบยี่สิบห้าปีแล้วซีนะที่เราถือศีลกินมังสวิรัติ ด้วยความสุขใจที่ไม่ต้องเบียดเบียนทำร้ายใครเพราะความอร่อยลิ้น ชั่วครู่ และพยายามเสริมบารมีด้วยการรักษาศีล ๘ ในวันพระ เท่าที่อินทรีย์พละของเราจะทำได้
นอกจากนั้นก็เรื่องของความกตัญญูรู้คุณคนก็สำคัญยิ่ง เงินเดือนของเราเกือบหนึ่งในสามที่ดูแลครอบครัวให้ทุกคนอยู่อย่างมีความสุข เราไม่ปรารถนาขับรถใหม่ ๆ แล้วมีความสุขเพียงคนเดียว ใคร ๆ ก็มักค่อนขอดให้ออกรถใหม่เสมอเงินเดือนก็มากมายไม่สมศักดิ์ศรี แต่เราก็พอใจที่ขับรถเก่าแล้วสามารถแบ่งปันรายได้ให้ทุกคนมีความสุขกันถ้วนหน้า แล้วก็เป็นแบบอย่างที่ดีให้ผู้อื่นได้ชื่นชมเพราะญาติพี่น้องก็มักเล่าขานบอกต่อกันไปถึงความใจดีของเรา จนใคร ๆ ก็เรียกเราว่า “คนใจดี ” กลิ่นของศีลและคุณธรรมมักหอมหวนทวนลมเสมอ
ทุกวันนี้เรารู้สึกมีความสุขกายสบายใจพอสมควร หลังจากที่ปีที่แล้วสุขภาพไม่ดี ตอนนี้ก็พยายามดูแลตนเองจนแข็งแรง ไม่มีโรคภัยใด ๆ แล้ว เรื่องของจิตใจก็รู้สึกว่ามีสิ่งดี ๆ ผ่านเข้ามา ได้มีโอกาสพบเพื่อนกัลยาณมิตรหลายคนที่พยายามแนะนำสิ่งดี ๆ ให้เสมอ ได้รู้จักเพื่อนใหม่ ๆ และ ผู้คนที่ทำงานเพื่อผู้อื่นมีอุดมการณ์เดียวกัน แล้วตัวเราก็พยายามแผ่เมตตา มีความรักให้กับสรรพสิ่งผู้คนบนโลกหล้า เมื่อเรารู้จักรักผู้อื่นก่อนผู้อื่นก็ย่อมรักเรา และเมื่อเราไม่พยาบาทเบียดเบียนใคร เราก็สามารถหยิบยื่นรอยยิ้มให้กับทุกชีวิต ถ้าทุกคนคิด และปฏิบัติเช่นนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม “แสงทองย่อมส่องเข้ามาในชีวิตอย่างแน่นอน” ๑ มีนาคม ๒๕๕๒ |
|
|
ขอให้น้องสาวพี่มีความสุขมากๆนะจ้ะ
สวัสดีค่ะ
***อ่านบันทึกนี้ คิดถึงบทเพลงท่อนหนึ่ง
*** อยากให้ความรักแก่คนทั้งโลก
อากจะให้โชคเพื่อคนทั้งหล้า
อยากให้รอยนิ้มลบคราบน้ำตา
อยากให้ชีวาแก่คนทั้งปวง
***ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติแห่งกรรม เป็นกำลังใจให้นะคะ